นักลงทุนยังคงตั้งคำถามว่าควรวิเคราะห์ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างไรดี สัปดาห์ที่แล้วกราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปียังย่อตัวกลับลงไปยัง 1.6% ได้ แต่เมื่อวานนี้ก็กลับขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 1.7% ได้อีกครั้ง
ท่ามกลางความกังวลที่มีต่ออัตราเงินเฟ้อ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็ได้เดินสายพบปะประชาชน พร้อมทั้งบอกให้เชื่อมั่นกับการตัดสินใจของพวกเขาว่าอัตราเงินเฟ้อไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลและธนาคารกลางฯ ยังจะคงนโยบายผ่อนคลายสภาพคล่องต่อไป
ยิ่งธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด (FED) ยิ่งพูดให้เชื่อมั่นกับการตัดสินใจของพวกเขามากเท่าไหร่ ยิ่งดูเหมือนว่าตลาดจะไม่ตอบสนองต่อคำพูดนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 7 ปีพบว่าการปล่อยพันธบัตรมูลค่า $62,000 ล้านเหรียญสหรัฐออกมานั้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของวงเงินรวมที่เสนอประมูลแบบแข่งขันราคาต่อวงเงินจำหน่าย 2.23 จุดแม้ว่าผลตอบแทนพันธบัตรรุ่น 7 ปีจะมีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 1.3%
ปัจจัยที่อาจจะส่งผลให้มีการเทขายพันธบัตรรัฐบาลอย่างหนักจะเกิดขึ้นในวันศุกร์เพราะจะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ของเดือนมีนาคม นักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่าตัวเลขการจ้างงานในเดือนมีนาคมจะมีตัวเลขอยู่ที่ 630,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจากตัวเลขของเดือนกุมภาพันธ์ที่ออกมาอยู่ที่ 379,000 ตำแหน่ง ในขณะที่ NFP ได้สะท้อนให้เห็นความคาดหวังที่มีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกันสัญญาณนี้ก็หมายถึงการเติบโตของอัตราเงินเฟ้อด้วย
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังจากที่ตลาดได้ทราบข่าวดีที่เรือขนส่งสินค้า “Ever Given” สามารถหลุดจากการขวางคลองสุเอซจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก แต่สิ่งที่อาจจะกลายเป็นปัญหาในระยะสั้นๆ ต่อจากนี้คือการขาดแคลนสินค้าที่อยู่บนเรือลำดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิปคอมพิวเตอร์สำหรับรถยนต์ที่จะยิ่งมีราคาแพงขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนราคารถยนต์ให้มีการปรับตัวขึ้นไปอีก
เมื่อวานนี้นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ได้โชว์ลวดลายของเขาในฐานะสมาชิกของบอร์ดบริหารธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก ถ้อยแถลงของเขาเต็มไปด้วยการปกป้องการตัดสินใจของเฟดเกี่ยวกับกรณีตั้งใจคงอัตราเงินเฟ้อเอาไว้ในระดับ 0.00% - 0.25% เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลสามารถกู้เงินในวงเงินราคาถูกทั้งๆ ที่รัฐบาลก็มีตัวเลขงบประมาณขาดดุลที่สูงอยู่แล้ว
สหภาพยุโรป (EU) เร่งผู้ที่เกี่ยวข้องให้รีบดำเนินการขายพันธบัตรรัฐบาลสหภาพยุโรปในวงเงิน 750,000 ล้านยูโรให้ได้เพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่กำลังประสบปัญหาการระบาดระลอกใหม่ ในขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมันสั่งไม่ให้นายฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีเยอรมันลงนามในกฎหมายที่ให้สัตยาบันแผนการขายพันธบัตรของสหภาพยุโรปจนกว่าจะมีการตรวจสอบคำร้องจากฝ่ายตรวจสอบการทำงานของสหภาพยุโรป
หากการขายพันธบัตรครั้งนี้สำเร็จ จะเป็นพันธบัตรแรกที่ออกในนามของสหภาพยุโรป แต่นักวิจารณ์ชาวเยอรมันมองว่าการขายพันธบัตรนี้จะเป็นการก่อหนี้ร่วมกันที่ใหญ่ที่สุดและยังเป็นการบังคับให้ผู้เสียภาษีชาวเยอรมันต้องชำระหนี้ให้กับชาวยุโรปตอนใต้ อย่างไรก็ตามคณะกรรมการแห่งสหภาพยุโรปมั่นใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการช่วยเหลือการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศสมาชิก 27 ประเทศและจะสามารถอนุมัติเงินได้ทันก่อนฤดูร้อนนี้
กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมันอายุ 10 ปีเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้น 4 จุดเบสิส ขึ้นมายังระดับติดลบ 0.311% นี่เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากผลสำรวจของสื่อท้องถิ่นรายงานว่านางอังเกลา แมร์เคิลกำลังเสียความนิยมจากประชาชนเพราะไม่สามารถจัดการบริหารวิกฤตโควิด-19 ได้ดี ตอนนี้เยอรมันกำลังจะล็อกดาวน์เป็นครั้งที่สามแล้วและคิดว่าประชาชนชาวเยอรมันอาจจะต้องฉลองอิสเตอร์แบบเงียบๆ ไปอีกหนึ่งเทศกาล
ผลสำรวจดังกล่าวยังระบุอีกว่าพรรคกรีนได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น 23% ตามหลังพรรคเดโมแครต คริสเตียนอยู่เพียง 2% เท่านั้น เพิ่มความเสี่ยงในกับนางอังเกลามากขึ้นว่าอาจต้องเสียเก้าอี้ผู้นำประเทศไปภายในการเลือกตั้งประจำชาติที่จะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนนี้
กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีอายุ 10 ปีก็มีความผันผวนสูงเช่นกัน เมื่อวานนี้กราฟผลตอบแทนมีตัวเลขอยู่ที่ 0.639% ผันผวนอยู่ในกรอบระหว่าง 0.598% - 0.658% อันเป็นผลกระทบมาจากกระจายวัคซีนล่าช้าและการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่