นักวิเคราะห์หลายสำนักกำลังงงเป็นไก่ตาแตกเพราะไม่สามารถอธิบายได้ว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็ดูเหมือนจะฟื้นตัวได้ดีและมีอัตราเงินเฟ้อที่สูง
แน่นอนว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงยึดติดอยู่กับการวางนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ได้ประกาศร่นระยะเวลาขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นมาเป็นปี 2023 และเปิดประตูให้กับความเป็นไปได้ที่จะเริ่มทยอยลดสภาพคล่อง นักวิเคราะห์ทั้งหลายต่างพยายามโชว์ภูมิของตัวเองด้วยการเปรียบเทียบกับพฤติกรรมตลาดก่อนลดสภาพคล่องของเฟดในปี 2013 ออกมาเป็นฉากๆ เพียงแต่ครั้งนี้นักลงทุนเชื่อมั่นเหลือเกินว่าผลตอบแทนพันธบัตรฯ จะต้องปรับตัวลดลงเมื่อเฟดตัดสินใจถอนสภาพคล่องออกจริงๆ และพวกเขาสามารถมีส่วนร่วมกับตลาดได้มากกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีในปี 2013
ปัจจัยถัดมาที่มีความเป็นไปได้ว่ากระทบต่อผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลคือแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่กำลังต่อสู้อยู่ในสภาคองเกรส แม้จะยังไม่เป็นข่าวดัง แต่นักลงทุนก็เริ่มมองหาตัวเลขที่เป็นไปได้สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้ นักวิเคราะห์บางคนถึงกับเชื่อว่าตัวเลขที่ออกมาอาจมากกว่างบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในรอบที่แล้วที่ใช้วงเงินมากเกินกว่าหนึ่งล้านล้านเหรียญสหรัฐ
หรือไม่สาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดก็สามารถโยนไปให้กับการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า แม้ว่าประเทศที่พัฒนาแล้วจะสามารถพูดได้ว่าพวกเขารบชนะโควิดแล้ว แต่สำหรับประเทศที่ด้อยพัฒนานั้นพวกเขากำลังประสบความยากลำบาก ทั้งขาดแคลนวัคซีนที่มีคุณภาพ และระบบการเมืองที่ไม่สอดคล้องกับโลกปัจจุบัน ซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกในอุตสาหกรรมต่างๆ กลับไปยังประเทศที่พัฒนาแล้ว และเป็นการชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจทางอ้อมอีกด้วย
ไม่ว่าสาเหตุที่แท้จริงจะเกิดจากอะไร แต่ก็มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีได้ปรับตัวลดลงจาก 1.5% ไปถึง 1.25% ในสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่จะดีดตัวกลับขึ้นมาวิ่งอยู่ที่ 1.35% - 1.37% โดยประมาณ
การเมืองที่ไม่ยอมประนีประนอมอาจเป็นปัจจัยชะลอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
กลุ่มนักลงทุนที่น่าจะมีความสุขในตอนนี้คือกลุ่มที่เชื่อว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรขึ้นสูงเกินไปเมื่อเทียบกับอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในความเป็นจริง ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถทำกำไรสวนกับกลุ่มที่เชื่อว่าอัตราผลตอบแทนฯ ยังมีสิทธิ์ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ข้อตกลงเกี่ยวกับการเก็บภาษีบริษัทข้ามชาติ 15% ที่กลุ่ม G20 พึ่งเห็นพ้องต้องกันก็มีส่วนทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลงมา แม้ในทางทฤษฎีการเก็บภาษี 15% กับบริษัทข้ามชาติดูเหมือนจะเป็นเรื่องดีที่สามารถปิดช่องโหว่ทางกฎหมายที่บริษัทยักษ์ใหญ่ใช้เป็นช่องทางทำมาหากินได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วกว่าแต่ละประเทศจะสามารถดำเนินนโยบายนี้ได้นั้นต้องผ่านขั้นตอนทางกฎหมายมากมาย และความยุ่งยากซับซ้อนในการแก้กฎหมายของแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน
ยกตัวอย่างเช่นสหรัฐอเมริกา หากไบเดนต้องการจะขึ้นภาษีกับบริษัทเอกชน เขาต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสองฝ่าย ซึ่งนโยบายเช่นนี้ขัดกับหลักความเชื่อของรีพลับลิกันโดยตรงอยู่แล้ว จึงไม่มีหลักประกันอะไรมารองรับได้เลยว่าสภาคองเกรสจะเห็นด้วยกับการขึ้นภาษีบริษัทเอกชนของโจ ไบเดน
อันที่จริงแล้วโจ ไบเดนเองก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถขึ้นภาษีกับบริษัทเอกชนได้มากเท่าที่หวัง มิเช่นนั้นเขาเองจะเจอกระแสต่อต้านจากฝั่งรีพลับลิกันมากขึ้น และอาจจะนำไปสู่การลงจากตำแหน่งภายในอีก 3 ปีข้างหน้า และอาจเปิดโอกาสให้อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้กลับคืนสู่ตำแหน่ง และหากสภาคองเกรสต้องแบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน จนไม่สนถึงความเป็นจริงตามสภาพเศรษฐกิจ คิดแต่จะเล่นพรรคเล่นพวก เลือกแต่คนที่ฝั่งตัวเองต้องการโดยไม่สนใจความสามารถก็จะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวในที่สุด
สัปดาห์นี้สหรัฐฯ จะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาล สำหรับรุ่นอายุ 10 ปีจะมีมูลค่าอยู่ที่ $38,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และรุ่น 30 ปีจะมีราคาอยู่ที่ $24,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยิ่งเพิ่มพันธบัตรเข้าไปในระบบมากเท่าไหร่ มูลค่าของสกุลเงินก็จะยิ่งอ่อนลง สวนทางกับผลตอบแทนพันธบัตรฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น
ข้ามฝากไปที่ทวีปยุโรป ล่าสุดนางสาวคริสตีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางแห่งยุโรป (ECB) ประกาศว่าจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป พร้อมยังบอกใบ้อีกด้วยว่าจะมีการวางแผนการใช้งบประมาณกับโครงการเยียวยาเศรษฐกิจจากโรคระบาด (PEPP) ใหม่หลังจากที่โครงการปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในช่วงปลายเดือนมีนาคมปีหน้า
เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาแล้ว การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาสร้างผลกระทบให้กับยุโรปมากกว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมันอายุ 10 ปีซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรวัดสภาพเศรษฐกิจของยุโรปยังคงวิ่งอยู่ที่ระดับติดลบ 0.30% ในวันจันทร์ที่ผ่านมา เมื่อสัปดาห์ที่แล้วตัวเลขดังกล่าวเคยลงไปทำจุดต่ำสุดเอาไว้ที่ -0.34% ด้วย