สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 16.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากวานนี้สหรัฐเผยดัชนี PPI ที่เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้ จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 9.6% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่มีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนพ.ย. 2010 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.2% ตัวเลข ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าข้อจำกัดด้านอุปทานยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งชี้อัตราเงินเฟ้ออาจอยู่ในระดับสูงอีกสักระยะหนึ่ง สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เฟดจะประกาศ “เร่ง” ปรับลด QE ในการประชุมนโยบายการเงินที่กำลังจะสิ้นสุดลงในช่วงกลางดึกของคืนนี้วันนี้ เพื่อเปิดทางสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เร็ว ขึ้นกว่าที่เคยประเมินไว้เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำร่วงหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10วันบริเวณ 1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และร่วงลงต่อทดสอบระดับต ่าสุดบริเวณ 1,766.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -2.04 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดค้าปลีก, ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) จากเฟดนิวยอร์ก, สต็อก สินค้าคงคลังภาคธุรกิจและดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนธ.ค. โดย NAHB พร้อมจับตาผลการประชุมเฟด คาด“คง” ดอกเบี้ยและประกาศปรับ “เพิ่ม” วงเงินในการ Taper QE และแนะนำรอดูความ ชัดเจนเกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐผ่านทางแถลงการณ์ของประธานเฟด, Economic Projections (คาดการณ์ GDP, อัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ) และ Dot Plot(คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งมีแนวโน้มจะส่งผลให้ราคาทองคำผันผวนได้
หากราคาทรงตัวรักษาระดับไว้ได้มีลุ้นที่ราคาจะขึ้นไปทดสอบโซน 1,791-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขณะที่แนวรับนั้นอยู่ในบริเวณ 1,767- 1,751 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้แรงเข้าซื้อระยะสั้นจะเพิ่มขึ้น ซึ่งหากราคาผ่านแนวต้านแรกได้ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบ แนว ต้านถัดไปโซน 1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำ เปิดสถานะซื้อ 1,767-1,751
จุดทำกำไร ขายทำกำไร $1,796-1,791
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหล ุด $1,751
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th