ตลาดลงทุนสัปดาห์นี้เริ่มต้นด้วยความต้องการสินทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาอย่างมากล้น ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ห้า ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร, เยนและสวิตฟรังก์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีสามารถปรับตัวขึ้นแตะ 1.5% แต่สำหรับการลงทุนในสัปดาห์นี้ การรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจอาจจะไม่ได้รับความสนใจมากเท่ากับคำตัดสินที่แคปปิตอล ฮิลล์ว่าจะขยายเพดานหนี้ให้รัฐบาลอเมริกาหรือไม่
การตอบสนองของตลาดเมื่อวานนี้สะท้อนให้เห็นว่าตลาดลงทุนชินแล้วกับข่าวความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจถูกชัตดาวน์ แต่ถึงจะชินอย่างไร พวกเขาก็ขอลดความเสี่ยงด้วยการซื้อสินทรัพย์ประเภทอื่นที่ยังอยู่ในอเมริกาแต่ไม่ได้เป็นของรัฐบาลเอาไว้ก่อน แรงกดดันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการโหวตให้กับกฎหมายอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานและการปกป้องรัฐบาลให้สามารถใช้เงินได้ต่อไปจะยังคงเป็นตัวชุดรั้งไม่ให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น สิ่งที่นักลงทุนกำลังจับตาและรอคอยมากที่สุดในสัปดาห์นี้คือถ้อยแถลงของประธานเฟดและรัฐมนตรีคลังต่อสภาคองเกรส และการแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรปต่อสาธารณชน
นักวิเคราะห์ประเมินว่าถ้อยแถลงของเหล่าบรรดาธนาคารกลางทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาหรือยูโรโซนอาจจะไม่แตกต่างไปจากที่เราได้ทราบกันก่อนหน้านี้ การประชุม FOMC เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดก็ได้พูดอย่างชัดเจนแล้วว่าพวกเขาพร้อมที่จะปรับลดวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์จากรัฐบาล ซึ่งข่าวดีนี้จะช่วยให้ดอลลาร์สหรัฐอยู่ในทรงขาขึ้น
ฝั่งธนาคารกลางยุโรป (ECB) แม้จะลดวงเงิน QE จากโครงการ PEPP ไปแล้วบางส่วน แต่จำนวนที่ยอมลดนั้นก็ถือว่าน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับความเป็นไปได้ที่เฟดของสหรัฐฯ จะปรับลด แต่อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์คือข่าวการเลือกตั้งในเยอรมันที่ยังไม่เสถียร และมีความเป็นไปได้ว่านางอังเกลลา มาร์เคิล ประธานาธิบดีคนปัจจุบันอาจจะต้องเสียตำแหน่ง
ดอลลาร์ออสเตรเลียและปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลออสเตรเลียพึ่งประกาศวัน “ปลดแอกจากโควิด” เป็นครั้งที่สาม ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคมให้กับ 11 เมืองรวมถึงซิดนีย์ ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนเกิน 70% นิวเซาท์เวลส์เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมค์แล้ว ในขณะที่รัฐเพื่อนบ้านอย่างวิคตอเรียยังไม่มีการประกาศวันเวลาที่จะกลับมาเปิดเมือง ถึงแม้ว่าตัวเลขค้าปลีกรอบล่าสุดจะหดตัวจากการล็อกดาวน์ในเดือนสิงหาคม แต่หากเป็นไปตามแผนของรัฐบาลออสเตรเลีย มีโอกาสที่เศรษฐกิจออสเตรเลียจะกลับมาฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่ 4
สกุลเงินปอนด์แข็งค่าโดยไม่สนใจคำพูดของผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษที่เน้นย้ำว่าเงินเฟ้อภายในประเทศเป็นเพียงเรื่องชั่วคราว แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศกำลังชะลอตัว ดอลลาร์นิวซีแลนด์และดอลลาร์แคนาดาแข็งค่าขึ้น ดอลลาร์แคนาดาได้รับแรงสนับสนุนจากราคาน้ำมันดิบที่สามารถขยับตัวขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 3 ปีได้ ส่วนเยนและสวิตฟรังก์อ่อนค่าลงเพราะนักลงทุนหันไปถือดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรองปลอดภัยมากกว่า