ความผันผวนที่ทวีความรุนแรงขึ้นกดดันตลาดหุ้น หนุนราคาทองคำ

เชื่อว่าตอนนี้นักลงทุนทุกคนคงทราบดีว่ามีปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้างที่กำลังกดดันตลาด และส่งเสริมให้มีความความผันผวนเพิ่มขึ้นในตลาดทุน หากตัดเรื่องความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดออกไป สัปดาห์นี้สิ่งที่นักลงทุนควรจับตาดูในการลงทุนกับตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาคือดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Index) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐ และปฏิกริยาของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังจากได้เห็นตัวเลข PCE นี้

นอกจากตัวเลขเศรษฐกิจ และความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนก็จะยังคงดำเนินต่อไปถึงแม้ว่าจะไม่มีบริษัทชื่อดังแล้ว บริษัทในกลุ่มค้าปลีกอย่างเช่นโฮม ดีโป (NYSE:HD) ห้างเมซี่ (NYSE:M) จะรายงานผลประกอบการ และยังมีบริษัททางด้านพลังงานอีกอย่างเช่น Occidental Petroleum (NYSE:OXY) และ Coterra Energy (NYSE:CTRA)

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีหลักทั้งสี่ของสหรัฐอเมริกาได้แก่เอสแอนด์พี 500 แนสแด็ก ดาวโจนส์และรัสเซล 2000 ต่างก็ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน นับเป็นครั้งแรกที่ดัชนีทั้งสี่ฝ่าแนวรับนี้ลงมาได้ตั้งแต่เคยตัดขึ้นจากจุดต่ำสุดปี 2020 ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 1.9% แนสแด็ก 1.8% และเอสแอนด์พี 500 1.6% ซึ่งถ้านับตั้งแต่ต้นปี 2022 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นการสร้างขาลงมาแล้วทั้งสิ้น 8.8%

รูปนี้แสดงให้เห็นความเป็นไปได้ที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 กำลังจะพลิกกลายเป็นขาลง ตอนนี้การสร้างไหล่ซ้าย ส่วนหัว และไหล่ขวา ของรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งการตัดเส้น 200 วันลงมา ยิ่งเป็นการยืนยันความเป็นไปได้นี้

สัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีที่มักจะวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับตลาดหุ้น ดูเหมือนว่ามีโอกาสจะสร้างขาขึ้นต่อเนื่อง

ในสามวันสุดท้ายของสัปดาห์ที่แล้ว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรฯ 10 ปีเกิดการสร้างขาลง แต่ดูเหมือนว่าจะยังได้แนวรับ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมรองเอาไว้ ต่อให้กราฟ 10 ปีจะกลับลงไปที่ 1.8% ส่วนตัวเราเชื่อว่าเป็นเพียงการย่อระยะสั้น เพื่อที่จะกลายเป็นขาขึ้นต่อในระยะยาว ยิ่งอัตราผลตอบแทนขึ้นสูงเท่าไหร่ ยิ่งหมายความว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะยิ่งกดดันตลาดหุ้นมากเท่านั้น 

ช่วงสองวันสุดท้ายของสัปดาห์ที่แล้ว ดอลลาร์สหรัฐก็แข็งค่าด้วยเช่นกัน ถึงกระนั้นขาขึ้นนี้ก็ยังวิ่งอยู่ในกรอบไซด์เวย์ ที่กินเวลายาวนานมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนหน้าอาจส่งดัชนีดอลลาร์สหรัฐให้ทะยานขึ้น จนกลายเป้นแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน

อีกหนึ่งสินทรัพย์ที่โดดเด่นเป็นอย่างมากในสัปดาห์ที่แล้วคือทองคำ เมื่อราคาสามารถวิ่งขึ้นกลับมาทดสอบจุดสูงสุด $1,900 ได้สำเร็จ แม้จะยังไม่สามารถปิดเหนือระดับราคาดังกล่าวได้ แต่ด้วยสถานการณ์การเป็นสินทรัพย์สำรองปลอดภัย กับสถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ มีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อ

จากรูป เราจะเห็นว่าทองคำวิ่งอยู่ในกรอบราคาขาขึ้น (สีเขียว) แต่การที่ทองคำพึ่งจะทะลุกรอบสามเหลี่ยมสมมาตร (เส้นเทรนด์ไลน์สีเขียว) ขึ้นมาได้ ราคายังมีโอกาสที่จะย่อลงมาทดสอบแนวรับนี้อีกครั้ง ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อไป

หรือมนต์ขลังในฐานะสินทรัพย์สำรองของสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์จะสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้? หลังจากที่ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นมาได้สักพัก ตอนนี้ดูเหมือนว่าแนวรับที่ไม่สมควรจะหลุดลงมาได้อย่าง $40,000 จะพยุงราคาไม่อยู่เสียแล้ว

บิทคอยน์ร่วงลงไปวิ่งต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน และดูเหมือนว่าจะมีโอกาสปรับตัวลงต่อไปเรื่อยๆ ความพยายามเล็กๆ ของขาขึ้นที่ดูเหมือนจะเป็นหัวไหล่ขาขึ้น ตอนนี้ฝันนั้นอาจจะต้องสลายไปเสียแล้ว

แม้ว่าภาพรวมจะยังคงเป็นขาขึ้น แต่ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลงครั้งแรกในรอบเก้าสัปดาห์ล่าสุด สถานการณ์ที่นักลงทุนให้น้ำหนักกับตลาดน้ำมันมากที่สุดคือความตึงเครียดระหว่างรัสเซียยูเครน และความสามารถในการผลิตน้ำมันของอิหร่าน

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ (เวลาทั้งหมดคำนวณเป็น EST)

วันจันทร์

03:30 (เยอรมัน) ดัชนี PMI ภาคการผลิต: คาดว่าจะลดลงจาก 59.8 เป็น 59.5 จุด

04:30 (สหราชอาณาจักร) ดัชนี PMI ภาคการผลิต: ครั้งก่อนออกมาอยู่ที่ 57.3 จุด

04:30 (สหราชอาณาจักร) ดัชนี PMI ภาคการบริการ: ครั้งก่อนออกมาอยู่ที่ 54.1 จุด

08:15 (ประเทศจีน) รายงานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารกลาง: ตัวเลขครั้งก่อนอยู่ที่ 3.70%

วันอังคาร

04:00 (เยอรมัน) ดัชนีวัดบรรยากาศทางธุรดิจโดย Ifo: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 95.7 เป็น 96.5 จุด

10:00 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจาก CB: คาดว่าจะลดลงจาก 113.8 เป็น 109.8

20:00 (นิวซีแลนด์) การประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 0.75% เป็น 1.00%

วันพุธ

05:00 (ยูโรโซน) ดัชนีราคาผู้บริโภค: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 5.0% เป็น 5.1%

วันพฤหัสบดี

08:15 (สหราชอาณาจักร) ถ้อยแถลงจากผู้ว่าธนาคารกลาง

08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลข GDP: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 6.9% เป็น 7.0%

08:30: (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก: คาดว่าจะลดลงจาก 248K เป็น 235K

10:00 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขยอดขายที่อยู่อาศัยใหม่: คาดว่าจะลดลงจาก 811K เป็น 807K

11:00 (สหรัฐฯ) รายงานปริมาณน้พมันดิบคงคลัง: สัปดาห์ที่แล้วออกมาอยู่ที่ 1.121 ล้านบาร์เรล

วันศุกร์

02:00 (เยอรมัน) รายงานตัวเลข GDP: คาดว่าจะคงที่อยู่ที่ -0.7% QoQ

08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน: คาดว่าจะลดลงจาก 0.6% เป็น 0.4% 

10:00 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขยอดขายที่อยู่อาศัยมือสอง: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก -3.8% เป็น 0.5%

(ยังไม่ยืนยัน) (สหรัฐฯ) รายงานนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ