ตลาดตั้งข้อสงสัยกับการกระทำของเฟดทั้งที่บอนด์ยีลด์ทะยานขึ้นสู่ 1.6%

เผยแพร่ 10/03/2564 15:02

ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับกราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีที่ล่าสุดสามารถขึ้นแตะ 1.6% ได้เป็นที่เรียบร้อย การปรับตัวขึ้นครั้งนี้สะท้อนความสงสัยของนักลงทุนในตลาดเกี่ยวกับท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ยังยืนยันจะคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเอาไว้ดังเดิมจนกว่าการจ้างงานของสหรัฐฯ จะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างเต็มรูปแบบUST 10Y Weekly TTM

กราฟผลตอบแทนฯ อายุ 10 ปีสามารถขึ้นยืนเหนือ 1.6% ได้เมื่อวันพุธที่ผ่านมาก่อนจะปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดดังกล่าวเล็กน้อยและวิ่งอยู่ที่ 1.53% ตอนที่กำลังเขียนบทความ ในขณะเดียวกันกราฟอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์อายุ 10 ปียังคงวิ่งอยู่เหนือ 2% และวิ่งเข้าใกล้ 2.25% แต่สิ่งที่นักวิเคราะห์กำลังสังเกตกันอยู่คือกราฟอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์อายุ 5 ปีที่ขึ้นยืนเหนือ 2.5% ได้แล้ว หมายความว่ามีนักลงทุนบางกลุ่มที่เชื่อว่าถึงจุดๆ หนึ่งธนาคารกล่งสหรัฐฯ (FED) จะต้องแตะเบรกการทำ QE ในตอนนี้เพื่อหยุดขาขึ้นของกราฟผลตอบแทนฯ

การอนุมัติเงินกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า $1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเกือบ 1% ที่ 31,802 จุดขานรับสิ่งที่นักลงทุนเชื่อว่าจะเป็นข่าวดี แต่ข่าวดีเดียวกันนั้นกลับทำให้ราคาพันธบัตรปรับตัวลดลง สวนทางกับผลตอบแทนพันธบัตรฯ ที่สามารถกลับขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดที่ 1.6% ได้

ลดผู้ติดเชื้อ กระตุ้นเศรษฐกิจ ความต้องการที่ถูกอั้นไว้

ตอนนี้กระบวนการยืนยันการถือกำเนิดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า $1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเหลืออีกเพียงสองขั้นตอนเท่านั้น หนึ่งคือให้สภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบอีกหนึ่งรอบก่อนที่จะลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายโดยประธานาธิบดี มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้จะครอบคลุมทั้งการมอบเช็คให้กับประชาชนชาวอเมริกันทุกคน ขยายระยะเวลาการช่วยเหลือผู้ว่างงาน เร่งความเร็วการกระจายวัคซีนต้านโควิดและช่วยให้สหรัฐฯ กลับมาเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจให้ใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด

ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากคลายมาตรการล็อกดาวน์ลงแล้ว ทุกฝ่ายต่างคาดหวังกันไปต่างๆ นาๆ ความต้องการในบริการต่างๆ ที่ถูกอัดอั้นไว้ในช่วงโควิดจะพรั่งพรูออกมามากแค่ไหน? ประชาชนจะกล้านำเงินเก็บมาใช้มากเท่าไหร่? เงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตจะกลายเป็นผู้ทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อครั้งใหญ่หรือไม่? แต่รวมๆ แล้วคำถามที่ทุกคนถามกันเยอะที่สุดก็คือความเร็วในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ

ถ้าเฟดเห็นอัตราเงินเฟ้อขึ้นเร็วขนาดนี้พวกเขาจะดึง QE ออกหรือไม่? การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจะทำให้การฟื้นตัวสะดุดและเฟดจะไม่สามารถทำเป้าหมายการจ้างงานได้ตามเป้า? การประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีมูลค่า $38,000 ล้านเหรียญในวันนี้อาจเป็นตัวบอกใบ้ให้กับนักลงทุนและเฟดหลังจากที่ตัวแทนจำหน่ายพันธบัตรถูกบังคับให้รับธนบัตรอายุ 7 ปีเป็นจำนวนมากในการประมูลวันที่ 25 กุมภาพันธ์ซึ่งบางคนมองเหตุการณ์นี้ว่าโหดร้าย

ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของยูโรโซนก็ปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกันโดยมีสาเหตุมาจากการปรับขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ขึ้นยืนเหนือ $70 ต่อบาร์เรลได้เพราะข่าวการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดิอาระเบียแต่ไม่สำเร็จ

ธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่าพวกเขาได้ชะลอการซื้อพันธบัตรภายใต้โครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินเพื่อป้องกันโรคระบาด (PEPP) จากเดิมที่ 12,000 ล้านยูโรในสัปดาห์ก่อนลดลงเหลือ 11,900 ล้านยูโรในสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 3 มีนาคม แม้ว่าจะยังมีเงินเหลืออยู่ในโคงการอีก 1 ล้านล้านยูโร 

ECB ให้เหตุผลว่าสาเหตุที่ลดเงิน PEPP ลงนั้นเพราะเห็นว่ามีมูลค่าสูงเกิดไป แต่นักวิเคราะห์กลับเชื่อว่า ECB ทำเช่นนั้นเพราะต้องการลดความร้อนแรงของกราฟผลตอบแทนพันธบัตรของยูโรโซน ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของ ECB ซึ่งนักลงทุนจะรอดูว่า ECB จะมีอะไรพูดถึงการเข้าซื้อสินทรัพย์อีกหรือไม่

ธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็มีคิวที่ต้องประชุมในสัปดาห์เช่นกันซึ่งจะเป็นการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันที่ 16-17 มีนาคม แม้นักวิเคราะห์จะหวังให้เฟดแสดงความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อหรือผลตอบแทนพันธบัตรฯ ที่วิ่งขึ้นมาสูงสักนิด  แต่บางส่วนก็เชื่อว่าเฟดจะยังคงเน้นย้ำเรื่องขอฟื้นฟูการจ้างงานให้กลับมาดีดังเดิมก่อนเป็นแน่

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย