รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

หาหุ้นหลบภัย ในภาวะ Stagflation

เผยแพร่ 25/05/2564 13:50
อัพเดท 09/07/2566 17:32

หาหุ้นหลบภัย ในภาวะ Stagflation

ในภาวะเศรษฐกิจดี ผู้คนมีงานทำ มีรายได้สูงขึ้น เงินหมุนเวียนสะพัด ราคาสินค้าก็แพงขึ้น

ในภาวะเศรษฐกิจแย่ คนตกงานเยอะ รายได้ลดลง การจับจ่ายใช้สอยฝืดเคือง ราคาสินค้าก็ลดลง

แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ภาวะวิกฤต COVID-19 ที่ยืดเยื้อ เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ผู้คนว่างงานมากขึ้น รายได้เริ่มหมด แต่ข้าวของต่างๆ กลับแพงขึ้น

สถานการณ์ย้อนแย้งแบบนี้ เราเรียกกันว่า “Stagflation”

ที่มาจากคำว่า “Stagnation + Inflation”

ถ้าเราดูตัวเลขให้เห็นกันแบบชัดๆ ของประเทศไทย คือ

1. GDP Q1’21 เท่ากับ -2.6% และคาดว่าทั้งปีจะอยู่ที่ 1.5-2.5% แปลว่าเราจะฟื้นขึ้นมาแค่ 1 ใน 3 ของปีที่แล้ว ที่ GDP -6.1% เมื่อเทียบกับประเทศอื่นทั้งในเอเชีย ยุโรป สหรัฐฯ ที่ดูจะฟื้นแรงกว่าบ้านเรา

2. อัตราเงินเฟ้อ 3.4% สูงสุดในรอบ 100 เดือน (8 ปี 4 เดือน) แต่ตัวเลขก็อาจสูงชั่วคราวได้ เพราะว่าเป็นการขึ้นของราคาน้ำมันเป็นหลักและมาจากฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว

3. สินค้า Commodity ขึ้น ไม่แน่ใจว่าจะเป็น super cycle หรือเปล่า แต่เราเห็นราคาเหล็ก ทองแดง น้ำมันปาล์ม น้ำตาล ถั่วเหลือง น้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ขยับตัวขึ้นเรื่อยๆ ค่าระวางเรือก็ขึ้นตามเช่นกัน และดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่แค่ pent up demand หรือ restocking เพราะราคาสินค้าต่างๆ ก็ยังปรับตัวขึ้นต่อเรื่อยๆ ถ้าเป็นแบบนี้จากที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะจบปีที่ 1-2% ก็อาจจะขยับขึ้นมากกว่านี้ได้

4. อัตราดอกเบี้ยนโยบายคงที่ 0.5% แต่เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีนโยบายเศรษฐกิจขนาดเล็ก แบบเปิด และพึ่งพาการส่งออก (small open economy) ถ้าต่างประเทศฟื้นตัวเร็วกว่าเรา และค่อยๆ ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น สุดท้ายเราก็ต้องปรับขึ้นตาม

5. COVID-19 รอบ 3 ดูยืดเยื้อกว่ารอบก่อน ไม่มีการปิดเมืองแบบเป็นทางการ ร้านอาหารเปิดได้จำกัด ธุรกิจเล็กๆ หลายแห่งเริ่มขาดสายป่าน ทำให้ต้องปิดกิจการ และเกิดการว่างงานมากขึ้นตามมา

คำถามคือว่า ถ้าประเทศไทยเข้าสู่ “Stagflation” ขึ้นมาจริงๆ ในฐานะนักลงทุนควรต้องปรับพอร์ตรองรับอย่างไรบ้าง เราควรหาหลุมหลบภัยแบบไหนบ้าง

ถ้าว่ากันตามทฤษฎี Investment Cycle เราน่าจะทำได้แบบนี้

ช่วงที่ตลาดกำลังร้อนแรง สินค้าเริ่มจะมีราคาแพง เงินทองยังพอมี แต่ยังไม่หมด การลงทุนที่ดีน่าจะเป็นกลุ่มสินค้า Commodity ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น เหล็ก ทองแดง น้ำตาล ถั่วเหลือง และกลุ่มเรือต่างๆ

ช่วงที่ตลาดเริ่มชะงัก สินค้าแพง เพราะวัตถุดิบแพง ค่าขนส่งมาแพง ก็ถึงเวลาปรับพอร์ตมาถือเงินสดบ้างจำนวนหนึ่ง และเริ่มมองหาหุ้น Defensive Stock ที่ทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ รวมไปถึงกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดอื่นๆ นอกประเทศ และกระจายการลงทุนไปในธีมที่กำลังจะเติบโตต่อจากนี้

=======================

วิธีการหาหุ้น Defensive ที่ง่ายสำหรับผมคือ เปิด Jitta Ranking แล้ว screen หาหุ้นตามเงื่อนไขที่ต้องการ ได้แก่

1. หุ้นใหญ่ พื้นฐานแข็งแกร่ง คุณภาพดี คือ หุ้น SET 100และ Jitta Score > 5

2. หุ้นที่มีหนี้สินต่ำ พร้อมอยู่รอดในสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นช้า คือ D/E ต่ำ

3. หุ้นที่มีกำไรเติบโตได้สม่ำเสมอ

4. หุ้นที่พิสูจน์ตัวเองว่าเอาตัวรอดฝ่าวิกฤต COVID มาได้

5 หุ้นที่มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ

กลุ่มโรงพยาบาล คือ บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (BK:BCH)

หุ้นโรงพยาบาล คือ หุ้นที่ปลอดภัยแม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี แต่ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยก็จำเป็นที่จะต้องเข้ารับการรักษา และที่ผ่านมา BCH เองก็ได้รับผลกระทบจากการที่มีคนไข้ต่างชาติประมาณ 11-12% แต่ก็ยังปรับตัวจนทำกำไรในปี 2563 ได้ 8% และ Q1 ปี 2564 ได้ +25% โดยเฉพาะเรื่องของการตรวจผู้ป่วย COVID-19 รวมถึงเป็นสถานที่รักษาผู้ป่วยทั้งในโรงพยาบาลเองและ Hospitel อีกหลายพันเตียง

Jitta Score 7.05 แสดงถึงคุณภาพที่ดี และได้คะแนนเพิ่มมากขึ้นมาตลอด

Jitta Factors มีความแข็งแกร่งทางด้านการเติบโตทั้งในระยะยาว และรอบปีที่ผ่านมา รวมถึงมีความแข็งแกร่งทางด้านตัวเลขทางการเงิน และการแข่งขันกับโรงพยาบาลอื่น ด้วยความที่มีโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยในทุกระดับ

Jitta Signs บอกถึงรายได้ และกำไรเติบโตสม่ำเสมอ ภาระหนี้สินที่ต่ำ และจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นทุกปี

แต่เรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ คือ BCH มีการลงทุนที่สูงอย่างต่อเนื่องในการเปิดโรงพยาบาลใหม่ ทำให้ SG&A เพิ่ม และมีค่าเสื่อมตามมา ถ้ารายได้เข้าไม่ทันก็จะกระทบกำไรได้ ประกอบกับปัจจุบันมี P/E 38 เท่า และราคา Over Jitta Line 125%

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

กลุ่มประกัน คือ ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BK:TQM)

ยามเศรษฐกิจดี ผู้คนมีเงิน ประกันก็ขายดี เพราะต้องการป้องกันความเสี่ยงจากทรัพย์สินสูญหาย ยามเกิดโรคระบาด คนก็ทำประกัน COVID-19 เพราะกลัวว่าตัวเองจะติดไวรัส พอมีวัคซีน ประกันก็ยังทำกันต่อเผื่อฉีดแล้วมีอาการแพ้ เรียกได้ว่า มีประกันไว้อุ่นใจ

TQM ไม่ใช่หุ้นประกันโดยตรง แต่เป็นนายหน้าประกันภัยที่จะได้ค่าธรรมเนียมเป็นรายได้ แต่ไม่ต้องรับผิดชอบค่าสินไหมทดแทน เท่ากับว่า ได้ประโยชน์แบบเต็มๆ ปี 2563 ทำกำไรได้ 38% และ Q1 ปี 2564 ได้ 12%

Jitta Score 7.65 สูงมาก และเพิ่มแบบก้าวกระโดดทุกปี (เมื่อ 3 ปีที่แล้ว score ยังแค่ 4.3)

Jitta Factors มีความแข็งแกร่งทั้งด้านศักยภาพในการเติบโต และความสามารถในการแข่งขัน

Jitta Signs เรียกได้ว่าดีหมดทุกด้าน ทั้งการเติบโตของกำไร การใช้ SG&A/Sales ที่ลดลง และทำให้ Operating Margin เพิ่มขึ้นได้ตลอด

แต่เรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ คือ การเติบโตที่เริ่มชะลอลงจากฐานที่ใหญ่ขึ้น แปลว่าต้องตามดูแผนการเติบโตทั้งการ M&A การเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งประกันบ้าน ประกันชีวิต หรือกระทั่งการออกไปเติบโตนอกประเทศว่าทำได้ดีคุ้มค่าแค่ไหน เพราะปัจจุบัน P/E 47 เท่า และราคา 105% Over Jitta Line

กลุ่มพาณิชย์ คือ คอมเซเว่น จำกัด (BK:COM7)

เก่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว สำหรับ COM7 ไม่ใช่สิ ต้องเรียกชื่อใหม่ว่า COM70 เพราะราคาทะลุไปถึงตรงนั้นแล้ว ช่วง COVID-19 ยังปรับตัวมาค้าขายออนไลน์ได้ และขายสินค้า IT ที่หลากหลายทั้งมือถือ โน้ตบุ๊ค อุปกรณ์เกมส์ หลากหลายแบรนด์ หลากหลายประเภท

Jitta Score 7.46 สูงมาก และสูงมาตลอด

Jitta Factors เขียวทุกแท่ง ทั้งการเติบโตของรายได้ กำไร ความแข็งแกร่งทางการเงิน ความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

Jitta Signs ดีหมดทุกด้าน รายได้และกำไรเติบโตตลอดช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา อัตรากำไรก็ขยายตัว หนี้ก็น้อย แถมยังจ่ายปันผลได้ตลอด

แต่เรื่องที่หลายคนกังวลคงเป็นเรื่องของการหา S-curve ใหม่ ที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง ตอนนี้เริ่มเห็นการขาย Xiaomi มากขึ้น และการเกี่ยวโยงกับธุรกิจสินเชื่อ ต้องลองติดตามดูว่าจะเป็นอย่างไร ปัจจุบัน P/E 48 เท่า และราคา 50% Over Jitta Line

กลุ่มสื่อสาร คือ แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (BK:ADVANC)

การสื่อสาร เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้สำหรับโลคยุคนี้ ยิ่งเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุค 5G และ IOT ยิ่งจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับ ICT

ถ้าเทียบกับหุ้นตัวอื่นที่พูดถึงก่อนหน้านี้ ADVANC ดูจะด้อยหรือ laggard กว่าคนอื่น เนื่องด้วยสภาพของการแข่งขันที่รุนแรง การลดลงของนักท่องเที่ยว การลงทุน 5G ทำให้ปี 2563 กำไร -12% และ Q1 ปี 2564 ได้ -1.6%

Jitta Score 4.98 ยังพอใช้ได้ ถึงแม้ว่าจะลดลงจากในอดีต

Jitta Factors งบการเงินยังแข็งแกร่ง ความได้เปรียบเหนือคู่แข่งยังสูง ติดที่ผลประกอบการอาจยังไม่ดีมาก

Jitta Signs ดีในแง่ ROE ภาระดอกเบี้ย ภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ดูไม่เยอะ สภาพคล่องดี แม้อยู่ในช่วงการลงทุน

ข้อดีกว่านั้นคือ เป็นหุ้นที่ราคา Laggard มาก P/E 18 เท่า และราคา 13% Under Jitta Line แต่แนวโน้มในอนาคตน่าสนใจทั้งเรื่องของ 5G ทั้งการเติบโตของ AIS Fibre และการ synergy กับ GULF หากเข้ามาซื้อหุ้น INTUCH เป็นที่เรียบร้อย

==================

นอกจากหุ้นไทยทั้ง 4 กลุ่มที่ได้พูดถึงไปแล้ว นักลงทุนยังสามารถกระจายความเสี่ยงเพิ่มเติมได้อีกทาง คือ การลงทุนใน Jitta Wealth Thematic ตลาดหุ้นจีน

 

ความคิดเห็นล่าสุด

ขอบคุณครับ
คุณกำลังมองหาเงินกู้เร่งด่วนหรือไม่? เราเสนอเงินกู้ทุกประเภทโดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก 2% ต่อปีติดต่อเราวันนี้ทางอีเมล: (fintechloanfirm@gmail.com) ข้อเสนอเงินกู้ด่วน.
สวัสดี, คุณต้องการเงินกู้เร่งด่วนหรือไม่เราเสนอเงินกู้ทุกประเภทโดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำมากต่อปีต่ำถึง 2% ในหนึ่งปีถึง 30 ปีระยะเวลาการชำระคืนไปยังส่วนใดส่วนหนึ่งของโลก เราให้เงินกู้ตั้งแต่ 1,000 ถึง 500 ล้านยูโร เงินกู้ยืมของเราได้รับการประกันอย่างดีเพื่อความปลอดภัยสูงสุดเป็นสิ่งสำคัญของเรา ผู้สนใจติดต่อเราทางอีเมล: (fintechloanfirm@gmail.com) ข้อเสนอเงินกู้ด่วน.
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย