🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

เฟดบางคนเริ่มเปลี่ยนความคิดเมื่อสถานการณ์ในยูเครนเพิ่มความไม่แน่นอนในการขึ้นดอกเบี้ย

เผยแพร่ 01/03/2565 16:51
LCO
-
CL
-
NG
-

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันกำลังจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของโลกหรือไม่?

สงครามระหว่างรัสเซียยูเครนได้ทำให้บอร์ดบริหารบางคนของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีท่าทีที่เปลี่ยนไป ยกตัวอย่างเช่นสองคนที่เรามักจะไม่คุ้นชื่อเท่าไหร่อย่างมิเชลล์ โบว์แมน และคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ที่กำลังเปลี่ยนไปเห็นดีเห็นงามกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นคนที่พยายามจะออกมาพูดอยู่ตลอดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงมากนัก

มิเชลล์ โบว์แมน อดีตกรรมาธิการธนาคารแคนซัส ก่อนที่จะได้เข้ามาดำรงตำแหน่งในธนาคารกลางสหรัฐในปี 2018  แถบจะไม่เคยกล่าวถึงนโยบายการเงินเลย แต่เมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกที่เธอออกมาแสดงความเห็นต้องการให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ตามข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจในระยะหลังที่ออกมา

“ฉันตั้งใจที่จะสนับสนุนการตัดสินใจใดๆ ก็ตามที่จะทำให้เงินเฟ้อในปัจจุบันลดต่ำลง” - เธอกล่าวในงานประชุมของสมาคมนายธนาคารแห่งอเมริกาที่รัฐแคลิฟอร์เนีย 

ทำไมคำพูดของโบว์แมนถึงสำคัญ? เพราะเธอเป็นหนึ่งในเก้าของผู้มีสิทธิ์โหวตกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปีนี้ ไม่ว่าเธอจะชอบออกมาพูดในที่สาธารณะหรือไม่ การตัดสินใจของเธอย่อมมีผลกระทบต่อการวางนโยบายการเงินของสหรัฐอเมริกา ในเวลาที่ใกล้กัน นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ อีกหนึ่งคนที่มีสิทธิ์โหวตวางนโยบายการเงินในปีนี้เรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ภายในช่วงกลางปีนี้ 

“ที่ผ่านมาเรา (เฟด) พูดมาตลอดว่ามีเครื่องมือพร้อมในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องใช้เครื่องมือเหล่านั้นจริงๆ แล้ว สำหรับเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตามความเห็นของผมอยากจะให้ขึ้นอย่างน้อย 0.50% หากว่าเงินเฟ้อยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง” - วอลเลอร์กล่าวในงานสัมมนาของมหาลัยแคลิฟอร์เนีย เพื่อส่งสาส์นไปถึงประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ชอบออกมาให้ความมั่นใจแก่สาธารณชน แต่ไม่ยอมลงมือทำอะไรสักอย่างอย่างจริงจัง

เมื่อวันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ สหรัฐอเมริกาได้มีการประกาศดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Index) ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่มาตรวัดเงินเฟ้อหลักของธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัวเลข PCE ของเดือนมกราคมที่ออกมานั้นเพิ่มขึ้นเป็น 5.9% จาก 4.9% ในเดือนธันวาคม ในขณะที่ตัวเลข PCE พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 6.1% สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1983 และ 1982

ความจำเป็นในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกา เมื่อต้องมาเจอกับตัวแปรสำคัญอย่างสงครามระหว่างรัสเซียยูเครน ทำให้การประชุมอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 15-16 มีนาคมนี้ยิ่งต้องจับตาให้ความสำคัญมากขึ้นไปอีก ล่าสุดประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำของรัสเซียสั่งให้วาง "กองกำลังป้องปราม" ซึ่งถืออาวุธนิวเคลียร์ให้เตรียมตัว ในขณะที่สหภาพยุโรป 27 ชาติตัดสินใจเมื่อวันอาทิตย์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในการจัดหาอาวุธให้กับประเทศยูเครน

ความอุกอาจของปูตินทำให้ธนาคารหลายแห่งของรัสเซียถูกขับออกจากการใช้งาน SWIFT ระบบการทำธุรกรรมทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก นี่คือการลงโทษจากชาติตะวันตกที่รุนแรงที่สุด และเป็นความพยายามที่จะกดดันรัสเซียให้ยอมถอยทัพออกจากยูเครน เมื่อไม่สามารถใช้สกุลเงินรูเบิลของรัสเซียได้ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐอาจตัดสินใจชะลอแผนขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปก่อน เพื่อให้ธนาคารทั่วโลกมีดอลลาร์เพียงพอรับมือกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นความพยายามก่อสงคราม หรือการคว่ำบาตรจากตะวันตก ได้ทำให้ราคาพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะรัสเซียเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันให้กับโลก 10% และเป็นผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไปให้กับยุโรปมากถึง 40% ความกังวลว่าจะขาดแคลนพลังงานได้ทำให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สามารถขึ้นยืนเหนือ $100 ต่อบาร์เรล ปัญหานี้จะส่งผลกระทบต่อผลการประชุมของเฟดในเดือนนี้อย่างมีนัยสำคัญแน่นอน

โรแรตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ และเป็นหนึ่งในผู้มีสิทธิ์โหวตนโยบายการเงินของเฟดในปีนี้ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า

“การขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังเป็นสิ่งที่สมควรทำ และต้องเริ่มตั้งแต่ในเดือนมีนาคม หลังจากนั้นก็ต้องขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนถัดไปเรื่อยๆ ภาพรวมของสถานการณ์ระหว่างรัสเซียยูเครนจะถูกนำมาประเมินในการประชุมครั้งนี้แน่นอน เราจะพิจารณาอย่างจริงจังว่าสมควรแก่การยกเลิกมาตรการต่างๆ ที่สนับสนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายหรือไม่”

นอกจากโรแรตต้า ประธานเฟดสาขาอื่นๆ ก็ออกมายืนยันเหมือนกันในสัปดาห์ที่แล้วว่าเฟดจะไม่เปลี่ยนแผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์บางคนได้ออกมาเตือนว่าผลลัพธ์ของสงครามครั้งนี้อาจจะเกินจินตนาการกว่าที่เฟดจะคิดได้ไปมาก และถ้าประเมินผิดขึ้นมา ก็จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของอเมริกาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย