Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,650-1,680 จุด เราคาดว่า SET ยังมี Sentiment เชิงลบต่อเนื่อง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี และ 10 ปี (Bond Yield) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.055% และ 1,884% (เช้านี้ 19 มี.ค.) เพิ่มน้ําหนักต่อการที่เฟดจะ ดําเนินนโยบายการเงินตั้งตัว ที่เร็วและแรงขึ้น (การประชุม FOMC มีกําหนดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 ม.ค.) แม้เราเชื่อว่าการดําเนินนโยบายการเงินของ ธปท. ยังคงผ่อนคลายต่อเนื่อง โดยเราคาดว่า กนง. น่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วง 1Q66 กลยุทธ์การลงทุนลักษณะ selective โดยระยะสั้น ยังเน้นเก็งกําไร ตามทิศทางของ bond yield และราคาน้ํามันดิบที่ยังคงปรับเพิ่มในระยะสั้น เราเลือก BLA PTTEP PTT (BK:PTT) SPRC TOP KBANK (BK:KBANK) และ BBL รวมไปถึงหุ้นในกลุ่ม Domestic Play ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ BOJ คงดอกเบี้ย สวนทาง PBOC ที่ประกาศลดดอกเบี้ย เพิ่มเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOI) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultraloose Monetary Policy) ในการประชุมวานนี้ (18 ม.ค.) รวมถึงคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0% ความเห็นของผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOI) มองว่ายังไม่มีความจําเป็นต้อง เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในปัจจุบัน หรือหารือเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเชื่อว่าการเพิ่มขึ้น ของอัตราเงินเฟ้อเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราวเท่านั้น อย่างไรก็ตามการดําเนินการนโยบายการเงินของ ธนาคารกลางในภูมิภาคแต่ละประเทศ มีความแตกต่างกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางจีน ประกาศลดอัตรา ดอกเบี้ยนโยบาย (อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภท 1 ปี) ลง 0.10% สู่ระดับ 2.85% เป็นการลดดอกเบียครั้งแรก นับตั้งแต่ เดือน เม.ย. 2554 รวมไปถึงอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินจํานวน 2 แสนล้านหยวน (3.15 หมื่นล้าน เหรียญ) เพื่อให้ GDP ของจีน ในปี 2565 ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายขยายตัวที่ 5.1% (Market Consensus ประเมินอัตราการขยายตัวของ GDP ในปี 2565 อยู่ที่ 4.3%) OIL Play ยังมีปัจจัยหนุนระยะสั้น เลือก PTTEP และ SPRC เป็นหุ้นเด่น
- สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบ เดือน ก.พ. ปิดเพิ่มขึ้น 1.61 เหรียญ (+1.9%) ราคาน้ํามันดิบกลับมายืนเหนือ 85 เหรียญต่อบาร์เรล จากปัจจัยพื้นฐาน ด้าน Seasonal Demand รวมไปถึงการผลิตน้ํามันในลิเบียลดลงเหลือเพียงวันละ 729,000 บาร์เร็ล (เดิม 1.3ล้านบาร์เรลต่อวัน) เนื่องจากมีการปิดบ่อน้ํามันหลายแห่ง รวมทั้งมีการปิดซ่อม บํารุงท่อส่งน้ํามัน นอกจากนี้ระยะสัน ประเด็นที่ไม่เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐาน เกี่ยวกับความกังวลต่อความไม่สงบ ในตะวันออกกลาง หลังจากกลุ่มกบฏฮูตี ก่อเหตุโจมตีพื้นที่ชั้นในของ UAE ใกล้กับบริษัทน้ํามันแห่งชาติ อาบูดาบี (ADNOC) ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา การโจมตีสาธารณูปโภคด้านน้ํามันของ UAE จะสร้างความ เสียหายในวงจํากัด แต่เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มกบฏฮูตีสามารถรุกคืบเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของ UAE โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการผลิตน้ํามัน ทําให้เกิดความกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ อาจจะยกระดับความรุนแรงเพิ่มในระยะสั้น รวมไปถึงอาจส่งผลกระทบต่อข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่าน และสหรัฐฯ ในอนาคต เนื่องจากกลุ่มกบฏฮูตีเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอิหร่าน เรามองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Oil play ได้แก่ PTT (ซื้อ.,ราคาเป้าหมาย 48 บาท) PTTEP (ซื้อราคา เป้าหมาย 140 บาท) TOP (ซื้อ.ราคาเป้าหมายุ 66 บาท) และ SPRC (ซื้อ.,ราคาเป้าหมาย 12.8 บาท) ยังคงเป็นหุ้นที่ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ํามันดิบที่ปรับเพิ่มยังให้น้ำหนัก หุ้นในกลุ่ม Domestic Play หนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ
- กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการพิจารณาเพิ่มเวลาดําเนินโครงการ คนละครึ่ง เฟส 4 เป็น 3 เดือน จากเดิมที่กําหนดไว้ 2 เดือน รวมถึงหารือเงื่อนไขในการดําเนินโครงการ ทั้งหมด ส่วนการเริ่มโครงการเข้ามาเร็วขึ้นเป็น 21 ก.พ. โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่และยืนยันตัวตนใน วันที่ 14 ก.พ. ยังคงต้องได้ความเห็นชอบจากทางสภาพัฒน์ฯ รวมถึงเรื่องการใช้เงินจาก พ.ร.ก. กู้เงิน” ก่อนจะมีการนําเสนอ ครม. ในช่วงปลายสัปดาห์ ประเด็นดังกล่าวเรามองเป็นบวกต่อ HMPRO DOHOME MAKROOSP CBG CRC และ BJC บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Earnings Preview: IRPC และ BDMS Earnings Preview: IRPC (ซื้อ.,ราคาเป้าหมาย 4.8 บาท) คาด 4Q64 ลดลง QoQ จากปิโตรเคมีที่อ่อนแอ - คาดกําไรสุทธิ 4Q64 ลดลง 796QoQ จาก Market GIM ที่ลดลง แต่ทั้งปี 64 ยังพลิกกลับมาเป็นกําไรสุทธิอีก ครั้ง ธุรกิจปิโตรเคมียังกดดันผลประกอบการปี 65 จากกําลังผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้น แต่เงินปันผล 2H64 ยังน่าสนใจ คาดจ่ายได้ไม่น้อยกว่า 0.12 บาท (Div.YLd. 3.0%) แนะนํา “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 4.8 บาท Earnings Preview: BDMS (ซื้อ.,ราคาเป้าหมาย 27.0 บาท) คาดกําไรสุทธิ 4Q64 เติบโตอย่างน่าประทับใจ - คาดกําไรปกติเติบโต 869%YoY แต่ลดลง 96QoQ การฟื้นตัวของผู้ป่วยที่ไม่ใช่ COVID-19 หนุนกําไร 4Q64 เติบโต YoY การยกเลิก Test&Go กระทบจํากัด เนื่องจากสามารถ AHQ ได้ การเปิดประเทศหนุนผู้ป่วย ชาวต่างชาติให้ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีแผนขยาย Hospitel เพื่อรองรับจํานวนผู้ป่วย COVID-19 ที่เพิ่มขึ้น
แนะนํา “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 27.00 บาท อิงวิธี DCF • มุมมองทางเทคนิค – หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก UREKA BBL และ PTTEP
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities