รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ตลาดน้ำมันรอการตัดสินใจของยุโรปที่มีต่อรัสเซีย เช่นเดียวกับทองคำที่รอพาวเวลล์

เผยแพร่ 19/04/2565 14:02
อัพเดท 02/09/2563 13:05

การส่งสัญญาณแบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียของยุโรปในสัปดาห์นี้อาจทำให้ราคาน้ำมันขึ้นยืนเหนือ $100 ต่อบาร์เรลอย่างมั่นคงได้ในสัปดาห์นี้ ในขณะเดียวกัน การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนท่ามกลางการล็อกดาวน์โควิดในไตรมาสที่ 1 ก็ถือว่าเป็นประเด็นที่ตลาดให้ความสำคัญ เพราะพวกเขาถือเป็นประเทศผู้ใช้น้ำมันเยอะที่สุดเป็นอันดับสองของโลก WTI Weekly TTM

“การใข้มาตรการควบคุมโควิดทั้งประเทศของจีนดูเหมือนจะเป็นการดำเนินการที่ผิดพลาด ในเมื่อทั้งโลกต่างก็เห็นผลกระทบจากการล็อกดาวน์ที่มีต่อภาคการผลิตและการค้าแล้ว แต่จีนก็ยังเลือกที่จะล็อกดาวน์เพื่อหวังกำจัดโควิดออกไปให้ได้ หากสถานการณ์ยังบานปลายต่อไปเรื่อยๆ เศรษฐกิจของจีนได้หดตัวลดลงโดยไม่ต้องมีเรื่องยูเครนรัสเซียเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน” - เจฟฟี่ ฮัลลีย์ นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าว

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเมื่อวานนี้ระบุว่าตัวเลขการเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่ 1 ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4.8% YoY นี่คือตัวเลขที่เติบโตได้เร็วกว่าช่วงไตรมาสแรกของปีที่แล้ว 4% และมากกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์ประเมินเอาไว้ที่ 4.6%

ความกังวลที่มีต่อจีนและตลาดน้ำมัน

ถึงแม้ว่าตัวเลข GDP จะขยายตัวได้ดี แต่ตัวเลขในส่วนอื่นๆ ยังคงน่ากังวล ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมๆ กับนโยบาย “ซีโร่โควิด” ของจีน ที่มีความต้องการจะกำจัดโควิดออกไปจากประเทศอย่างเด็ดขาด ข้อมูลจากสำนักข่าวที่เชื่อถือได้ระบุว่าจีนเริ่มต้นปี 2022 ได้ดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป อุปสรรคที่ผ่านเข้ามาทั้งหลายดูเหมือนว่าจะสามารถชะลอความเร็วการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างเห็นผล

ยิ่งไปกว่านั้น ธนาคารกลางแห่งประเทศจีนมีความตั้งใจที่จะคงการเติบโตทางเศรษฐกิจเอาไว้ด้วยการทิ้งภาคส่วนที่ไม่มีความสำคัญออกไปก่อน สำหรับฮัลลีย์แล้วเขามองว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะกำลังเข้าใจความหมายของการเติบโตของเงินเฟ้อผิดพลาดไป 

เมื่อข้ามไปดูสถานการณ์ในยุโรปพบว่ามีความเป็นไปได้ที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในด้านพลังงานอาจจะได้โอกาสปรับตัวสูงขึ้นอีก เมื่อสหภาพยุโรปกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มโทษคว่ำบาตรกับรัสเซียให้หนักยิ่งขึ้นกว่าเดิม หากเป็นเช่นนั้นจริงก็จะกระทบต่อราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติโดยตรง คาซูฮิโกะ ไซโตะ หัวหน้านักวิเคราะห์แห่งบริษัท Fujitomi Securities Co Ltd ให้ความเห็นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับรอยเตอร์ว่า

“ตราบใดที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลักยังไม่คิดจะผลิตน้ำมันเพิ่มเพื่อชดเชยส่วนที่ขาดไปของรัสเซีย ก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าสัปดาห์นี้จะต้องเป็นขาขึ้นของตลาดน้ำมันอย่างแน่นอน ขาขึ้นของราคาน้ำมันให้ความร้อนในสหรัฐฯ เมื่อเร็วๆ นี้ก็มาจากสาเหตุนี้เช่นกัน ความคาดหวังของตลาดที่เชื่อว่าสหรัฐฯ จะเป็นผู้ส่งน้ำมันไปยังยุโรปทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นตาม”

ความตึงเครียดระหว่างยุโรปรัสเซียและตลาดน้ำมัน

สัปดาห์ที่แล้วมีข่าวว่าสหภาพยุโรปกำลังร่างรายละเอียดการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียให้หนักขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าเยอรมันจะไม่เห็นด้วยมากเท่าไหร่ก็ตาม ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดุเดือด ณ เมืองมาริอูโปลของยูเครน ที่ทหารเจ้าของประเทศปฏิเสธที่จะยอมแพ้แม้กองทัพรัสเซียจะรุกคืบอย่างหนัก หวังปิดทางออกสู่ทะเลของยูเครนให้ได้

การรุกรานหรือคำว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ที่รัสเซียใช้รุนแรงขึ้นจนสำนักข่าวในรัสเซียเริ่มประโคมข่าวว่าใกล้จะยึดเมืองท่าสำคัญนี้ได้แล้ว องค์การด้านพลังงานสากลระบุว่าถ้าการคว่ำบาตรจากยุโรปครั้งนี้เกิดขึ้น นั่นอาจจะหมายถึงน้ำมันจากรัสเซียที่หายไปอีกเกือบ 3 ล้านบาร์เรล สำนักข่าว Interfax รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ในช่วงครึ่งเดือนแรกของมีนาคม กำลังการผลิตน้ำมันในรัสเซียลดลงไปแล้ว 7.5% และมีแนวโน้มจะลดลงอีกในเดือนนี้Brent Weekly TTM

ราคาน้ำมันในช่วงเปิดตลาดการซื้อขายเมื่อวานนี้ (เวลา 02:18 PM ตามเวลาท้องถิ่นสิงคโปร์) พบว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.03% มีระดับราคาซื้อขาย ณ ตอนนั้นอยู่ที่ $106.41 ต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 0.04% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $111.75 ต่อบาร์เรล ซึ่งในสัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เมื่อวันพฤหัสบดีมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $111.70 เพิ่มขึ้น 8.7% ตลอดทั้งสัปดาห์ และ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.8%

Sunil Kumar Dixit หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านเทคนิคของ skcharting.com ให้ความเห็นต่อสถานการณ์ของราคาน้ำมันว่า

“มีโอกาสที่สัปดาห์นี้จะได้เห็นราคาน้ำมันวิ่งขึ้นไปถึง $119 ต่อบาร์เรล ขาขึ้นจาก $92.90 ถึง $106 ต่อบาร์เรลคิดเป็นการเพิ่มขึ้นทีเดียว $14 ตราบใดที่ราคาน้ำมันยังสามารถยืนเหนือ $104.50 ซึ่งเป็นแนวรับ 38.2% ของ Fibonacci ได้่ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบโซนราคาถัดไปที่ $110-$112, $114-$116 หรือแม้กระทั้งขึ้นไปถึง $119 ได้ แต่หากหลุดแนวรับ $104.50 ลงไป ให้พิจารณาแนวรับถัดไปเอาไว้ที่ $96.50 ต่อบาร์เรล”  

สถานการณ์ทองคำกับธนาคารกลางสหรัฐฯ

ทองคำ สินทรัพย์สำรองปลอดภัยประเภทแร่โลหะมีค่าที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาลกำลังรอถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) เกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 3-4 พฤษภาคม ซึ่งจะเป็นจุดตัดสินทางเศรษฐกิจโลกที่สำคัญอีกครั้ง นอกจากถ้อยแถลงในวันพฤหัสบดีแล้ว สัปดาห์นี้พาวเวลล์ยังมีคิวที่จะต้องร่วมประชุมกับประธานธนาคารกลางยุโรปนางคริสตีน ลาการ์ด และผู้กำหนดนโยบายการเงินจากธนาคารกลางอื่นๆ ด้วย Gold Weekly TTM

เป็นที่ทราบกันดีว่าก่อนหน้านี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 0.25% ซึ่งในสายตาของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ พวกเขามองว่ายังไม่เพียงพอที่จะกดเงินเฟ้อในอเมริกาลงมา ล่าสุดตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนมีนาคมปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 8.5% เติบโตเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 1981 ถึงกระนั้น ว่าทีรองประธานเฟดคนใหม่นางเลล์ แบร์นาร์ดก็ยังให้ความเห็นเมื่อวันอังคารที่แล้วว่าธนาคารกลางไม่ลังเลที่จะใช้มาตรการใดๆ ก็ได้ที่สมควรในการคุมเงินเฟ้อ

ตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาสูงที่สุดในรอบ 40 ปีได้ทำให้ราคาทองคำล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนมิถุนายนบนตลาด COMEX ปรับตัวขึ้น 0.6% มีราคาซื้อขายสูงสุดเมื่อวานนี้อยู่ที่ $1,987 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาทองคำก็ได้ขยับตัวขึ้น 1.7% เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่วิ่งขึ้นมาทั้งหมด 1.2% 

นอกจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ประธานเฟดบางสาขาก็มีคิวแถลงต่อสื่อมวลชนไม่ว่าจะเป็นเจมส์ บลูราร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์ หลุยส์ ชาร์ลี อีแวน ประธานเฟดสาขาชิคาโก และนางแมร์รี่ ดาลีย์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้จากรายงานการประชุม FOMC ฉบับล่าสุดคือคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปต้องมีอย่างน้อย 0.50%

ก่อนหน้านี้ เจมส์ บลูราร์ดเคยให้ความเห้นต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปีนี้ว่าต้องทำให้ได้อย่างน้อย 3.5% ในช่วงครึ่งปีหลังของ 2022 เขาเคยกล่าวหลายครั้งแล้วว่านโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปัจจุบันยังห่างไกลที่จะไล่ตามเงินเฟ้อได้ทัน เขาเป็นคนที่เสนอให้ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในทุกๆ การประชุมอีกหกครั้งที่เหลือของปีนี้อีกด้วย

สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคของราคาทองคำสปอต Sunil Kumar Dixit ให้ความเห็นว่า

“อินดิเคเตอร์ RSI และ Stochastic ยังชี้ไปในทิศทางขาขึ้น ดังนั้นหากจะให้ขาขึ้นแข็งแกร่งกว่านี้ กราฟต้องสามารถขึ้นยืนเหนือ $1,980 ให้ได้เป็นอันดับแรก เพื่อเปิดทางขึ้นต่อไปยัง $2,001 และ $2,015 แต่ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ที่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรมากนัก ราคาทองคำอาจมีโอกาสย่อตัวลงไปทดสอบแนวรับ $1,959 และ $1,932 ก่อน” 

นอกจากนี้ Dixit ยังเตือนนักลงทุนด้วยความควรจับตาดูสถานการณ์ของตลาดผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีและ 30 ปีเอาไว้ด้วย เพราะถ้าเกิดสัญญาณภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจออกมาบ่อยๆ อาจทำให้ทองคำและดอลลาร์สหรัฐได้หรือเสียประโยชน์จากเหตุการณ์นี้

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย