รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

หุ้นน้ำมันจะไปทางไหนต่อหลังการประชุมกลุ่ม OPEC+ ยังไม่ได้ข้อสรุป

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 07/07/2564 16:55
อัพเดท 02/09/2563 13:05

ตลาดพลังงานกลับเข้าสู่สภาวะที่ไม่แน่นอนอีกครั้งหลังจากการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (OPEC+) ไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องของโควตาที่จะผลิตน้ำมันเพิ่มหรือไม่ในเดือนสิงหาคม สำหรับนักลงทุนในหุ้นที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทพลังงาน นี่คือสัญญาณของความไม่แน่นอนท่ามกลางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่น้ำมันยังคงมีบทบาทสำคัญ

ความต้องการพลังงานที่กลับมาหลังจากการฉีดวัคซีนต้านโควิดทำให้ราคาน้ำมันในปีนี้ได้ปรับตัวขึ้นมาเกือบ 60% ระดับอุปสงค์ในตอนนี้นักวิเคราะห์หลายคนได้ประเมินว่านี่เป็นระดับที่เกือบจะเทียบเคียงช่วงก่อนโควิดในปี 2019 แล้ว เพราะอย่างนั้นประเทศสมาชิกในกลุ่มโอเปกจึงมีความต้องการที่จะผลิตน้ำมันเพื่อขายให้ได้มากขึ้น แต่ก็ไม่อาจทำได้เพราะมีสัญญาที่ทำไว้กับกลุ่ม OPEC อยู่ และนำมาซึ่งความขัดแย้งในวันนี้ระหว่างซาอุดิอาระเบียที่เป็นพี่ใหญ่ของกลุ่ม OPEC และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์WTI Weekly Chart.

สำนักข่าวบลูมเบิร์กวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นสัญญาณของความล้มเหลวในฐานะ “กลุ่มพันธมิตร”

“ถ้าหากเป็นชาติอื่นๆ ทะเลาะกัน เราคงจะไม่ต้องสนใจประเด็นของ OPEC ก็ได้ แต่เพราะครั้งนี้คือความไม่ลงรอยกันระหว่างสองประเทศที่มีอิทธิพลมากที่สุดในกลุ่ม เรื่องนี้จะส่งผลถึงภาพลักษณ์ของกลุ่ม OPEC ในสายตาชาวโลกและความรับผิดชอบที่ OPEC อ้างว่ามีต่อตลาดน้ำมัน พฤติกรรมเช่นนี้ยิ่งมีแต่ส่งเสริมให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจากเดิมก็ขึ้นเพราะเงินเฟ้ออยู่แล้ว”Exxon Mobil Weekly Chart.

ความไม่แน่นอนนี้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนที่ถือหุ้นของบริษัทผู้ผลิตน้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทเอ็กซอน โมบิล (NYSE:XOM) และเชฟรอน (NYSE:CVX) หุ้นเหล่านี้พึ่งจะฟื้นตัวขึ้นมาจากภัยโรคระบาดในปีที่แล้ว และกำลังอยู่ในช่วงระหว่างฟื้นฟูงบการเงินของตัวเองChevron Weekly Chart.

น้ำมันดิบเบรนท์จะสามารถขึ้นถึง $100 ต่อบาร์เรลได้หรือไม่

ถึงแม้ว่าภาพความขัดแย้งนี้จะส่งผลร้ายต่อภาพลักษณ์ในการบริหารทรัพยากรน้ำมันระดับโลก แต่สำหรับนักวิเคราะห์ในตลาดหุ้นนั้น ช่วงเวลาแห่งะความไม่แน่นอนคือโอกาสดีที่ราคาน้ำมันซึ่งถือว่าเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ตัวหนึ่งจะได้โอกาสปรับตัวขึ้นต่อ สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ต่างจากภาวะสงครามที่ไม่ว่าจะรุนแรงมากหรือน้อย ราคาน้ำมันก็จะปรับตัวขึ้นเอาไว้ก่อน หากพิจารณาในมุมนี้ หมายความว่าหุ้นของบริษัทผู้ผลิตน้ำมันก็จะปรับตัวขึ้นตามไปด้วย

แบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) เชื่อว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะสามารถขึ้นแตะ $100 ต่อบาร์เรลได้ภายในช่วงฤดูร้อนปี 2022 นักวิเคราะห์บางคนตั้งข้อสังเกตว่าตอนนี้ BofA ไม่ประเมินหุ้นของบริษัทน้ำมันตัวไหนให้อยู่ในระดับ “ทำผลงานได้ไม่ดี” เลยBrent Oil Futures Weekly Chart.

Evercore ISI บริษัทเอกชนทางด้านการเงินแห่งหนึ่งวิเคราะห์ภาพรวมของบริษัทน้ำมันทั้งหมดเป็นขาขึ้น  พร้อมทั้งปรับราคาเป้าหมายของหุ้นเหล่านั้นขึ้นอีกด้วย 

“หลังจากที่บริษัทผู้ผลิตน้ำมันต้องยอมลดต้นทุนทุกอย่างลงเป็นระยะสามปีติดต่อกัน ตอนนี้ E&P ของหุ้นบริษัทชื่อดังอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมจะปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันในระยะสั้นแล้ว”

อย่างไรก็ตาม ในความเห็นของ investing.com เราไม่แนะนำให้ตามขาขึ้นอย่างที่นักวิเคราะห์หลายคนบอก เพราะกลุ่ม OPEC ไม่มีทางยอมที่จะปล่อยราคาน้ำมันขึ้นไปจนถึงจุดที่ทำร้ายกำไรของพวกเขาเอง และส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางช่วงเวลาที่แรงกดดันเกี่ยวกับเงินเฟ้อมาแรงมากๆ ในประเทศที่พัฒนาแล้ว

ที่สำคัญ เชื่อได้เลยว่าประเทศพันธมิตรในกลุ่มโอเปกคงไม่อยากให้เกิดดราม่าจนสหรัฐอเมริกาหรือชาติมหาอำนาจอื่นๆ ต้องออกโรงมากดดัน ในประเด็นที่ไม่ยอมเพิ่มกำลังการผลิตทั้งๆ ที่มีน้ำมันอยู่ในคลังอย่างมหาศาลอยู่แล้ว โฆษกของทำเนียบขาวได้ออกมากล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า

“ทำเนียบขาวได้พูดคุยกับกลุ่ม OPEC โดยตรงเพื่อให้ได้ข้อตกลงร่วมกัน รวมถึงการผลิตน้ำมันที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยระบบอุปสงค์อุปทานของโลกให้เดินหน้าต่อไปได้” 

โดยสรุปแล้ว

การที่กลุ่ม OPEC+ ยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกันจะส่งผลให้หุ้นในกลุ่มน้ำมันสามารถปรับตัวขึ้นได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่แนะนำให้ลงทุนในหุ้นน้ำมันเพิ่มท่ามกลางสภาวะที่ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าข้อสรุปของเหตุการณ์นี้จะออกมาในรูปแบบใด

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย