🐦 Early bird ค้นพบหุ้นที่มาแรงที่สุดตอนนี้ด้วยราคาเบา ๆ รับส่วนลดสูงถึง 55% สำหรับ InvestingPro กับโปรโมชัน Black Fridayรับส่วนลด

จับตา Dot Plot ใหม่ และสัญญาณลดคิวอี จากการประชุม FOMC

เผยแพร่ 14/06/2564 08:39
USD/THB
-

 

  • สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้เงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐฯจะเร่งตัวขึ้นมากกว่าคาด แต่ตลาดก็มองว่าเป็นเรื่องชั่วคราวและคลายกังวลปัญหาเงินเฟ้อ ส่งผลให้ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงหนักและหนุนให้หุ้นกลุ่มเทคฯ ปรับตัวสูงขึ้น

  • ติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) โดยเฉพาะแนวโน้มการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน พร้อมทั้งจับตาแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะ เศรษฐกิจในฝั่งเอเชีย

  • เงินดอลลาร์อาจผันผวนตามมุมมองของเฟดต่อการปรับลดคิวอี โดย เงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบสกุลเงินอื่นๆ หากเฟดมีความมั่นใจต่อแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ และส่งสัญญาณพร้อมลดคิวอี หรือ มีจำนวนคณะกรรมการ FOMC มองการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2022/2023 มากขึ้นจากการประชุมครั้งก่อน อนึ่ง เรากังวลว่า การแจกจ่ายวัคซีนในไทยอาจมีปัญหาในระยะแรก ซึ่งอาจเป็นแรงกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง ตามแรงขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ จนกว่าการแจกจ่ายวัคซีนจะเร่งตัวขึ้นได้ดีขึ้น

  • มองกรอบ เงินบาท สัปดาห์นี้ 30.90-31.30 บาท/ดอลลาร์

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

  • ฝั่งสหรัฐฯ – การทยอยผ่อนคลายมาตรการ Lockdown และการเร่งแจกจ่ายวัคซีน จะช่วยหนุนแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ตลาดแรงงานฟื้นตัวดีขึ้น สะท้อนผ่าน ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ที่ลดลงต่อเนื่อง สู่ระดับ 3.6 แสนราย ทั้งนี้ การจับจ่ายใช้สอยของคนอเมริกันอาจชะลอตัวลงเล็กน้อย โดยตลาดคาดว่า ยอดค้าปลีก(Retail Sales) เดือนพฤษภาคม อาจหดตัวลง 0.6% จากเดือนก่อนหน้า หลังจากที่พุ่งขึ้นไปมากในช่วงเดือนมีนาคมจากความต้องการบริโภคหลังมาตรการ Lockdown ผ่อนคลายลง (Pent-up demands) ทั้งนี้ การชะลอตัวของการบริโภคเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว เพราะตลาดมองว่า การใช้จ่ายยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อ ตามการจ้างงานที่ดีขึ้น ทั้งนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวดีขึ้น จะช่วยทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความมั่นใจต่อแนวโน้มการฟื้นตัวมากขึ้น และอาจะทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงินเฟด (FOMC) ปรับประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าดีขึ้น +0.1% จากประมาณการในเดือนมีนาคม ทั้งนี้ ประเด็นที่ต้องติดตามก็คือ มุมมองของเฟดต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน รวมถึง เงินเฟ้อ เพราะทั้งสองปัจจัยจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของเฟด โดยเฉพาะ การปรับลดการอัดฉีดสภาพคล่องหรือคิวอี (QE Tapering) ซึ่งตลาดคาดว่า เฟดจะเริ่มส่งสัญญาณลดคิวอีในช่วงงานสัมมนาประจำปีเฟดที่ Jackson Hole หรือ ช่วงปลายปีนี้ และจะเริ่มทยอยลดคิวอีได้ในปีหน้า แต่หากเฟดส่งสัญญาณเตรียมลดคิวอีในการประชุมที่จะถึงนี้ อาจทำให้ตลาดการเงินปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) และผันผวนมากขึ้นได้ ถึงแม้เรามองว่า โอกาสที่จะเกิดภาพดังกล่าวมีไม่มากนัก แต่ทว่าก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ผู้เล่นในตลาดต้องระวัง

  • ฝั่งยุโรป – เศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในฝั่งภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ขยายตัวตามความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น หลังการทยอยผ่อนคลายมาตรการ Lockdown (Pent-up demands) ดังจะเห็นได้จากยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ในเดือนเมษายน ที่จะโตขึ้นกว่า 0.4%จากเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ ในฝั่งอังกฤษ การบริโภคในประเทศก็มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนพฤษภาคม ที่จะขยายตัว 1.6% จากเดือนก่อนหน้า หรือ กว่า 27%y/y อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ในอังกฤษที่อาจกดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจได้ หากการระบาดทวีความรุนแรงมากขึ้นและควบคุมไม่ได้

  • ฝั่งเอเชีย – ภาคการส่งออกยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในโซนเอเชีย โดยในฝั่งญี่ปุ่น ยอดการส่งออก (Exports) เดือนพฤษภาคม อาจโตขึ้นกว่า 50%y/y หนุนโดยจากความต้องการรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจในประเทศอาจฟื้นตัวอย่างช้าๆ จากปัญหาการระบาดของ COVID-19 รวมถึงการแจกจ่ายวัคซีนที่ล่าช้าไปมาก ทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย อาทิ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Policy Balance Rate) ที่ระดับ -0.10% พร้อมทั้งเดินหน้าอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินต่อไป ส่วนในฝั่งจีน ตลาดมองว่า เศรษฐกิจจีนยังคงเดินหน้าขยายตัว สะท้อนผ่านข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในเดือนพฤษภาคม อาทิ ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ที่จะโตกว่า 9.2%y/y ส่วนยอดค้าปลีก (Retail Sales) ที่สะท้อนถึงทิศทางการบริโภคในประเทศ ก็จะขยายตัวกว่า 13%y/y นอกจากนี้ ยอดการลงทุนสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Investment) จะโตขึ้นกว่า 17%y/y สะท้อนการลงทุนในธุรกิจ High Tech. ที่ขยายตัวมากขึ้นตามแผนของรัฐบาลจีน รวมถึงการเดินหน้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการขยายตัวเศรษฐกิจ

Week ahead carlendar

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย