หลังจาก Meta Platforms (NASDAQ:FB) พลาดเป้าความคาดหวังหลังเผย รายได้ไตรมาสที่ 4 ในวันพุธ หลังปิดเซสชั่นของสหรัฐฯ และยังผิดหวังกับแนวทางของโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ หุ้นจึงถูกเทขายก่อนเปิดตลาดในวันพฤหัสบดี ราคาหุ้นปิดที่ 323 ดอลลาร์วานนี้ แต่ขณะที่กำลังเขียนบทความนี้ หุ้นอยู่ที่ระดับ 250 ดอลลาร์ โดยลดลงมากกว่า 22%
Facebook ประกาศรายรับต่อหุ้นที่ 3.67 ดอลลาร์ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ 3.85 ดอลลาร์รายรับรวมเพิ่มขึ้น 20% สู่ 33.67 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 33.34 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เป็นแนวทางของบริษัท Menlo Park ในแคลิฟอร์เนียสำหรับรายรับไตรมาสแรกที่มีแนวโน้มว่าจะทำให้หุ้นร่วงลง ตัวชี้วัดนั้นคาดว่าจะอยู่ในช่วง 27-29 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นการเติบโต 3% ถึง 11% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 30.2 พันล้านดอลลาร์
บริษัทได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนจากการเปลี่ยนแปลงกฏความเป็นส่วนตัวของซอฟต์แวร์มือถือ iOS (NASDAQ:AAPL) จาก Apple ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้เลือกงานปิดกั้นการติดตามข้อมูลการใช้งานจากบริษัท ซึ่งลดความสามารถของ Facebook ในการขายโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายจากการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ใช้งานจำนวนมาก
การล่มสลายของตลาดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการลดลงเพิ่มเติมสำหรับหุ้น Facebook หรือนักลงทุนที่ช้อนซื้อหุ้นจะช่วยให้ราคาหุ้นขยับไปในอีกทิศทาง?
สิ่งต่าง ๆ ดูไม่สดใส หุ้น Meta เกือบจะเข้าสู่ตลาดหมีอย่างแน่นอนแล้ว เมื่อราคาก่อนเปิดตลาดทำการเปลี่ยนแปลงในวันพฤหัสบดี เพิ่มความกดดันให้หุ้น การขยับลง 50 DMA ทำให้มีโอกาสที่จะลงมาต่ำกว่า 200 DMA ตามด้วยการลดลงอีก 100 DMA ทำให้ลงมาต่ำกว่า 200 DMA เป็นสัญญาณขาลงอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม หลังจากการล่มสลายครั้งใหญ่ อย่างน้อยที่สุดเราก็คาดว่า "การเด้งกลับของราคา(dead cat bounce)" ซึ่งจะเกิดกับหุ้นที่ร่วงหนักมาก แม้ว่าจะเป็นแมวที่ตายแล้ว ตกจากที่สูงมันก็ก็ยังเด้งกลับมาได้(นิดหน่อย)
นอกจากนี้ หากราคาเปิดขึ้นในช่วงก่อนเปิดตลาด ราคาจะเกิดขึ้นใกล้ระดับต่ำสุดในเดือนกันยายน-มกราคม ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแนวรับ หากเป็นเช่นนั้น ราคาจะกลับขึ้นไปปิดที่เส้นสีเขียวที่ราคา 245 ดอลลาร์
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย ควรรอให้ราคาสูงสุดใหม่ที่ทำให้หุ้นกลับมาอยู่ในภาวะตลาดกระทิง หรืออย่างน้อยให้แนวโน้มขาขึ้นกลับมา อีกทางหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงกับดักหมี ควรรอให้ H&S ระดับสูงสุดเสร็จสิ้น โดยกลับไปปิดที่ระดับต่ำกว่า 240 ดอลลาร์และการเคลื่อนไหวย้อนกลับไปอยู่ที่แนวต้าน
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง ควรเข้าในจังหวะที่หุ้นมีโวลุ่มการซื้อมากขึ้น หรือขายกรณีที่ราคาหุ้นลงไปต่ำกว่า 245 ดอลลาร์
นักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้มาก ควรเข้าตำแหน่ง long โดยอาศัยการสนับสนุนของระดับต่ำสุดก่อนหน้า และความเป็นไปได้ของการเด้งกลับของแมวตาย(dead cat bounce) อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกลุ่มนี้ต้องเข้าใจว่าเราไม่มีทางรู้ได้ว่าการค้าขายแต่ละรายการจะประสบความสำเร็จหรือไม่ พวกเขาควรตั้งเป้าที่จะทำผลงาน โดยการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอตามแผนการบริหารเงิน นี่คือตัวอย่างการเทรด:
ตัวอย่างการเทรด
- จุดเข้า: 250 ดอลลาร์
- Stop-Loss: 244 ดอลลาร์
- ความเสี่ยง: 6 ดอลลาร์
- เป้าหมายในการทำกำไร: 286 ดอลลาร์
- ผลตอบแทน: 36 ดอลลาร์
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:6