หากคุณเป็นนักลงทุนสายเน้นรายได้สม่ำเสมอ การลงทุนในหุ้นเทคฯ เหมือนจะไม่ใช่คำตอบสำหรับคุณ เพราะการคืนเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นหลักไม่เคยเป็นเป้าหมายอันดับแรกสำหรับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอยู่แล้ว สิ่งที่พวกเขาสนใจคือทำอย่างไรถึงจะก้าวเดินไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด
ถึงจะพูดอย่างนั้นก็ตาม ก็มีหุ้นเทคฯ ของบางบริษัทที่สามารถเพิ่มเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ทุกปี จนทำให้ในบางครั้งเราก็ต้องประหลาดใจที่ได้เห็นชื่อของหุ้นเหล่านี้ถูกใส่อยู่ในรายชื่อหุ้นดีเด่นสำหรับพอร์ตการเกษียณอายุ สาเหตุนั่นก็คือใช่ว่าผู้ที่ต้องการเกษียณอายุทุกคนต้องการแต่เพียงความมั่นคง ในบทความนี้เราจะพาไปดูหุ้นเทคฯ 3 ตัวในกลุ่มเทคโนโลยีที่สามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างมั่นคงและสามารถเติบโตไปพร้อมๆ กันได้
1. Broadcom Inc.
เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน สิ่งที่ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญสำหรับโทรศัพท์มือถือหรือว่าคอมพิวเตอร์จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากชิปประมวลผล และหากพูดถึงผู้ผลิตชิปฯ รายใหญ่ที่สุดของโลกก็ต้องนึกถึงบริษัท ‘บรอดคอม’ (NASDAQ:AVGO)
ด้วยความที่บรอดคอมเป็นซัพพลายเอ่อร์ให้กับลูกค้าในหลากหลายวงการ นี่จึงเป็นสิ่งที่สามารถการันตีกับนักลงทุนได้ว่าพวกเขาจะได้รับกำไรที่มั่นคงแน่นอน และถ้าอยากได้กำไรเพิ่มขึ้น บรอดคอมก็ทำเพียงขยายฐานลูกค้าออกไปสู่อุตสาหกรรมอื่นก็เท่านั้น ในช่วงเวลาห้าปีล่าสุด หุ้นบรอดคอมได้ทำขาขึ้นมาแล้วมากกว่า 200% เพิ่มเงินปันผลขึ้นมากกว่าสามเท่าจาก $1.02 ต่อหุ้นในแต่ละไตรมาสในปี 2017 ขึ้นมาเป็น $3.60.
ปัจจุบันหุ้นของบรอดคอมมีอัตราการปันผลคืนมากกว่า 3% ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยการปันผลของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่าตราบใดที่ความต้องการชิปประมวลผลยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บริษัทบรอดคอมก็ไม่มีวันล่มสลาย ถึงแม้ว่าตอนนี้สหรัฐอเมริกาจะประสบปัญหาชิปฯ ขาดแคลน แต่ยอดคำสั่งซื้อมากกว่า 90% ก็ยังอยู่ที่บริษัทบรอดคอม
2. Seagate Technology
บริษัทผู้ผลิตไดรฟ์สำหรับจัดเก็บข้อมูล ‘ซีเกต’ (NASDAQ:STX) คืออีกหนึ่งบริษัทเทคฯ ที่สามารถเชื่อถือและใส่ชื่อลงไปในพอร์ตเกษียณของคุณได้ เพราะการทำงานในชีวิตประจำวันที่มีคอมพิวเตอร์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต วันๆ หนึ่งผู้คนต้องผลิตข้อมูลออกมาเป็นร้อยเป็นพันล้านฉบับ นั่นจึงทำให้การเก็บข้อมูลทั้งแบบดั้งเดิมและผ่านคลาวด์เข้ามามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก
เดฟ มอสเลย์ CEO ของซีเกตกล่าวในเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า
“ในไตรมาสที่ 2 ปี 2021 ผมเชื่อว่ายอดขายผลิตภัณฑ์ของเราจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากความต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากขึ้นทั้งในรูปแบบจับต้องได้และจับต้องไม่ได้ ด้วยปัจจัยนี้จะทำให้กำไรของซีเกตเติบโตและสามารถบรรลุเป้า non-GAAP EPS ของเราได้ ผลประกอบการประจำเดือนมีนาคมของเราตอกย้ำความแข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ HDD และความต้องการพื้นที่จัดเก็บความจุขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้น”
ในช่วงห้าปีหลังสุด อัตราการเติบโตของหุ้นซีเกตโดยเฉลี่ยมีตัวเลขอยู่ที่ 4% มีการปันผลรายไตรมาสอยู่ที่ $0.68 และมีเปอร์เซ็นต์การปันผลมากกว่า 3% ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ยังถือว่าน้อยกว่าครึ่งหนึ่งที่บริษัทเคยประกาศตั้งเป้าว่าจะเพิ่มเงินปันผลเอาไว้
3. Texas Instruments
อีกหนึ่งบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับอุตสาหกรรมที่หลากหลายอย่าง ‘เท็กซัสอินสตรูเมนต์ส’ (NASDAQ:TXN) คือบริษัทเทคฯ สุดท้ายที่เราอยากจะเสนอชื่อ แต่การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วทุกวงการก็ทำให้เท็กซัสอินสตรูเมนต์สที่รับผลิตทุกอย่างตั้งแต่ชิปประมวลผลไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านต้องได้รับผลกระทบตามไปด้วย
แต่หากมองในมุมของนักลงทุนระยะยาวแล้ว หุ้นเท็กซัสอินสตรูเมนต์สถือว่าน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก การปันผลของบริษัทมีการเติบโตขึ้นทุกปี เปอร์เซ็นต์การปันผลทุกวันนี้มีตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 2% มีตัวเลขการปันผลรายไตรมาสอยู่ที่ $1.02 หากวัดการเติบโตในช่วงห้าปีล่าสุดพบว่าหุ้นเท็กซัสอินสตรูเมนต์สเติบโตขึ้นมาปีละ 23%
และด้วยเปอร์เซ็นต์ของการปันผลเทียบกับกำไรต่อหุ้นมีตัวเลขมากกว่า 60% จึงทำให้หุ้นของเท็กซัสอินสตรูเมนต์สอยู่ในจุดที่พร้อมจะเพิ่มเงินปันผลขึ้นไปได้อีกในอนาคต