อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้คงจะหนีไม่พ้นการประกาศแตกพาร์หุ้นในอัตราส่วน 20:1 ของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่แอมาซอน (NASDAQ:AMZN) การแตกพาร์ครั้งนี้ของหุ้นแอมาซอนเป็นการแตกพาร์ครั้งแรกในรอบ 23 ปี นับตั้งแต่ปี 1999 ความเคลื่อนไหวนี้จะทำให้ราคาหุ้นแอมาซอนมีความน่าดึงดูดมากขึ้น สำหรับนักลงทุนที่ไม่ยินดีที่จะซื้อหุ้นแอมาซอนในราคาสูง
หลังจากการประกาศเมื่อวันพุธ หุ้นแอมาซอนดีดตัวขึ้นทันที่ 11% ในช่วงก่อนปิดตลาดการลงทุนในสหรัฐอเมริกา สวนทางกับเทรนด์ขาลงที่ปกคลุมตลาดจากสภาวะเงินเฟ้อ และแรงกดดันจากไฟสงครามในยุโรปตะวันออก หากนับตั้งแต่การแตกพาร์ครั้งก่อนในปี 1999 มาจนถึงระดับราคาปัจจุบัน ตอนนี้หุ้นแมาซอนวิ่งขึ้นมาแล้วมากกว่า 4,000% มีราคาปิดล่าสุดเมื่อวานนี้อยู่ที่ $2,936.57
ข้อมูลในอีเมล์ของบริษัทที่ประกาศออกมาเป็นทางการนั้นเขียนว่าจุดประสงค์ของการแตกพาร์หุ้นเป็นไปเพื่อให้พนักงานของแอมาซอนสามารถจัดการบริหารหุ้นในมือได้อย่างหยืดหยุ่นมากขึ้น และทำให้ผู้ที่สนใจลงทุนเข้าถึงหุ้นแอมาซอนได้ง่ายขึ้น ขั้นตอนการแตกพาร์หุ้นนั้นจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากบรรดาผู้ถือหุ้นของบริษัท หากไม่มีอะไรผิดพลาด การแตกพาร์หุ้นจะมีผลจริงๆ ในช่วงเดือนมิถุนายนปีนี้
หากพูดกันตามเทคนิคแล้ว การแตกพาร์หุ้นไม่ได้ทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทหรือผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น แต่วิธีนี้ทำไปเพื่อลดราคาหุ้นที่แต่ละคนสามารถถือครองได้ ซึ่งจะทำให้ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงหุ้นของบริษัทนั้นๆ ได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้นที่มีราคาสูงเกินกว่านักลงทุนรายย่อยจะเอื้อมถึง นอกจากแอมาซอนแล้ว ก่อนหน้านี้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล (NASDAQ:AAPL) และเทสลา (NASDAQ:TSLA) ก็เคยประกาศแตกพาร์หุ้นไปในช่วงที่การระบาดของโควิด-19 ยังสร้างผลกระทบกับหุ้นของบริษัทอยู่
ความลับของการเอาตัวรอดในยามที่ไม่มีอะไรแน่นอน
หุ้นแอมาซอนกลายเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดหลังจากเสียมูลค่าไปหนึ่งในสี่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ขาลงจากจุดสูงสุดตลอดกาลเริ่มต้นขึ้นเมื่อแอมาซอนต้องเจอกับแรงกดดันด้านต้นทุน อันเป็นผลมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในตอนนั้นแอมาซอนมีอุปสรรคด้านอุปทาน การขาดแคลนแรงงาน และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น
ถึงแม้ว่าปัจจุบันแอมาซอนก็ยังต้องพยายามฝ่ามรสุมลูกนี้อยู่ แต่นักลงทุนก็ไม่อาจดูเบาธุรกิจ e-commerce ของแอมาซอนได้ นักลงทุนไม่ควรมองข้ามกำลังหลักที่สามารถช่วยบริษัททำกำไรได้ ที่ไม่ใช่แค่การเป็นยักษ์ใหญ่ด้านโลจิสติกส์ หรือการขายหนังสือ แต่เป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์ (AWS) และการรับฝากโฆษณา
หากนับตั้งแต่ปี 2020 ที่มีโรคระบาดเกิดขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน กำไรจากธุรกิจคลาวด์ของแอมาซอนยังสามารถเติบโตขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง ลูกค้าสามารถใช้พื้นที่คลาวด์นี้ในการเก็บรักษาข้อมูล หรือทำงานร่วมกันคนอื่นๆ ในองค์กรได้แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ในไตรมาสที่แล้ว กำไรจากธุรกิจคลาวด์และการฝากโฆษณาเยอะพอที่จะชดเชยกำไรจากส่วนอื่นๆ ที่หดตัวลดลง และเมื่อเศรษฐกิจอเมริกาเริ่มกลับมาฟื้นตัว จึงไม่ต้องแปลกใจที่จะได้เห็นรายงานผลประกอบการของบริษัทแอมาซอนกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง
ภาพรวมอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้นักวิเคราะห์ 50 คนจาก 52 คนของ Investing.com ยกให้หุ้นแอมาซอนอยู่ระดับ “โดดเด่น” และเชื่อว่าภายในระยะเวลา 12 เดือน มีโอกาสได้เห็นหุ้นแอมาซอนปรับตัวขึ้นอีกประมาณ 39.3%
อ้างอิง: Investing.com
แม้แต่ธนาคารชื่อดังส่วนใหญ่ก็ยังมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน แบงก์ออฟอเมริกา (BofA) ยกให้หุ้นแอมาซอนเป็นตัวเลือกที่น่าลงทึนที่สุดของปี 2022 โดยให้เหตุผลว่าผู้ถือหุ้นจะได้กำไรยาวๆ ไปจากปี 2023 - 2025 เพราะการเติบโตของกำไรในธุรกิจคลาวด์ การฝากโฆษณา และการเปิดพื้นที่ให้ค้าขายออนไลน์ ในความเห็นที่คล้ายกัน ธนาคารบลาเคลย์ให้ความเห็นกับหุ้นแอมาซอนเอาไว้ว่า
“อัตรากำไรจากการค้าปลีกในปี 2022 ของแอมาซอนเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องไปยังธุรกิจที่มีความสามารถในการทำกำไรสูงเช่น AWS และการเปิดพื้นที่รับฝากโฆษณา เราเชื่อว่าในปีนี้จะได้เห็นการปรับประมาณการที่สูงขึ้น”
โดยสรุปแล้ว
ในความเห็นของเรา หุ้นแอมาซอนเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการลงทุน ด้วยปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว การแตกพาร์หุ้นคือการเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเติบโตไปพร้อมๆ กันกับบริษัท ยิ่งธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรับประกันได้ว่าต่อให้เจอสถานการณ์ที่ยากลำบากกว่านี้ บริษัทแอมาซอนก็จะสามารถฝ่าฟันไปได้