เทรดเดอร์ Bitcoin ทั่วโลกกำลังกลัว! และกำลังจดจ้องสัญญาณทางเทคนิค Death Cross ที่อาจทำให้ราคา Bitcoin ร่วงได้ต่ออีกถึง -50% !
นอกจากนั้นดัชนีวัดความกลัวในตลาด Bitcoin วันนี้ยังร่วงลงแตะ 13 จุดแล้ว
หลังจากที่ราคา Bitcoin ติดอยู่ในกรอบแคบๆระหว่าง 33,000 - 40,000 เหรียญมาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือนแล้ว เทรดเดอร์ทั่วโลกเชื่อว่าราคา Bitcoin กำลังจะเข้าใกล้จุดตัดสินทิศทางของราคาครั้งใหญ่แน่ๆ หากราคาสามารถหลุดออกจากกรอบได้
ถึงแม้ตอนนี้โอกาสในการขึ้นลงยังคงดูเหมือนมีเท่าๆกัน #แต่เทรดเดอร์กำลังกลัวว่า ยิ่งวันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ หากราคา Bitcoin ยังไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 40,000 เหรียญขึ้นไปไม่ได้ แนวโน้มทางเทคนิคของ Bitcoin #จะยิ่งมีแต่แย่ลงและแย่ลง เพราะสัญญาณ Death Cross หรือมัจจุราชของตลาดอาจมาเยือนราคา Bitcoin ได้....
-----------------------
จากบทความก่อนทางเพจได้เขียนอธิบายไปแล้วว่าสัญญาณทางเทคนิคมีความสำคัญต่อราคา Bitcoin และ Crypto มากเพียงใด
เพราะถึงแม้เทรดเดอร์และนักลงทุน Bitcoin ทั่วโลกที่อาจเชื่อว่าในอนาคต Bitcoin จะมีมูลค่ามากมายแค่ไหนก็ตาม แต่ในระยะสั้นแล้วหาก Bitcoin ยังไม่สามารถมีวิธีวัดมูลค่าได้ชัดเจนเหมือนกับหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นๆ ที่อาจมีสูตรการวัดมูลค่าที่นักลงทุนต่างใช้เหมือนๆกัน (เช่น Ratio ของหุ้นหรืองบการเงินต่างๆ)
ตราบใดที่มูลค่าของ Bitcoin ยังไม่สามารถวัดได้ด้วยสูตรเดียวกัน #สัญญาณทางเทคนิคจะยังคงเป็นสิ่งที่นักลงทุนจะใช้เป็นสัญญาณเป็นหลัก
นี่เป็นเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมานี้ ราคาถึงขยับเหมือนกับในตำราการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ถูกเขียนขึ้นมา 100 ปีก่อนแบบเป๊ะๆ เพราะไม่ว่าจะกี่ 100 ปี หรือกี่ 1,000 ปีความรู้สึกและพฤติกรรมของมนุษย์ก็ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง
(ใครสนใจบทความนี้ ทางแอดได้แนบไว้ให้ในคอมเม้นท์แล้ว หรือไปดูได้ที่หน้าเพจเลยครับ)
สัญญาณ Death Cross คืออะไร ?
1️.สัญญาณ Death Cross คือสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งบอกว่า #ตลาดอาจกำลังกลับตัวเป็นขาลงแล้ว
2️. ตรงกันข้ามกับสัญญาณ Golden Cross ที่เป็นสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งบอกว่า #ตลาดอาจกำลังกลับตัวเป็นขาขึ้นแล้ว
การดูว่าทั้ง 2 สัญญาณจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่นั้นให้เราดูเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) 50 วันเทียบกัน 200 วัน ว่าจะตัดกันไหม
ถ้าเส้น 50 วัน #ตัดลง มาที่เส้น 200 วัน (เส้นระยะสั้นตัดลงเส้นระยะยาว) ก็จะเป็นสัญญาณ Death Cross แต่ในทางตรงกันข้ามกันถ้าเส้น 50 วัน #ตัดขึ้น มาที่เส้น 200 วัน (เส้นระยะสั้นตัดขึ้นเส้นระยะยาว) ก็จะเป็นสัญญาณ Golden Cross
แต่ตอนนี้เนื่องจากตลาด Bitcoin กำลังอยู่ในขาขึ้นมานานหลายเดือนทำให้เส้น 50 วันอยู่เหนือเส้น 200 วัน ทำให้จะสามารถตัดลงได้อย่างเดียว และดูจากความเคลื่อนไหวของราคา หาก Bitcoin ยังไม่สามารถหลุดกรอบบนได้เร็วๆนี้ เส้น 50 วันก็จะวิ่งลงมาตัดกับเส้น 200 วันได้ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
ทางเดียวที่ 2 เส้นนี้จะไม่ตัดกันคือราคา Bitcoin ต้องดีดขึ้นให้ได้ในเร็วๆนี้ จนสามารถทำให้เส้น 50 วันวิ่งหนีเส้น 200 วันกลับขึ้นไปใหม่ได้
หากเกิดสัญญาณ Death Cross ขึ้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?
อย่างแรกเลยสัญญาณ Death Cross ไม่ได้หมายความว่าตลาดจะกลายเป็นขาลง 100% เสมอไป บางครั้งสัญญาณเกิดแล้วราคาอาจจะไม่ปรับตัวลดลงก็เป็นได้ หลายครั้งที่สัญญาณก็มาแล้วก็หายไป แต่ที่แน่ๆคือ #เราไม่ควรมองข้ามมันไปเฉยๆ
สัญญาณ Death Cross สำคัญที่ทางเพจได้อัพเดทไปครั้งนึงในปีนี้คือของ #ราคาทองคำ ที่ทางเพจเขียนไปว่าหากเกิดสัญญาณนี้ตัดกันราคาทองคำอาจโดนกดดันได้ และราคาทองก็กลับตัวเป็นขาลงจริงๆในครั้งนั้นนานกว่า 4 เดือน และราคาร่วงลงไปแตะระดับ 1,700 เหรียญ
นอกจากนั้นทางเพจยังได้เขียนบทความไปว่า "หากทองจะบินได้ ต้องรอให้ Bitcoin ร่วงก่อน" เพราะทั้ง 2 สินทรัพย์นั้นกำลังแย่งเงินระหว่างกันอยู่ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่หากเกิดสัญญาณ Death Cross ในตลาด Bitcoin ขึ้นในครั้งนี้ เราอาจเห็นเงินในตลาดไหลกลับไปสู่ทองคำและอาจดันราคาทองคำทะลุ 2,000 เหรียญได้
ทุกอย่างนั้นยังคงต้องศึกษาและติดตามกันอย่างใกล้ชิด แนะนำให้ทุกท่านตั้งค่า #รายการโปรด ไว้บนเพจได้เลยครับ ไม่เช่นนั้นทาง Facebook อาจจะไม่แสดงทุกโพสต์จากทางเรา
การที่สัญญาณ Death Cross กำลังจะตัดกันเป็นขาลงนี้ ยังทำให้ดัชนี Fear & Greed Index ดิ่งลงไปแตะ 13 จุดอีกด้วย หรือหมายความว่านักลงทุน Bitcoin กำลังหลาดกลัวการเทขายกันทั้งตลาด
เมื่อไหร่ที่ดัชนี Fear & Greed Index หรือดัชนีวัดความกลัวและความโลภของนักลงทุนลงต่ำกว่า 25 จุดนั้นหมายความว่า "นักลงทุนกำลังกลัวอย่างมาก" และในทางตรงข้ามกันหากสูงกว่า 75 จุดก็จะหมายความว่า "นักลงทุนกำลังโลภอย่างมาก"
ดัชนีนี้ไม่ได้ใช้ชี้วัดว่าในอนาคตราคาอาจจะไปในทิศทางไหน เพียงแต่ใช้วัดว่าในปัจจุบันมีนักลงทุนรายย่อยหรือนักลงทุนส่วนใหญ่ซื้อหรือขายของออกไปมากแค่ไหน และเราอาจใช้สัญญาณเหล่านี้ในการอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่ได้ เพราะทางปู่ Warren Buffett นักลงทุนที่เก่งที่สุกในโลกได้เคยสอนไว้ว่า
"จงกล้าในยามที่ผู้อื่นกลัว และจงกลัวในยามที่ผู้อื่นกล้า"
หรือให้พยายามซื้อขายให้ตรงกันข้ามกับดัชนี Fear & Greed Index นั้นเอง
ติดตามข่าวสารการลงทุนที่น่าสนใจไปกับ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP