- บริษัทจะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2021 ในวันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด
- คาดการณ์ตัวเลขผลกำไร: $7,710 ล้านเหรียญสหรัฐ
- คาดการณ์ตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้น: $0.8454
ในยุคที่การรับชมซีรีส์หรือภาพยนตร์แบบสตรีมมิ่งไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป ทำให้หลายคนเชื่อว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเน็ตฟลิกซ์ (NASDAQ:NFLX) อีกไม่ช้าก็คงถึงกาลอวสาน นอกจากจะถูกดึงผู้บริโภคไปยังแพลตฟอร์มอื่น เน็ตฟลิกซ์ยังมีปัญหากับการดึงดูดให้ผู้ใช้งานเข้ามาสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้น
แต่ดูเหมือนว่าข้อครหานี้จะต้องตกไป เมื่อเน็ตฟลิกซ์ยังคงยึดมั่นในแนวทางเดิม เชื่อว่าคุณภาพของภาพยนตร์คือทุกสิ่ง ทำให้ในปี 2021 เน็ตฟลิกซ์มีซีรีส์ใหม่มากมาย ที่สามารถดึงดูดและสร้างกระแสให้กับวงการภาพยนตร์ และหนึ่งในนั้นคือกระแสซีรีส์มาแรงอย่าง ‘สควิด เกม’ (Squid Game) ที่ใครๆ ต่างก็พูดถึงกันในช่วงไตรมาสที่ 3 ความนิยมของซีรีส์สัญชาติเกาหลีเรื่องนี้ทำให้เน็ตฟลิกซ์คาดการณ์ว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2021 พวกเขาอาจจะมียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นมากถึง 8.5 ล้านคน หากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง จะช่วยให้หุ้นเน็ตฟลิกซ์ให้สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้
ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2021 เน็ตฟลิกซ์สามารถเพิ่มผู้ใช้งานขึ้นได้เพียง 5.5 ล้านคนเท่านั้น แต่หลังจากจากระแสของซีรีส์สควิด เกม ซีซันใหม่ของ ‘เดอะ วิชเชอร์’ (The Witcher) และ ‘เซ็กซ์ เอดดูเคชัน’ (Sex Education) อาจเป็นตัวเปลี่ยนกระแสความตกต่ำนั้นในไตรมาสที่ 4 แต่ความเป็นจริงก็คือหลังจากที่กระแสเหล่านั้นจบลง ประกอบกับเป็นปีที่ไม่มีใครอยากถือหุ้นสายเติบโตอีกต่อไป ทำให้หุ้นเน็ตฟลิกซ์ได้ปรับตัวลดลงมา 16% ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2022 จนถึงปัจจุบัน
หากนับตั้งแต่จุดสูงสุดตลอดกาลในเดือนพฤศจิกายนมาจนถึงราคาปิดปัจจุบันที่ $515.86 ตอนนี้หุ้นเน็ตฟลิกซ์ร่วงลงมาแล้วทั้งหมด 26.5% แต่ในสายตานักวิเคราะห์หลายคน พวกเขากลับมองว่านี่คือโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นเน็ตฟลิกซ์ ด้วยเหตุผลที่ว่าคุณภาพของภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่เน็ตฟลิกซ์ได้พิสูจน์มาแล้วว่าเพชรแท้ไม่ว่าจะผ่านร้อนอย่างไรก็ยังคงเป็นเพชรแท้
โอกาสขาขึ้นอีก 30% จากราคาหุ้นปัจจุบัน
โพลผลสำรวจจากนักวิเคราะห์ของ Investing.com 44 คนประเมินว่าหุ้นเน็ตฟลิกซ์มีโอกาสขึ้นจากระดับราคาปัจจุบันอีก 30% ซึ่งหมายความว่านี่คือการเพิ่มระดับราคาเป้าหมายหุ้นเน็ตฟลิกซ์ในรอบ 12 เดือนขึ้นเป็น $672.71 อันที่จริงการที่เน็ตฟลิกซ์กล้าปรับค่าสมาชิกขึ้นอีก $1.50 เป็น $15.49 ก็เท่ากับว่าบริษัทยังมั่นใจในความเป็นยักษ์ใหญ่แห่งวงการสตรีมมิ่งอยู่
ที่มา: Investing.com
ไม่ใช่เฉพาะนักวิเคราะห์จาก Investing.com แต่นักวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนอื่นๆ ก็มีความเห็นที่ตรงกัน แบงก์ ออฟ อเมริกา ยังคงให้อันดับของหุ้นเน็ตฟลิกซ์เอาไว้ที่ “ควรซื้อ” ก่อนรายงานผลประกอบการ พวกเขาให้เหตุผลว่า
“เรายังเห็นโอกาสการเติบโตของหุ้นเน็ตฟลิกซ์ตราบใดที่บริษัทยังให้ความสำคัญกับการลงทุนทำภาพยนตร์ที่มีความเข้าใจผู้บริโภคตามแต่ละภูมิภาค”
สตีเวน คาฮอลล์ นักวิเคราะห์จาก เวลล์ ฟาร์โก คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีโอกาสได้เห็นหุ้นเน็ตฟลิกซ์ที่ $800 เขาให้เหตุผลว่า
“คอนเทนต์ยอดนิยม ยอดผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น และเงินทุนที่มีมากขึ้นคือปัจจัยผลักดันให้หุ้นเน็ตฟลิกซ์ยังสามารถเติบโตขึ้นได้ต่อ เมื่อเน็ตฟลิกซ์สร้างคาแรคเตอร์ขึ้นมาแล้วว่าคอนเทนต์คือหัวใจหลักในการผลิต พวกเขาสามารถลดต้นทุนในส่วนอื่นที่ไม่จำเป็นเช่นค่าตัวนักแสดงที่แพงเกินไป และนำเงินส่วนนั้นไปผลิตภาพยนตร์หรือซีรีส์ใหม่ๆ ได้”
โดยสรุปแล้ว
เน็ตฟลิกซ์เสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน และยังคงยึดมั่นกับคติประจำใจของตัวเองหลังการระบาดใหญ่ และนั่นได้นำไปสู่ ภาพยนตร์ ซีรีส์ รายการทีวีโชว์ยอดนิยมล่าสุดที่เรากำลังรับชมอยู่ ณ ตอนนี้ เน็ตฟลิกซ์ยอมรับว่าอยู่ในจุดที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่งที่ดุเดือด แต่พวกเขาก็มั่นใจว่ายังสามารถรักษาความเป็นผู้นำเอาไว้ได้ รายงานผลประกอบการ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ตามเวลาประเทศไทย จะสามารถพิสูจน์ความเชื่อนั้นได้เป็นอย่างดี