แม้ตลาดจะยังเชื่อว่าตัวเลข CPI ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมจะต้องเพิ่มขึ้น แต่หลังจากได้เห็นตัวเลขของเดือนกุมภาพันธ์ พวกเขาก็เบาใจเรื่องอัตราเงินเฟ้อลงได้บ้าง ทำให้กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงและดันดัชนีดาวโจนส์ให้สามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ ตอนนี้ความสนใจของตลาดอเมริกาหันไปอยู่ที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า $1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐที่เหลือเพียงแค่รอให้โจ ไบเดนลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายเท่านั้นซึ่งคาดว่าเขาจะอนุมัติในวันศุกร์นี้ จากนั้นกระทรวงการคลังก็จะสามารถดำเนินการส่งเงินเยียวยา $1,400 ตรงเข้าสู่บัญชีของชาวอเมริกันภายในวันนั้นได้เลย หากเป็นไปตามนี้เราเชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์จะต้องเปิดตลาดในแดนบวกอย่างแน่นอน
“สิ่งที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจของสวิตเซอร์แลนด์ในตอนนี้ได้คือเราต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินด้วยการปรับอัตราดอกเบี้ยลงไปเป็น -0.75% และอนุญาตให้สกุลเงินต่างประเทศสามารถไหลเข้ามาในประเทศ ถ้าสถานการณ์บังคับ ธนาคารกลางของเราก็พร้อมที่จะดำเนินตามมาตรการทั้งสอง” - รองผู้ว่าการธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์กล่าว
ตัดภาพไปที่การประชุมของธนาคารกลางแคนาดา (BoC) เมื่อวานนี้ได้ข้อสรุปว่าจะคงนโยบายการเงินเอาไว้ดังเดิมตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ ภาพรวมในภาคธุรกิจและผู้บริโภคยังสามารถเอาตัวรอดไปได้ภายใต้การล็อกดาวน์ในขณะที่กิจกรรมในตลาดซื้อขายที่อยู่อาศัยเติบโตขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์
“การฟื้นตัวของตลาดแรงงานยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เราเห็นแล้วว่าการจ้างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด นอกจากนี้การแพร่ระบาดของโควิดตัวแรกและตัวกลายพันธุ์ก็ยังเกิดขึ้นในหลายๆ พื้นที่ของประเทศ ส่งผลกระทบเชิงลบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้ภาครัฐยังมีความจำเป็นต้องล็อกดาวน์ต่อไปแม้จะกระทบต่อการเติบโตและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจก็ตาม” - BoC กล่าว
นี่คือข้อมูลล่าสุดที่เราทราบมาเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูโรโซนตอนนี้ การกระจายวัคซีนทำได้ช้ามากเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา มาตรการคุมเข้มทางสังคมยังมีผลบังคับใช้อยู่ในหลายๆ พื้นที่ ECB มีความเป็นกังวลเรื่องการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรฯ มากกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาไม่สอดคล้องกัน สรุปแล้วภาพเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของยูโรโซนคงยากที่จะใช้คำว่า “ฟื้นตัว” ได้