รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

กองทุน ETF ที่จะช่วยให้คุณอยู่เหนือค่าเฉลี่ยกำไรจากดัชนีดาวโจนส์

เผยแพร่ 07/01/2565 17:02
อัพเดท 02/09/2563 13:05

เชื่อว่าใครหลายๆ คนในช่วงต้นปีกำลังอยู่ระหว่างการปรับพอร์ตการลงทุน หาข้อมูลหุ้นที่น่าสนใจ หาความเป็นไปได้ในการทำกำไรกับตลาดต่างๆ และหนึ่งในคำถามยอดฮิตที่มักจะได้ยินในทุกๆ ปีคือ

“ถ้าให้เลือกหุ้น 10 ตัวบนดัชนีดาวโจนส์ที่มีโอกาสปันผลสูงสุด ควรเลือกหุ้นตัวไหนดี?”

กลยุทธ์การลงทุนเช่นนี้ในภาษานักลงทุนมีคำเรียกว่า “Dog of the Dow” หมายถึงกลยุทธ์การลงทุนที่พยายามเอาชนะค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) ในแต่ละปี โดยเน้นพอร์ตการลงทุนให้ผลตอบแทนสูง นักลงทุนกลุ่มนี้จะเลือกหุ้นมาทั้งหมด 10 ตัว ซึ่งหุ้นเหล่านั้นจะต้องมีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูง และนักลงทุนกลุ่มนี้จะต้องถือหุ้นทั้งสิบตัวนี้ไปตลอดทั้ง 12 เดือน ตามความเห็นของเรา หุ้น 10 ตัวในปี 2022 ประกอบไปด้วย  

Dow (NYSE:DOW) - มีอัตราปันผล 4.82%
International Business Machines (NYSE:IBM) - มีอัตราปันผล 4.81%
Verizon Communications (NYSE:VZ) - มีอัตราปันผล 4.75%
Chevron (NYSE:CVX) - มีอัตราปันผล 4.34%
Walgreens Boots Alliance (NASDAQ:WBA) - มีอัตราปันผล 3.55%
Merck (NYSE:MRK) - มีอัตราปันผล 3.54%
Amgen (NASDAQ:AMGN) - มีอัตราปันผล 3.45%
3M (NYSE:MMM) - มีอัตราปันผล 3.28%
Coca-Cola (NYSE:KO) - มีอัตราปันผล 2.75%
Intel (NASDAQ:INTC) - มีอัตราปันผล 3.58%

ถึงแม้ว่ากลยุทธ์การลงทุนนี้จะเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่ก็ไม่มีกองทุน ETF ที่เน้นลงทุนกับสิบหุ้นดาวเด่นประจำปีเช่นนี้แบบตายตัว อย่างไรก็ตาม กองทุน ETF ที่เราจะแนะนำในบทความนี้อาจจะสามารถทำให้นักลงทุนที่สนใจหุ้นสหรัฐฯ ที่มีอัตราผลตอบแทนสูงชายตากลับมามองได้บ้าง

ALPS Sector Dividend Dogs ETF

- ระดับราคาปัจจุบัน: $54.91
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $44.80 - $56.20
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 3.55%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.4% ต่อปี

กองทุน ALPS Sector Dividend Dogs ETF (NYSE:SDOG) เป็นกองทุนที่นำเอาหลักการของ Dog to the Dow มาใช้ แม้จะไม่ได้เลือกหุ้นสิบตัวตามที่เราได้ให้ข้อมูลไปแบบเหมือนเป๊ะ แต่กองทุนนี้ก็ได้ใช้วิธีเลือกหุ้นหนึ่งตัวมาจากหนึ่งกลุ่ม ที่มีอัตราการปันผลใกล้เคียงกับหุ้นที่อยู่ใน Dog to the Dow ในช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายน SDOG ได้ประกาศรายชื่อหุ้น 5 จาก 10 ตัวที่มีอัตราการปันผลดีที่สุด ซึ่งคัดมาจาก 11 กลุ่มหุ้น (ไม่รวมกลุ่มอสังหาฯ) ของดัชนีเอสแอนด์พี 500  SDOG Weekly

SDOG เปิดให้เริ่มต้นลงทุนมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2012 อ้างอิงความเคลื่อนไหวตามดัชนี S-Network Sector Dividend Dogs Index ถือครองหุ้นบริษัทอยู่ทั้งหมด 50 บริษัท เมื่อพิจารณาสัดส่วนการถือครองหุ้น จะพบว่าสามารถแบ่งออกได้เป็นทั้งหมด 10 กลุ่มตามที่ได้ให้ข้อมูลไปก่อนหน้า เฉลี่ยแล้วกลุ่มละ 10% เท่าๆ กัน กลุ่มหุ้นที่ SDOG เลือกถือครองได้แก่กลุ่มอุตสาหกรรมบริการสื่อสาร สินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าจำเป็น กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน การเงิน สุขภาพ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม วัสดุก่อสร้าง และสาธารณูปโภค

หุ้นสิบอันดับแรกของกองทุนคิดเป็น 20% ของสินทรัพย์ทั้งหมด $1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หุ้นชื่อดังที่กองทุนนี้ถือครองได้แก่ Newmont Goldcorp (NYSE:NEM) Bristol-Myers Squibb (NYSE:BMY) Amgen (NASDAQ:AMGN) AbbVie (NYSE:ABBV) AT&T (NYSE:T) International Business Machines (NYSE:IBM) และ Cisco Systems (NASDAQ:CSCO)

จากหุ้นทั้งหมด 10 ตัวใน Dog to the Dow มีเพียงสามตัวเท่านั้นที่ไม่ได้อยู่ใน SDOG นั่นก็คือหุ้นของบริษัทเชฟรอน เมิร์ค และโคคาโคลา เท่ากับว่าหากลงทุนกับ ETF นี้ ก็เหมือนได้ใช้กลยุทธ์ Dog to the Dow ไปแล้ว 70% ตลอดระยะเวลา 12 เดือนล่าสุด SDOG มอบผลตอบแทนกลับคืนสู่นักลงทุนมาแล้ว 19.1% สร้างจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่เอาไว้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม

หากคิดจะลงทุนกับหุ้นบนดัชนีดาวโจนส์ หรือ SDOG ในปีนี้เรามองว่าเป็นจุดเข้าที่เหมาะสม เพราะธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศแล้วว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้แน่นอน  ซึ่งจะทำให้สภาพคล่องที่ล่อเลี้ยงตลาดหุ้นหายไป เกิดเป็นแนวโน้มขาลง และนั่นคือช่วงเวลาดีที่จะเข้าซื้อ

นอกจาก SDOG ยังมีกองทุน ETF อื่นที่มีลักษณะคล้ายๆ กันอีก และมีอัตราการปันผลที่น่าสนใจ กองทุนเหล่านั้นได้แก่


- ALPS International Sector Dividend Dogs ETF (NYSE:IDOG) - มีอัตราปันผล 3.79% ตลอดทั้งปี 2021 ปรับตัวขึ้นมา 5.0%
- ALPS REIT Dividend Dogs ETF (NYSE:RDOG) - มีอัตราปันผล 3.01% ตลอดทั้งปี 2021 ปรับตัวขึ้นมา 29.4%
- Invesco Dow Jones Industrial Average Dividend ETF (NYSE:DJD) - มีอัตราปันผล 2.07% ตลอดทั้งปี 2021 ปรับตัวขึ้นมา 17.6%
- Schwab U.S. Dividend Equity ETF™ (NYSE:SCHD) - มีอัตราปันผล 2.77% ตลอดทั้งปี 2021 ปรับตัวขึ้นมา 24.4%

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย