🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

3 หุ้นเกษียณปลอดภัยสำหรับผู้ที่ต้องการเงินปันผลที่เติบโต และยั่งยืน

เผยแพร่ 12/01/2565 17:02
อัพเดท 09/07/2566 17:31
CL
-
NG
-
PG
-
LOW
-
ENB
-

สำหรับนักลงทุนหลายคนที่ต้องการออมเพื่อการเกษียณ ลำพังการติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดในแต่ละวันนั้นอาจจะยังไม่เพียงพอ รูปแบบการลงทุนที่มีประสิทธิภาพคือการซื้อหุ้นที่มีคุณภาพ ถือเอาไว้และรับรายได้เป็นเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ

หากเป้าหมายของคุณคือการสร้างกระแสเงินสด ที่มั่นคงสำหรับการเกษียณอายุ การปรับฐานของตลาดรอบใหญ่อาจให้โอกาสในการซื้อหุ้นเกษียณอายุที่ดีในราคาถูกลง หุ้นเกษียณอายุที่ดีจะจ่ายเงินปันผลไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไรก็ตาม การจ่ายเงินของบริษัทเหล่านี้จะสามารถทำได้แม้จะอยู่ในช่วงวิกฤตเช่น สงคราม โรคระบาด และฟองสบู่ของสินทรัพย์ ฯลฯ ในบทความนี้เรามีตัวเลือกอันดับต้นๆ ของหุ้นสามตัวที่ควรพิจารณาเพิ่มในพอร์ตการลงทุน หุ้นเหล่านี้จะยิ่งมีความน่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงการปรับฐานครั้งสำคัญ

1. Procter & Gamble

ยักษ์ใหญ่แห่งวงการสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มีสถิติกันปันผลมาตลอด 65 ปีติดต่อกันไม่เคยขาด “พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล” (NYSE:PG) หรือ “พีแอนด์จี” คือตัวเลือกแรกที่เราอยากให้นักลงทุนระยะยาวได้พิจารณา สถิติที่ยากจะมีใครทำลายลงได้ แสดงให้เห็นถึงกระแสเงินสดที่บริษัทมี ผลิตภัณฑ์ของพีแอนด์จี ครอบคลุมแทบทุกอย่างที่เป็นของจำเป็นในชีวิตของพวกเราไม่ว่าจะเป็น ผ้าอ้อม น้ำยาซักผ้า กระดาษชำระ ฯลฯ Procter & Gamble Weekly Chart

ตลอดระยะเวลาห้าปีล่าสุด มูลค่าของหุ้นพีแอนด์จีได้เติบโตขึ้นเกือบสองเท่า มีอัตราเติบโตของเงินปันผลที่แน่นอน ทำให้พีแอนด์จีคือตัวเลือกอันดับต้นๆ ในยามที่ไม่สามารถถามหาความแน่นอนทางเศรษฐกิจได้ หุ้นพีแอนด์จีมีราคาปิดล่าสุดเมื่อวานนี้อยู่ที่ $158.66 มีอัตราผลตอบแทนต่อปี ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 2.14% และมีตัวเลขการปันผลรายไตรมาสอยู่ที่ $0.87 

จริงอยู่ว่าตัวเลขนี้อาจจะไม่หวือหวาเท่ากับการปันผลที่ได้จากหุ้นกลุ่มเติบโต แต่ในยามที่วิกฤตสุขภาพกำลังเป็นปัญหาที่ทุกคนให้ความสำคัญ หุ้นพีแอนด์จีได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย และมั่นคงยิ่งกว่า ด้วยจุดแข็งของแบรนด์ ที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน ทำให้พีแอนด์จีเป็นเพียงไม่กี่บริษัทที่ยังต้องนั่งคำนวณรายได้ที่จะต้องจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในทุกๆ ไตรมาส และทุกปี 

ตราบใดที่การระบาดยังไม่จบ พีแอนด์จีจะยังคงเป็นหุ้นที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสมควรพิจารณาเอาไว้ติดพอร์ตเกษียณของทุกคน

2. Lowe’s

ร้านค้าปลีกสัญชาติอเมริกัน ผู้จัดจำหน่ายสินค้าสำหรับปรับปรุงและตกแต่งบ้าน “โลว์” (NYSE:LOW) คืออีกหนึ่งหุ้นหลุมหลบภัยสำหรับพอร์ตเกษียณอายุที่เราอยากจะนำเสนอ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อและถือหุ้นเอาไว้ในระยะยาวเป็นอย่างมาก

ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา หุ้นของโลว์สามารถทำผลงานเติบโตได้อย่างโดดเด่น หุ้นโลว์ได้รับอานิสงส์จากกระแสการทำงานอยู่ที่บ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงภัยโรคระบาด ทำให้ชาวอเมริกันหลายล้านคนต้องนำเงินมาลงทุนกับการต่อเติม และตกแต่งบ้าน ล่าสุดหุ้นโลว์มีราคาปิดอยู่ที่ $249.50 มีอัตราการเติบโตในปีที่แล้วมากกว่า 50%Lowe's Weekly Chart

นักวิเคราะห์เชื่อว่าเทรนด์นี้จะยังคงอยู่ต่อไป ผู้คนได้เรียนรู้แล้วว่าการทำงานจากที่บ้านหรือที่ทำงานก็ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ต่างกัน บ้านจะกลายเป็นสถานที่ทำงานมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ ตราบใดที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หุ้นของโลว์ก็จะยังได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ไม่สูงมาก ตลอดห้าปีที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของปันผลโดยเฉลี่ยของหุ้นโลว์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17% มีเปอร์เซ็นต์การปันผลต่อปีอยู่ที่ 1.2% และมีตัวเลขการปันผลต่อหุ้นรายไตรมาสอยู่ที่ $0.8%

3. Enbridge 

หุ้นตัวสุดท้ายที่เราจะแนะนำในบทความนี้อยู่ในหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค เหตุผลหลักๆ นั้นมีเพียงข้อเดียว เพราะสาธารณูปโภคคือสิ่งที่ผู้คนไม่สามารถขาดได้ ไม่ว่าจะในยามที่เศรษฐกิจดีหรือแย่ก็ตาม ตราบใดที่ผู้คนยังต้องจ่ายบิลให้กับระบบสาธารณูปโภคเหล่านี้ บริษัทก็จะยังมีกำไร มีกระแสเงินสดอยู่เรื่อยๆ 

สำหรับหุ้นในกลุ่มนี้เราขอเสนอชื่อหุ้นของบริษัท “เอ็นบริดจ์” (NYSE:ENB) เป็นบริษัทผู้ขุด ผลิต และวางท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากแคนาดาเข้ามาสู่สหรัฐอเมริกา 20% ของผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติล้วนต้องพึ่งพาบริษัทเอ็นบริดจ์ในฐานะยักษ์ใหญ่อันดับสามแห่งการวางระบบก๊าซธรรมชาติEnbridge Weekly Chart

หุ้น ENB มีราคาปิดล่าสุดเมื่อวันอังคารอยู่ที่ $41.34 ตลอด 27 ปีล่าสุด บริษัทมีการเพิ่มอัตราการปันผลรายปีขึ้นมาทีละ 10% จนล่าสุดมีตัวเลขอยู่ที่ 6.6% และมีตัวเลขการปันผลต่อหุ้นรายไตรมาสอยู่ที่ $0.6725 บริษัทเอ็นบริดจ์คาดการณ์ว่าจนกว่าจะถึงปี 2023 พวกเขาจะเพิ่มการจ่ายปันผลจากกระแสเงินสด (DCF) ให้ขึ้นมาอยู่ในระหว่าง 5-7% ซึ่งคิดเป็น 60-70% ของ DEF ของบริษัท ยิ่งเพิ่มเสภียรภาพและความยั่งยืนให้กับการปันผลมากยิ่งขึ้น

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย