น่าประหลาดใจที่การเปิดตลาดลงทุนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาพบว่ากราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 1.74% ทำได้เพียงขึ้นไปวิ่งใกล้กับระดับราคาดังกล่าวก่อนที่จะปรับตัวลดลงมายัง 1.704% และลงไปต่ำกว่า 1.7% ในขณะที่กำลังเขียนบทความอยู่ ตลาดลงทุนหยุดหนุนกราฟผลตอบแทนฯ ให้ปรับตัวขึ้นต่อแม้ว่าตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจจะส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกากำลังเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากกราฟผลตอบแทนฯ อายุ 10 ปีแล้วยังพบว่ากราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ก็เกิดเหตุการณ์คล้ายกัน กราฟ 30 ปีขึ้นไปแตะ 2.39% ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 2.35% ความชันที่ลดลงนี้สอดคล้องกับช่องว่างระหว่างผลตอบแทนฯ อายุ 2 ปีและ 10 ปีที่ขยายเพิ่มขึ้นเป็น 153 จุดเบสิส
สาเหตุที่กราฟผลตอบแทนฯ อายุ 10 ปีสามารถปรับขึ้นไปยัง 1.72% ได้เป็นเพราะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ประจำเดือนมีนาคมที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากตัวเลขคาดการณ์ 675,000 ตำแหน่งกลายเป็น 916,000 ตำแหน่ง แต่แรงหนุนจากข่าวดีดังกล่าวถูกสกัดเมื่อตลาดได้ทราบว่าการจะเข็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า $2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐของโจ ไบเดนออกมาได้นั้นต้องพบอุปสรรคอยู่ไม่น้อย
การที่จะให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้ผ่านมติเห็นชอบจากสภาสูงได้ พรรคเดโมแครตต้องได้คะแนนโหวต 50 เสียงโดยที่ 50 เสียงนั้นต้องมีความเห็นตรงกันเพื่อไม่เปิดโอกาสให้อีก 50 เสียงจากรีพลับลิกันมีโอกาสต่อรอง แต่ในความเป็นจริงนั้นวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตบางคนก็ยังไม่เห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้
โจ มันชิน สมาชิกพรรคเดโมแครตจากเวสต์ เวอร์จิเนียกล่าวว่าเขาไม่ได้เห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ $2 ล้านล้านเหรียญที่จะหามาคืนจากการขึ้นภาษีบริษัทเอกชน 28% ในขณะที่มาร์ก วอร์นเนอร์ วุฒิสมาชิกจากเวอร์จิเนียมีความเห็นว่ารัฐควรมีช่องทางที่มั่นใจได้ว่าจะสามารถหาเงิน $2 ล้านล้านเหรียญมาคืนได้ก่อนที่จะประกาศแผนดังกล่าวออกไป ถ้าหากแม้แต่คนในเดโมแครตเองก็ยังมีบางส่วนไม่เห็นด้วย นั่นอาจทำให้มีโอกาสที่เราจะได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้ถูกแยกออกเป็นสองฉบับ
บางรัฐบาลของประเทศในสหภาพยุโรปได้ออกมาตรการจำกัดเฮจฟันด์บางแห่งไม่ให้ลงทุนกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลฯ เนื่องจากมีเหตุผลให้เชื่อได้ว่ามีการโฆษณาเพื่อการลงทุนเกินจริง จากการแพร่ระบาดระลอกสามของโควิด-19 ในยุโรปจนทำให้ตลาดลงทุนซบเซา เฮดฟันด์บางแห่งจึงอาศัยช่วงขาขึ้นของตลาดลงทุนสหรัฐฯ เป็นตัวล่อนักลงทุนในยุโรป
มีรายงานว่าฝรั่งเศส สเปนและบางประเทศในยูโรโซนได้ออกมาตรการจำกัดการลงทุนในตลาดพันธบัตรฯ ของเหล่ากองทุนเฮจฟันด์ภายในประเทศ ING ระบุว่ารัฐบาลยูโรโซนได้ประมูลพันธบัตรและออกมาตรการกู้ยืมเงินร่วมในช่วงไตรมาสแรกคิดเป็นวงเงิน 373,000 ล้านยูโร คิดเป็นการกู้ยืมเงินเพิ่ม 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นทำให้รัฐบาลสามารถกู้เงินภายใต้สภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ
แม้กราฟผลตอบแทนฯ ของสหรัฐฯ จะย่อตัวลดลงมาเพราะตลาดคลายความสงสัยเรื่องเงินเฟ้อลง แต่นักวิเคราะห์บางส่วนก็เชื่อว่าการย่อตัวลงครั้งนี้จะเป็นเพียงการย่อตัวชั่วคราวเท่านั้น