รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

เปิด 3 กองทุน ETF ที่มีโอกาสเติบโตขึ้นอีกก่อนสิ้นปี 2021

เผยแพร่ 30/09/2564 10:31
อัพเดท 02/09/2563 13:05

เดือนกันยายนที่กำลังจะผ่านไปนี้ถือเป็นเดือนที่ยากลำบากสำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้น ดัชนีหลักของสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 และแนสแด็ก 100ต่างปรับตัวลดลง 2.4% 2.3% และ 2.6% ตามลำดับ 

การก้าวเข้าสู่ไตรมาสที่ 4 ในวันพรุ่งนี้คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าช่วงเวลาสิ้นปีได้วนกลับมาหาเราอีกครั้ง หิมะอันหนาวเย็น ต้นคริสต์มาสที่ถูกประดับประดาด้วยไฟหลากสี และลุงหนวดเคราขาวในชุดสีแดงกำลังจะกลับมาสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆ อีกครั้ง แล้วสำหรับนักลงทุนอย่างพวกเราล่ะ? มีกองทุน ETF ใดบ้างที่มีโอกาสปรับตัวขึ้นในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2021 ในบทความนี้เราจะพาไปดู

1. Amplify Online Retail ETF

- ระดับราคาปัจจุบัน: $111.77
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $87.73 - $141.00
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 0.54%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.65% ต่อปี

ข้อมูลจากสำนักสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริการะบุว่ากำไรจากการค้าปลีกผ่าน e-commerce ในไตรมาสที่ 2 ปี 2021 ของสหรัฐอเมริกามีตัวเลขอยู่ที่ $222,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2021

ข้อมูลนี้จึงเป็นที่มาของกองทุน ETF ตัวแรกที่มีชื่อว่า Amplify Online Retail ETF (NYSE:IBUY) เป็นกองทุนที่ลงทุนกับธุรกิจค้าปลีกโดยเฉพาะ IBUY เปิดเริ่มต้นให้เทรดในเดือนเมษายนปี 2016

ปัจจุบัน IBUY อ้างอิงราคากองทุนจากดัชนี EQM Online Retail Index ถือครองหุ้นบริษัททั้งหมด 72 ตัว 74% ของหุ้นบริษัทที่กองทุนเลือกดำเนินธุรกิจอยู่ในสหรัฐอเมริกา ประเทศจีน เยอรมัน สหราชอาณาจักร และเนเธอร์แลนด์ตามลำดับ 

หุ้นสิบอันดับแรกของกองทุนคิดเป็นสัดส่วน 27% ของสินทรัพย์ทั้งหมดมูลค่า $1,100 ล้านเหรียญสหรัฐ สามารถแบ่งหุ้นของเป็นสามกลุ่มหลักได้แก่กลุ่มค้าปลีกพื้นฐาน (52.4%) ตลาดสินค้า (39.3%) และกลุ่มท่องเที่ยว (8.3%)

หุ้นชื่อดังที่ IBUY ถือครองได้แก่ Stamps.com (NASDAQ:STMP) DoorDash (NYSE:DASH) Revolve Group (NYSE:RVLV) Etsy (NASDAQ:ETSY) และ Carvana (NYSE:CVNA))

ในระยะเวลา 12 เดือนล่าสุด IBUY สามารถปรับตัวขึ้นมาได้ 32% แต่หากนับเฉพาะปี 2021 ก็ต้องยอมรับว่าลักษณะการวิ่งของกราฟค่อนข้างทรงตัว หลังจากวิ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ระดับราคาปัจจุบ้นที่กองทุนกำลังวิ่งอยู่ถือว่าเหมาะสมสำหรับการเข้าซื้อ

2. SPDR S&P Kensho Smart Mobility ETF

- ระดับราคาปัจจุบัน: $55.44
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $36.66 - $71.43
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 1.04%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.45% ต่อปี

เมื่อไม่นานมานี้มีงานวิจัยเปิดเผยข้อมูลว่า “ตลาดการคมนาคมอัจฉริยะทั่วโลกในปี 2018 มีมูลค่าอยู่ที่ $57,900 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่คาดว่าจะเติบโตขึ้นเป็น $191,300 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2026 โดยที่อัตราส่วนการเติบโตต่อปี (CAGR) มีตัวเลขอยู่ที่ 16.4%”

กองทุน SPDR S&P Kensho Smart Mobility (NYSE:HAIL) ลงทุนในบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการคมนาคมในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่ารวมไปถึงเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ โดรน และ การพัฒนา GPS เพื่อนำทางยานพาหนะในปัจจุบันได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น HAIL เปิดเริ่มต้นให้เทรดในเดือนธันวาคมปี 2017HAIL Weekly

ปัจจุบัน HAIL อ้างอิงราคากองทุนจากดัชนี S&P Kensho Smart Transportation Index ถือครองหุ้นบริษัททั้งหมด 79 ตัว หุ้นสิบอันดับแรกของกองทุนคิดเป็นสัดส่วน 20% ของสินทรัพย์ทั้งหมดมูลค่า $182 ล้านเหรียญสหรัฐ สามารถแบ่งหุ้นของเป็นสามกลุ่มหลักได้แก่กลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ (19.86%) ผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์สำหรับยานยนต์ (16.49%) และเซมิคอนดักเตอร์ (13.14%)

หุ้นชื่อดังที่กองทุนนี้เลือกถือครองได้แก่ Ambarella (NASDAQ:AMBA); Aspen Aerogels (NYSE:ASPN) Veoneer (NYSE:VNE) Allegro Microsystems (NASDAQ:ALGM)) และ Tesla (NASDAQ:TSLA)

ในระยะเวลา 52 สัปดาห์ล่าสุด HAIL ปรับตัวขึ้นมาแล้วประมาณ 53% แต่สำหรับปีนี้จนถึงปัจจุบันยังสามารถปรับตัวขึ้นได้เพียง 3% เท่านั้น HAIL สร้างจุดสูงสุดตลอดกาลเอาไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ มีอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดของหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) และอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาหุ้นกับมูลค่าทางบัญชี (P/B) อยู่ที่ 15.23 และ 2.85 ตามลำดับ นักลงทุนที่สนใจสามารถเข้าซื้อกองทุนนี้ได้ที่ระดับราคาปัจจุบัน

3. Roundhill BITKRAFT Esports & Digital Entertainment ETF

- ระดับราคาปัจจุบัน: $25.59
- กรอบการวิ่งของราคาในรอบ 52 สัปดาห์: $24.33 - $39.38
- เปอร์เซ็นต์การปันผล: 0.39%
- อัตราค่าใช้จ่ายต่อการดำเนินงาน: 0.50% ต่อปี

กองทุนสุดท้ายที่เราจะแนะนำในบทความนี้คือ Roundhill BITKRAFT Esports & Digital Entertainment ETF (NYSE:NERD) เป็นกองทุนที่ลงทุนในสื่อบันเทิงดิจิทัลและวงการอีสปอร์ต NERD เปิดเริ่มต้นให้เทรดในเดือนมิถุนายนปี 2019NERD Weekly

บทวิจัยจากการสำรวจของ MarketsandMarkets เขียนถึงอุตสาหกรรมอีสปอร์ตเอาไว้ว่า

“ตลาดอีสปอร์ตโดยรวมคาดว่าจะเติบโตจาก 694.2 ล้านดอลลาร์ในปี 2017 และคาดว่าจะสูงถึง 2,174.8 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2023 ที่มี CAGR อัตรา 18.61% ระหว่างปี 2018 ถึง 2023 รายได้หลักสำหรับวงการอีสปอร์ตคือการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ตั๋ว สินค้าเกี่ยวกับเกม สปอนเซอร์ และโฆษณาหลัก”

NERD อ้างอิงราคากองทุนจากดัชนี Roundhill BITKRAFT Esports Index ถือครองหุ้นบริษัททั้งหมด 37 ตัว หุ้นสิบอันดับแรกของกองทุนคิดเป็นสัดส่วน 40% ของสินทรัพย์ทั้งหมดมูลค่า $75 ล้านเหรียญสหรัฐ สามารถแบ่งหุ้นของเป็นสามกลุ่มหลักได้แก่กลุ่มผู้ผลิตเกม (41.4%) ผู้ผลิตสื่อ (26.0%) และฮาร์ตแวร์สำหรับคอมพิวเตอร์ (24.1%)

28% ของหุ้นบริษัทที่ NERD ถือครองอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยจีน 22.1% ญี่ปุ่น 8.9% เกาหลีใต้ 8.3% และสวีเดน 7.4% หุ้นชื่อดังที่กองทุนนี้ถือครองได้แก่ Krafton (KS:259960) Tencent (OTC:TCEHY) Corsair Gaming (NASDAQ:CRSR) Activision Blizzard (NASDAQ:ATVI) และ  DouYu International (NASDAQ:DOYU)

ในระยะเวลา 12 เดือนล่าสุด NERD สามารถปรับตัวขึ้นมาได้ 5% แต่หากนับเฉพาะปี 2021 จะพบว่ากราฟปรับตัวลดลงมา 14% ทำจุดสูงสุดตลอดกาลในเดือนกุมภาพันธ์ นักลงทุนที่เชื่อมั่นว่าอีสปอร์ตคืออนาคตของโลกกีฬา และเชื่อว่าอีกไม่นานขาลงครั้งนี้จะจบลง สามารถพิจารณาเข้าซื้อกองทุนนี้ได้ ณ เวลานี้เลย

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย