นับวันการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ยิ่งคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ การปรับตัวขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ของดัชนีเอสแอนด์พี 500 คือตัวบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของตลาดลงทุนที่ว่าไตรมาสที่สองของปี 2021 ที่พึ่งจะเดินทางมาถึงจะเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในการลงทุนกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ขาขึ้นของเอสแอนด์พี 500 ได้แรงหนุนมาจากการฟื้นตัวหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากจุดสูงสุดตลอดกาลของดัชนีแล้ว อีกหนึ่งข่าวดีที่เรียกความเชื่อมั่นให้กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นอย่างมากคือการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ประจำเดือนมีนาคมที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากเดิมนักวิเคราะห์หวังว่าตัวเลขการจ้างงานจะออกมาอยู่ที่ 660,000 ตำแหน่ง (อันที่จริงเกิน 500,000 ตำแหน่งก็ถือว่าดีแล้ว) แต่ตัวเลขจริงที่ออกมากลับสามารถทำได้มากถึง 916,000 ตำแหน่ง สะท้อนให้เห็นว่าการกระจายวัคซีนต้านโควิดภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก
เมื่อเข้าสู้ไตรมาสที่สอง นั่นหมายความว่าจะต้องมีการรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนในไตรมาสที่หนึ่ง วันนี้นอกจากข่าวอัปเดตสถานการณ์ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดัง เรายังมีรายงานผลประกอบการของบริษัทอีกสองแห่งที่น่าสนใจมาให้ได้ติดตาม
1. Tesla
เทสลา (NASDAQ:TSLA) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังได้ประกาศข่าวเมื่อวันศุกร์ประเสริฐว่าสามารถส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าได้มากกว่าที่คาดการณ์ในไตรมาสแรก ข่าวดีนี้อาจทำให้หุ้นของบริษัทสามารถปรับตัวขึ้นในการเปิดตลาดลงทุนที่จะถึงในช่วงหัวค่ำนี้ตามเวลาประเทศไทย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาหุ้นเทสลามีราคาปิดอยู่ที่ $661.75 ปรับตัวลดลงประมาณ 1% ตลอดทั้งปี 2021 หุ้นเทสลาได้ปรับตัวลงมาแล้ว 6%
เทสลาประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าบริษัทสามารถส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปทั่วโลกได้ 184,800 คันภายในช่วงเวลาสามเดือนแรกของปี 2021 มากกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 180,570 คัน
“ผู้บริโภคในประเทศจีนนิยมรถยนต์เทสลาโมเดล Y ของเราเป็นอย่างมาก และนั่นทำให้ยอดขายรถของเราเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่สามเดือนแรก จากนี้เป็นต้นไปเราจะเร่งกำลังการผลิตรถยนต์ขึ้นเต็มกำลัง ถัดจากโมเดล Y แล้ว โมเดล S และ X ก็ได้กระแสตอบรับที่เดีในประเทศจีนเช่นกัน” - เทสลากล่าว
ในขณะที่การรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่หนึ่ง ปี 2021 ของบริษัทเทสลากำลังใกล้จะมาถึง นักวิเคราะห์บางคนแสดงความกังวลไปถึงความสามารถในการผลิตรถของเทสลาในไตรมาสที่สองเนื่องจากปัจจุบันสหรัฐอเมริกากำลังประสบปัญหาขาดแคลนชิปคอมพิวเตอร์ ผลกระทบนี้ไม่ได้ส่งผลกับเทสลาเพียงบริษัทเดียว แต่บริษัทผู้ผลิตนรถยนต์อื่นๆ รวมถึงคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ชิปคอมพิวเตอร์ก็ได้รับผลกระทบและทำให้การผลิตล่าช้าเช่นเดียวกัน
2. Constellation Brands
บริษัทผู้ผลิตเบียร์ชื่อดัง ‘โคโรนา’ (ที่ไม่ใช่เชื้อไวรัส) (NYSE:STZ) จะรายงานผลประกอบการแบบปีบัญชีของไตรมาสที่สี่ปี 2021 ในวันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายนก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด นักวิเคราะห์คาดว่า Constellation Brands จะสามารถทำกำไรในไตรมาสนี้ได้ $1,860 ล้านเหรียญสหรัฐและมีอัตราส่วนการปันผลกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ $1.55 ในการรายงานผลประกอบการครั้งก่อน Constellation Brands มีกำไรเพิ่มขึ้น 22% ในขณะที่ EPS เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว
บิล นิวแลนด์ CEO ของ Constellation Brands ให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อเดือนมกราคมว่าการที่กำไรของ Constellation Brands สามารถเติบโตขึ้นได้ท่ามกลางช่วงเวลาแห่งโรคระบาดเป็นเพราะเครื่องดื่ม (โดยเฉพาะเบียร์) คือสิ่งที่ปลอบประโลมความเศร้าโศกของผู้คนได้ ตอให้ความเป็นจริงจะโหดร้ายแค่ไหน การได้ดื่มเบียร์ก็จะช่วยให้สามารถลืมความทุกข์ไปได้ชั่วขณะหนึ่ง ในยามที่ต้องซื้อเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้น คนส่วนใหญ่มักจะเลือกแบรนด์ที่ไว้ใจได้เอาไว้ก่อน
ในปี 2020 หุ้นของ Constellation Brands ปรับตัวขึ้นประมาณ 75% วิ่งอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดตลอดกาล มีราคาปิดล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีอยู่ที่ $229.62
3. Levi Strauss
ลีวาย สเตราส์ บริษัทผู้ผลิตการเกงยีนส์ ลีวาย (Levis) (NYSE:LEVI) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่หนึ่งปี 2021 ในวันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายนหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดว่าลีวายจะสามารถทำกำไรในไตรมาสนี้ได้ $1,250 ล้านเหรียญสหรัฐและมีอัตราส่วนการปันผลกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ $0.24
การระบาดของเชื้อไวรัสโควิดทำให้ลีวายต้องปิดร้านค้าปลีกของตัวเองในหลายๆ พื้นที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บริษัทสูญเสียกำไรเป็นอย่างมากอ้างอิงจากการรายงานผลประกอบการครั้งล่าสุด ในวันพฤหัสบดีนี้พวกเขาอาจต้องรายงานผลกำไรที่ลดลงอีกครั้ง
เพื่อเอาตัวรอด ลีวายจำเป็นต้องปรับตัวมากขึ้น แทนที่จะเปิดร้านค้าปลีกให้ลูกค้าเดินเข้ามาอย่างเมื่อก่อน บริษัทต้องปิดร้านตามมาตรการของภาครัฐแต่ให้ร้านเหล่านั้น (ซึ่งมีอยู่มากกว่า 200 สาขาในสหรัฐอเมริกา) หันมาขายสินค้าออนไลน์แทน หากนับตั้งแต่จุดต่ำสุดในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ปัจจุบันหุ้นลีวายปรับตัวขึ้นมามากกว่า 135% มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $23.69