เพียงไม่นานเราก็ก้าวเข้าสู่เดือนที่ 8 ของปี 2021 กันแล้ว แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศที่พัฒนาจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่หลายๆ พื้นที่ทั่วโลกก็กำลังทุกข์ทนอยู่กับการระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตา ในสัปดาห์นี้ เราอาจได้เห็นภาพนักลงทุนเกิดความลังเล หลังจากได้เห็นผลประกอบการของบริษัทรีเทลยักษ์ใหญ่อะเมซอน (NASDAQ:AMZN) ที่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน เนื่องจากตัวเลขผลกำไรไม่สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ไปได้
นับเป็นครั้งแรกในรอบปีเลยก็ว่าได้ที่อะเมซอนรายงานตัวเลขผลประกอบการได้น่าผิดหวัง หุ้นของอะเมซอนปรับตัวลดลงมากถึง 7.6% คิดเป็นมูลค่าตลาดที่หายไป $75,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ การเติบโตกำไรของอะเมซอนในไตรมาสนี้ลดลง 27% จาก 41% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ความผิดหวังของนักลงทุนทำให้หุ้นตัวอื่นๆ พลอยถูกเทขายไปด้วยยกตัวอย่างเช่นเวย์แฟร์ (NYSE:W) อิทซี่ (NASDAQ:ETSY) และอีเบย์ (NASDAQ:EBAY).
เนื่องจากสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ต้นเดือน นอกจากจะต้องจับตาดูการรายงานผลประกอบการกันต่อ นักลงทุนจะต้องให้ความสำคัญกับการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ประจำเดือนกรกฎาคม ในบทความนี้เราจะพาไปดู 3 บริษัทที่จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้
1. Uber Technologies
บริษัทผู้ให้บริการรถขนส่งสาธารณะด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลอูเบอร์ (NYSE:UBER) จะรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2021 ในวันพุธที่ 4 สิงหาคมหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์ประเมินว่าในไตรมาสนี้อูเบอร์จะสามารถทำกำไรได้ $3,740 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ $0.54
ตลอดทั้งปี 2021 หุ้นอูเบอร์ได้วิ่งอยู่ในขาลงมาโดยตลอด ปีนี้ปรับตัวลดลงมาแล้วมากกว่า 12% โดยมีสาเหตุมาจากความกังวลว่าคนขับรถในระบบจะมีไม่เพียงพอรองรับความต้องการของผู้ใช้แอปพลิเคชันที่ฟื้นตัวกลับขึ้นมา ในเดือนพฤษภาคม อูเบอร์เคยออกมาบอกให้นักลงทุนทำใจเอาไว้ว่ากำไรในไตรมาสนี้อาจหดตัวเนื่องจากบริษัทเอาเงินไปลงทุนกับการจ้างคนขับรถให้กลับมา คำพูดนี้นำมาซึ่งการตั้งคำถามว่ากำไรตลอดทั้งปีอูเบอร์จะยังสามารถรักษาเอาไว้ได้อยู่หรือไม่
อย่างไรก็ตาม CEO ของบริษัทอูเบอร์ยังคงเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถกลับมาทำกำไรได้ในไตรมาสถัดไป รวมไปถึงสิ้นปี 2021 ด้วย ล่าสุดราคาซื้อขายของหุ้นอูเบอร์วิ่งอยู่ที่ $43.46 ปรับตัวลดลงประมาณ 3% ภายในวันศุกร์วันเดียว อนึ่ง กำไรในไตรมาสที่ 1 ของอูเบอร์เติบโตขึ้น 24% สาเหตุมาจากบริการส่งอาหาร “อูเบอร์ อีท (Uber Eat)” ยังสามารถทำกำไรให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี
2. CVS Health
บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยาและสุขภาพ ‘ซีวีเอส เฮลท์’ (NYSE:CVS) จะรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2021 ในวันพุธเช่นเดียวกับอูเบอร์ แต่จะรายงานตั้งแต่ก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด นักวิเคราะห์ประเมินว่าในไตรมาสนี้ซีวีเอสจะสามารถทำกำไรได้ $70.160 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ $2.06
ซีวีเอสได้ปรับตัวเลขคาดผลประกอบการทั้งปีของตัวเองขึ้นในเดือนพฤษภาคม พวกเขามีกำไรจากจากการขายวัคซีนต้านโควิดและที่ช่วยตรวจสอบสถานะภายในร่างกายว่าติดโควิดหรือไม่ เฉพาะเครื่องตรวจโควิดพวกเขาก็สามารถขายไปได้แล้วมากกว่า 23 ล้านเครื่อง ในไตรมาสก่อนหน้านี้ซีวีเอสสามารถขายเครื่องตรวจไปได้ 9 ล้านเครื่อง
อย่างไรก็ดี ยอดขายของบริษัทอาจจะได้รับผลกระทบบ้างในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากอัตราเร่งของการฉีดวัคซีนของชาวอเมริกันเริ่มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตลอดทั้งปี 2021 หุ้นของซีวีเอสปรับตัวขึ้นมาแล้ว 20% มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $82.36
3. Beyond Meat
บริษัทผลิตเนื้อเทียมที่ใช้ส่วนประกอบหลักจากพืช ‘บียอนด์ มีท’ (NASDAQ:BYND) จะรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2021 ในวันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคมหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบียอนด์มีทจะสามารถทำกำไรในไตรมาสนี้ได้ $141 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.22
ก่อนหน้านี้รายได้ของบียอนด์ มีทถือถือว่าได้รับกระทบพอสมควรเนื่องจากร้านอาหาร สนามกีฬา และห้างสรรพสินค้าถูกปิดเพราะการแพร่ระบาด แม้ว่าการกระจายวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพของอเมริกาจะช่วยให้บริษัทสามารถทำยอดขายกลับมาได้บ้าง แต่พวกเขาก็ยังต้องเจอกับความท้าทายอยู่เนื่องจากธุรกิจเหล่านั้นยังไม่สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้อย่างเต็มกำลัง
อีธาน บราวน์ CEO ของบียอนด์ มีทได้ออกมายอมรับเองว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดอาจทำให้ธุรกิจของพวกเขาต้องใช้เวลานานกว่าปกติกว่าที่จะสามารถกลับมาทำยอดขายได้ดังเดิม ล่าสุดหุ้นบียอนด์ มีทมีราคาอยู่ที่ $122.70 ตลอดทั้งปีราคาหุ้นมีความเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น