นักลงทุนพอจะเบาใจไปได้บ้างเมื่อได้เห็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลหยุดปรับตัวลงแม้ว่าเบื้องหลังจะไม่มีปัจจัยใดๆ มาสนับสนุนเลยก็ตาม ตอนนี้สิ่งที่นักลงทุนสหรัฐฯ จับตาดูมากที่สุดคือการระบาดระลอกใหม่ของโควิดสายพันธุ์เดลตา จริงอยู่ว่าสหรัฐอเมริกายังมีจำนวนเตียงหรืออุปกรณ์รองรับผู้ป่วยหนักๆ ในจำนวนที่จำกัด แต่ด้วยความสามารถในการระดมฉีดวัคซีนที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้คนทั่วโลกมาแล้ว จึงทำให้นักลงทุนกล้าที่จะเข้าไปซื้อหุ้นคืนทันทีเมื่อเห็นตลาดปรับตัวลงมา สำหรับการระบาดระลอกใหม่นั่น ทั้งรัฐบาลและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่ามีเพียงการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมพอเท่านั้นที่จะเป็นวิธีปราบโควิดสายพันธุ์เดลตาได้
ถึงตลาดหุ้นจะสามารถฟื้นกลับขึ้นมาได้เร็ว แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับสกุลเงินส่วนใหญ่ ยูโร ปอนด์ ดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนเลือกที่จะถือครองดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ นั่นจึงส่งผลให้กราฟ EUR/USD สามารถลงไปสร้างจุดต่ำสุดใหม่ในรอบสามเดือนก่อนการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กราฟ AUD/USD สามารถลงไปแตะจุดต่ำสุดในรอบแปดเดือนหลังจากได้ทราบรายงานการประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ครั้งล่าสุด ซึ่ง RBA พูดชัดว่าไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2024 แม้แต่นักเศรษฐศาสตร์บางคนยังเรียกร้องให้ RBA นำสภาพคล่องกลับมาสู่ตลาดอีกครั้งหลังจากได้เห็นการระบาดระลอกใหม่จนต้องล็อกดาวน์ซิดนีย์และเมลเบิร์น
การระบาดครั้งนี้อาจทำให้เราได้เห็น RBA เป็นธนาคารกลางแรกที่เปลี่ยนนโยบายการเงินกลับมาซื้อพันธบัตรรัฐบาลเหมือนเดิม การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ดีก่อนหน้านี้ทำให้ RBA มีความมั่นใจจนกล้าประกาศลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียต่อสัปดาห์ แต่พอได้เห็นภาพ 50% ของประเทศถูกบังคับให้กลับเข้าสู่โหมดล็อกดาวน์อีกครั้งก็ทำให้นักลงทุนมีความกังวลว่า นอกจากต้องกลับไปเพิ่มวงเงินเพื่อซื้อพันธบัตรแล้ว รัฐบาลอาจต้องใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม และออสเตรเลียอาจกลายเป็นประเทศในกลุ่มท้ายๆ ของโลกที่จะได้โอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ผลกระทบจากโควิดระบาดรอบนี้สะท้อนออกมาให้เห็นผ่านตัวเลขยอดค้าปลีก MoM เมื่อเช้านี้ที่หดตัวลดลงจาก 0.4% ในเดือนก่อนลงมาเป็น -1.8%
สกุลเงินปอนด์ประเดิมวันประกาศอิสรภาพด้วยการได้ตำแหน่งเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่ามากที่สุดในสัปดาห์นี้ ถึงแม้ว่ามาตรการคุมเข้มทางสังคมส่วนใหญ่จะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ความจริงที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันต้องกักตัวและสหรัฐฯ ได้เตือนพลเมืองของตนในการเดินทางไปสหราชอาณาจักรก็ส่งผลกระทบต่อสกุลเงินปอนด์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงเวลาพิสูจน์อย่างแท้จริงว่าวัคซีนที่สหราชอาณาจักรเลือกใช้ จะสามารถต่อกรกับเดลตาได้ดีแค่ไหน แต่นักลงทุนก็ค่อนข้างเป็นกังวลว่าจะได้กลับไปเห็นสถานการณ์เตียงเต็มอีกครั้งหรือไม่
หากเทียบว่าสกุลเงินไหนต่อกรกับดอลลาร์สหรัฐได้ดีที่สุดเมื่อวานนี้ก็คงต้องยกให้ดอลลาร์แคนาดา ปัจจัยที่สนับสนุนให้ดอลลาร์แคนาดาแข็งค่าคือข่าวดีที่ราคาน้ำมันดิบสามารถฟื้นตัวกลับมา และแผนเปิดพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ กับแคนาดาในเดือนหน้า ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) แสดงความเชื่อมั่นที่มีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วยการประกาศลดวงเงินเพื่อเข้าซื้อพันธบัตรในการประชุมครั้งล่าสุด หากเศรษฐกิจแคนาดายังฟื้นตัวด้วยอัตราเช่นนี้ต่อไป มีโอกาสที่เราจะได้เห็น BoC ปรับนโยบายการเงินกลับเข้าสู่ระดับปกติภายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้