เชื่อว่าการลงทุนในสัปดาห์นี้นักลงทุนจะหันกลับมาให้ความสนใจกับการลงทุนโดยเน้นข้อมูลปัจจัยพื้นฐานอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องเศรษฐศาสตร์มหัพภาค สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะตลาดลงทุนตอบสนองเป็นอย่างดีกับการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนกรกฎาคมเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งตัวเลขที่ออกมานั้นปรากฎว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 943,000 ตำแหน่ง ในขณะที่อัตราการว่างงานลดลงเหลือ 5.4%
ข่าวดีดังกล่าวสแสดงให้เห็นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทำให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนสามารถทำให้ตลาดแรงงานเติบโตขึ้นได้ ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่อีกครั้ง นำโดยหุ้นกลุ่มการเงินและวัสดุก่อสร้าง การฟื้นตัวของตลาดแรงงานยังสอดคล้องไปด้วยกันกับตัวเลขการรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ที่ส่วนใหญ่สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ได้ และส่งให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นสร้างสถิติจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม มนุษยชาติยังคงต้องรบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสายพันธุ์ใหม่อย่างเดลตา ถึงแม้ว่าอเมริกาจะมีวัคซีนที่ดีที่สุดอยู่ในมือ แต่ตัวเลขความเร็วของผู้ที่ฉีดวัคซีนกำลังลดลงเรื่อยๆ อย่างมีนัยสำคัญ นั่นอาจจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้น 3 ตัวที่เราคัดมารายงานในบทความนี้
1. Coinbase Global
บริษัทแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา “คอยน์เบส” (NASDAQ:COIN) จะรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่สองในวันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์ประเมินว่าตัวเลขรายได้ในไตรมาสนี้จะมีตัวเลขอยู่ที่ $1,730 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $2.71
ตั้งแต่เปิด IPO ในเดือนเมษายน หุ้นของคอยน์เบสยังไม่เคยสามารถสร้างขาขึ้นอย่างจริงจังได้เลย เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเดียวกันพอดีกับการพักตัวของตลาดสกุลเงินดิจิทัล รายได้ของคอยน์เบสส่วนใหญ่มาจากผลงานการวิ่งของบิทคอยน์และอีเธอเรียมซึ่งก็อยู่ในขาลงมาตลอดตั้งแต่เปิด IPO
นักวิเคราะห์หลายสำนักประเมินสถานการณ์ของบริษัทคอยน์เบสว่ามีโอกาสโดนกดดันได้ในระยะยาว ตราบใดที่โลกคริปโตฯ ยังคงท้าทายกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และประเทศจีนยังไม่หยุดความพยายามที่จะแบนคริปโตฯ อย่างจริงจัง อย่างไรก็ดี ตลาดคริปโตฯ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนจนถึงปัจจุบันสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ บิทคอยน์สามารถกลับขึ้นมาแตะ $45,000 ในขณะที่อีเธอเรียมขึ้นยืนเหนือ $3,100 จากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $429.54 ปัจจุบันหุ้นคอยน์เบสมีราคาปิดอยู่ที่ $258.26
2. The Walt Disney Company
บริษัทเจ้าของอาณาจักรเทพนิยายที่สร้างฝันให้กับเด็กๆ ทั่วโลก “ดิสนีย์” (NYSE:DIS) จะรายงานผลประกอบการแบบปีบัญชีของไตรมาสที่ 3 ในวันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์ประเมินว่าตัวเลขรายได้ในไตรมาสนี้จะมีตัวเลขอยู่ที่ $16,760 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.54
หากสิ่งที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ถูกต้อง รายได้ในไตรมาสที่ 3 ของดิสนีย์ที่มีตัวเลขขนาดนั้นจะเท่ากับว่าบริษัทสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากความสุญเสียในช่วงโควิดได้ ในตอนนั้นธุรกิจหลักของดิสนีย์ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก โรงแรม เรือสำราญต่างๆ ต้องถูกปิดเนื่องจากมาตรการคุมเข้มโรคระบาดของทางภาครัฐ
อย่างไรก็ตามในปี 2021 ธุรกิจหลักของดิสนีย์อาจจะต้องกลับมาเผชิญกับความเสี่ยงอีกครั้ง เมื่อเริ่มมีสัญญาณการระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา แม้ว่าในรอบนี้จะยังไม่ถูกสั่งปิด แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่กำไรจากสวนสนุก โรงแรม หรือเรือสำราญจะชะลอตัว เพราะบางคนก็ยังไม่กล้าที่จะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ
แม้ว่าดิสนีย์จะสามารถรอดพ้นวิกฤตโควิดมาได้ด้วยเงินที่ได้จากธุรกิจภาพยนตร์สตรีมมิ่งอย่างดิสนีย์พลัส แต่ราคาหุ้นของดิสนีย์กลับไม่ได้ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญบางคนให้ความเห็นว่าอาจเป็นเพราะช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นกับธุรกิจสตรีมมิ่งได้หมดลงแล้ว ส่วนแบ่งทางการตลาดในสหรัฐอเมริกาก็ถือว่าเยอะพอสมควร ล่าสุดหุ้นดิสนีย์มีราคาปิดอยู่ที่ $177.13
3. Airbnb
เว็ปไซต์ผู้ให้บริการเรื่องการจองที่พักแบบโฮสเทลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักเดินทาง “แอร์บีเอ็นบี” (NASDAQ:ABNB) จะรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ในวันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคมหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดว่ารายได้ในไตรมาสนี้จะมีตัวเลขอยู่ที่ $1,260 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.36
หลังจากที่สหรัฐฯ สามารถกลับมาเปิดเมืองเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจได้ตามปกติ ความต้องการจองที่พักผ่านเว็บไซต์แอร์บีเอ็นบีก็ทยอยกลับมาเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการท่องเที่ยวที่ถูกอัดอั้นมาในปีที่แล้ว เพราะการท่องเที่ยวคือภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการแพร่ระบาด กำไรของแอร์บีแอนด์บีจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบนั้นได้ ทำให้ในช่วงเดือนเมษายนของปีที่แล้ว ยอดจองที่พักของแอร์บีเอ็นบีลดลงมากถึง 72%
แต่การที่ฝั่งตะวันตกสามารถกระจายวัคซีนและใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ทำให้พวกเขาสามารถฟื้นตัวกลับมาได้เร็ว และทำให้ยอดจองที่พักของแอร์บีแอนด์บีกลับคืนมาได้ นักวิเคราะห์จึงต้องการทราบข้อมูลบางส่วนจากแอร์บีแอนด์บีว่ายอดจองที่พักในช่วงหน้าร้อนที่ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้วมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญบ้างหรือไม่
หากคิดจะลงทุนในหุ้นของแอร์บีแอนด์บีในตอนนี้ นักลงทุนต้องประเมินความเสี่ยงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธู์เดลตาอย่างใกล้ชิด ทั้งในสหรัฐอเมริกาและในพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลก เพราะราคาหุ้นของแอร์บีแอนด์บีตลอดทั้งปี 2021 ปรับตัวขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ล่าสุดมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $149.99