🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

มีเพียงประธานเฟดเท่านั้นที่เชื่อว่าปัญหาเงินเฟ้อยังไม่น่ากังวล

เผยแพร่ 02/03/2564 14:56
US500
-
US10YT=X
-

ตามความเห็นของเรา ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวลล์ควรจะทำได้ดีกว่านี้ในแถลงการณ์ต่อสภาคองเกรสเมื่อวันพุธที่แล้ว ความมั่นใจของเขาไม่ได้ทำให้นักลงทุนในตลาดรู้สึกปลอดภัยจากความกังวลอัตราเงินเฟ้อเลย และจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ยิ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อเบรกความร้อนแรงของเงินเฟ้อในเร็วๆ นี้

ในแถลงการณ์ต่อสภาคองเกรส ประธานเฟดได้ให้เหตุผลว่าที่ยังไม่ควรแตะเบรก QE หรือหยุดช่วยเหลือเศรษฐกิจในตอนนี้เป็นเพราะตัวเลขการจ้างงานซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของเฟดยังไม่ได้เพิ่มขึ้นจนอยู่ในระดับที่น่าพอใจแม้ว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะวิ่งเข้าใกล้ 2% นอกจากนี้นายเจอโรม พาวเวลล์ยังย้ำว่าอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ยังคงจะอยู่กับพวกเราไปอีกนาน ตลาดหุ้นมีปฏิกริยาต่อคำพูดของประธานเฟดทันที ในตอนแรกตลาดปรับตัวขึ้นจากความดีใจ แต่ท้ายที่สุดตลาดหุ้นก็ปรับตัวลดลงในวันถัดมา

สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นข่าวดีตอนนี้กลายเป็นว่าเริ่มสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ตลาดไม่ได้คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสามารถเพิ่มขึ้นได้เร็วขนาดนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มหวาดกลัวกับข่าวดีอย่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า $1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐของโจ ไบเดนว่าอาจจะเป็นโทษมากกว่าเป็นคุณต่อระบบบเศรษฐกิจ

สิ่งที่ขัดใจนักลงทุนเป็นอย่างมากคือความเชื่อมั่นของประธานเฟด

“ประเทศสหรัฐอเมริกาของเราในตอนนี้ยังอยู่ไกลจากเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานที่เราตั้งเอาไว้ กว่าที่เราจะกลับไปอยู่ในช่วงก่อนโควิดได้นั้นยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควร”

ตอนนี้สิ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ สนใจมีเพียงเรื่องเดียวนั่นคือ “การจ้างงานที่ต้องทำให้กลับมาใกล้เคียงกับระดับปกติโดยเร็วที่สุด”

นักลงทุนในตลาดพันธบัตรรัฐบาลกำลังให้ความสนใจกับการรักษาเสถียรภาพของธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นอย่างมากว่าพวกเขาจะทำเช่นไรเมื่อผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีสามารถขึ้นแตะ 1.6% ได้ นั่นหมายความว่านักลงทุนกำลังเทขายพันธบัตรรัฐบาลซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่มีต่อการบริหารในภาคการเงินของรัฐ

เลล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ เน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญว่าทำไมเฟดต้องให้ความสำคัญกับการจ้างงานมากขนาดนี้ เธอกล่าวว่าอัตราที่จริงแล้วอัตราการว่างงานมีโอกาสเข้าใกล้ 10% มากกว่าที่จะวิ่งอยู่ที่ 6.3% เพราะโควิดทำให้สหรัฐอเมริกามีคนตกงานมากกว่าสี่ล้านคนและมีคนตกงานอีกมากมายที่ไม่ได้ถูกนับรวมอยู่ในตัวเลขอัตราการว่างงานอย่างที่เราเห็นกันทุกวัน

นอกจากเจอโรม พาวเวลล์และนางเลล เบรนาร์ดแล้ว คณะกรรมการคนอื่นๆ ของเฟดก็ไม่สนใจความกังวลของนักลงทุนในตลาดด้วยเช่นกัน เจมส์ บลูราร์ด ประธานเฟดแห่งเซนต์ หลุยส์กล่าวว่าเป็นเรื่องปกติของเศรษฐกิจที่เติบโตจะต้องมาควบคู่กับอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้นการที่เราเห็นผลตอบแทนฯ อายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นเช่นนี้ถือว่าเหมาะสมแล้ว

UST 10Y 300-Minute Chart

แม้ว่าเจมส์จะประเมินตัวเลขผลตอบแทนอายุฯ 10 ปีเอาไว้ที่ 1.3% แต่นักลงทุนกลับเชื่อว่ามีโอกาสได้เห็นผลตอบแทนขึ้นไปถึง 2.0% ได้ ถึงจะขึ้นไปถึง 2.0% เจมส์บอกว่าก็ยิ่งเป็นเรื่องน่ายินดีเพราะจะยิ่งทำให้เงินเฟ้อสามารถขึ้นไปถึงเป้าหมาย 2% ของเฟดได้เร็วยิ่งขึ้น

เอสเทอร์ จอร์จ ประธานเฟดแห่งเมืองเคนซัสแม้จะสนับสนุนแนวคิดของเจมส์และเจอโรม แต่เธอก็ไม่ได้ออกตัวสนับสนุนเรื่องเงินเฟ้อเหมือนกับเจมส์ เธอเพียงให้ความเห็นอย่างสุภาพว่า

“ในฐานะผู้วางนโยบายการเงิน เราไม่อาจดำเนินนโยบายตามพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ได้ รู้หรือไม่ว่าบางภาคส่วนอย่างเช่นสินค้าคงทนที่กำลังเติบโตได้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีบางภาคส่วนที่ยังไม่สามารถฟื้นคืนได้อย่างเต็มกำลัง ในฐานะตัวแทนเฟด ดิฉันอยากให้นักลงทุนลองกลับไปดูความจริงว่าความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในตอนนี้เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องที่กุขึ้นมาเองเพื่อหวังซื้อหุ้นในราคาถูกลง”

นอกจากนี้เธอยังให้คำแนะนำนักลงทุนด้วยว่าให้ระวังอัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในจังหวะประชาชนชาวอเมริกันทุกคนได้รับวัคซีนแล้ว เพราะนั่นจะทำให้ความต้องการในบางภาคส่วนที่เคยขาดหายไปกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเวลานั้นมาถึง คณะกรรมการผู้ดูแลนโยบายการเงิน (FOMC) จะจับตาดูอย่างใกล้ชิดและถ้าเราเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนเมื่อไหร่ จะมีการประชุมเพื่อหารือเรื่องการเปลี่ยนนโยบายทันที

เมื่อนักข่าวถามเธอเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล เอสเธอร์ก็ตอบว่า

“หากมอกในอีกแง่หนึ่ง นี่คือสัญญาณบ่งบอกว่าเงินที่เฟดอัดฉีดเข้ามาในระบบกำลังทำหน้าที่ในแง่ของการฟื้นฟูได้เป็นอย่างดี แต่ส่วนตัวแล้วดิฉันมองว่าการเติบโตที่แท้จริงต้องทำให้ผลตอบแทนจากการถือพันธบัตรหลังหักเงินเฟ้อ (Real Yield) มีค่าเป็นบวกด้วยซึ่งเท่าที่ดิฉันเห็นตอนนี้ Real Yield ยังมีอัตราส่วนเป็นลบอยู่นะ”

ในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ประธานเฟดจะมีขึ้นพูดที่งาน Wall Street Journal Summit แม้จะเหลือความหวังเพียงน้อยนิด แต่นักลงทุนก็ยังหวังว่าประธานเฟดจะเปลี่ยนใจส่งสัญญาณว่าอยากแตะเบรกเงิน QE บ้างสักเล็กน้อยก็ยังดี

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย