🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

3 หุ้นเด่นประจำสัปดาห์: Apple, Oracle, Zoom Video

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 13/09/2564 13:58
US500
-
DJI
-
MSFT
-
ORCL
-
AAPL
-
AMZN
-
IXIC
-
ZM
-

ความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วปิดตลาดด้วยการปรับตัวลดลง ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 2.2% ปิดสัปดาห์ด้วยการทำขาลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน เอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลดลง 1.7% และแนสแด็ก ติดลบ 1.6% 

นิตยสาร Wall Street Journal รายงานว่าที่รัฐฟลอริด้ามียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจนสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ และรัฐอื่นๆ ก็กำลังมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มตามขึ้นมา ที่เคนตักกี้และนอร์ทแคร์โลไรนากำลังมียอดผู้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้จะออกมาดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมโรคที่ต้องทำสมดุลไปพร้อมๆ กับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ 

จากข้อมูลที่ได้รับมา แน่นอนว่าธีมการลงทุนในภาพรวมของสัปดาห์นี้จะยังคงเป็นความไม่แน่นอนที่เกิดจากโรคระบาด แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังมีหุ้นสามตัวที่น่าจับตามอง มาให้นักลงทุนได้พิจารณาอีกเช่นเคย

1. Oracle

บริษัทคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาโปรแกรมฐานข้อมูลและเครื่องมือสำหรับพัฒนาฐานข้อมูล “ออราเคิล”  (NYSE:ORCL) จะรายงานผลประกอบการแบบปีบัญชีของไตรมาสที่หนึ่งปี 2022 ในวันจันทร์ที่ 13 กันยายน หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์ประเมินว่าในไตรมาสนี้ออราเคิลจะสามารถทำกำไรได้ $9,760 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลต่อหุ้นอยู่ที่ $0.97 ORCL Weekly TTM

ขาขึ้นของหุ้นออราเคิลในปีนี้ถือว่ามีความแข็งแกร่งอยู่พอสมควร ความต้องการบริการคลาวด์จากผู้บริโภคทำให้ตลอดทั้งปี 2021 ราคาหุ้นของออราเคิลปรับตัวขึ้นมาแล้ว 38% มีราคาซื้อขายหุ้นล่าสุดอยู่ที่ $89.68 

ทิศทางที่ออราเคิลกำลังมุ่งเน้นเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์ให้สามารถรองรับกับการทำงานในรูปแบบต่างๆ ทำให้อัตราการเติบโตของกำไรบริษัทกลายเป็นอันดับสองของโลก (เฉพาะกลุ่มผู้พัฒนาซอฟต์แวร์เกี่ยวกับคลาวด์เดียวกัน) พวกเขามีแผนที่จะเพิ่มงบประมาณให้กับการวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์มากยิ่งขึ้น เพื่อต่อกรกับคู่แข่งยักษ์ใหญ่อย่างอะเมซอน (NASDAQ:AMZN) และ ไมโครซอฟต์ (NASDAQ:MSFT)

2. Apple 

สัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้ความสนใจกับหุ้นของบริษัทแอปเปิล (NASDAQ:AAPL) เป็นพิเศษ ก่อนจะปิดสัปดาห์ที่แล้ว มีข่าวที่ออกมาและสร้างผลกระทบเชิงลบให้กับหุ้นแอปเปิล ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางสหรัฐสั่งให้บริษัทเปลี่ยนวิธีการทำงานของ App Store ที่จะทำให้นักพัฒนา App ต่างๆสามารถนำผู้ใช้งานไปซื้อของหรือจ่ายเงินกับทางเจ้าของแอปได้ตรง ไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่าง App Store

AAPL Weekly TTM

หลังจากที่ข่าวนี้ออกมา หุ้นแอปเปิลได้ร่วงลงทันทันที 3.3% กลายเป็นขาลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม มูลค่าหลักทรัพย์ตามตลาดหายไป $85,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $148.97 นิตยสาร Wall Street Journal เขียนถึงกรณีของแอปเปิลว่า “เป็นการทำให้ผู้ทำบริการแพลตฟอร์มออนไลน์จำเป็นจะต้องคิดถึงผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็น”

หลังจากที่หุ้นแอปเปิลปรับตัวลงมาเพราะข่าวร้าย ตลาดลงทุนจึงต้องการเห็นว่าอีเวนต์เปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ “iPhone 13” ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 กันยายนนี้จะช่วยทำให้หุ้นของแอปเปิลดีดตัวกลับขึ้นมาได้หรือไม่ จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ระบุว่า iPhone 13 รุ่นใหม่จะมีการเปลี่ยนแปลงจาก iPhone 12 เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเช่น เปลี่ยนตำแหน่งของกล้องหลัง และทำรอยบากด้านบนของโทรศัพท์ให้เล็กลง

3. Zoom Video 

ในวันนี้บริษัทซูม (NASDAQ:ZM) จะมีการจัดประชุมเพื่อให้ข้อมูลแนวทางการพัฒนาบริษัทในอนาคตแก่นักวิเคราะห์ด้านการเงิน การที่เศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้วสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ทำให้หลายฝ่ายประเมินว่าช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของซูมกำลังจะจบลง ZM Weekly TTM

หุ้นของบริษัทซูมหลังจากวันที่ 30 สิงหาคมเป็นต้นมาวิ่งอยู่ในแนวโน้มขาลงมาตลอด เพราะวันนั้นเป็นวันที่บริษัทซูมได้ออกมาให้ข้อมูลคาดการณ์ตัวเลขผลกำไรสำหรับไตรมาสปัจจุบัน และตัวเลขที่ออกมาก็ถือว่าต่ำกว่าที่คาดการณ์กันเอาไว้ ตลอดทั้งปี 2021 ราคาหุ้นของซุมปรับตัวลดลงมา 10% มีราคาซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ 301.50 

ในไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้ว กำไรที่บริษัทซูมเคยได้เติบโตขึ้นมากถึง 369% ในไตรมาสหนึ่งของปี 2021 การเติบโตนั้นปรับตัวลดลงมายัง 191% และในช่วงสามเดือนล่าสุดก่อนวันที่ 31 กรกฎาคม กำไรของซูมปรับตัวขึ้นเพียง 54% สำหรับไตรมาสที่สี่ของปีนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่าซูมอาจมีกำไรเพิ่มขึ้นเพียง 15% เท่านั้น

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย