ความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลล์ สตรีททำราคาปิดสูงสุดได้อีกเช่นเคย ดัชนีแนสแด็กปรับตัวขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้ว 1.7% ตามมาด้วยดัชนีเอสแอนด์พี 500และดัชนีดาวโจนส์ตัวละ 1.2% และ 1% ตามลำดับ ในขณะเดียวกันดัชนีวัดความผันผวนของตลาด (CBOE VIX Volatility Index) ได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 20 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2020
แม้ว่าการรายงานผลประกอบการของบริษัทชื่อดังส่วนใหญ่จะผ่านไปแล้วและเราจะมีเวลาลงทุนในสัปดาห์นี้น้อยลงหนึ่งวันเพราะวันนี้เป็นวันหยุดเนื่องในวันประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังได้คัดหุ้นที่น่าจะถูกจับตามองในสัปดาห์นี้และหุ้นที่ไม่ควรถือเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเอามาฝากคุณผู้อ่านอีกเช่นเคย
หุ้นน่าถือ: Roku
บริษัทผู้สร้างเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการรับชมภาพยนตร์สื่อสตรีมมิงภายในอุปกรณ์เดียว “Roku” (NASDAQ:ROKU) จะรายงานผลประกอบการในวันที่ 18 กุมภาพันธ์หลังตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด การเติบโตของบริษัททำให้ตอนนี้ Roku มีสถิติรายงานผลประกอบการเอาชนะตัวเลขคาดการณ์มาได้ 13 ไตรมาสติดต่อกันโดยเริ่มนับมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2017
นักวิเคราะห์ประเมินว่ากำไรในการปันผลของหุ้นไตรมาสที่จะดีขึ้นจากติดลบ 13 เซนต์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วขึ้นมาเป็น 6 เซ็นต์ ส่วนกำไรในไตรมาสนี้นั้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 49% แบบ YoY คิดเป็นเงิน $613.9 ล้านเหรียญสหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงภาพการเติบโตของความต้องการรับชมภาพยนตร์สตรีมมิ่ง
นอกจากการรายงานตัวเลขผลกำไรในไตรมาสนี้และความสามารถในการปันผลต่อหุ้นแล้ว นักลงทุนยังต้องการดูว่า Roku จะสามารถรักษารายได้เฉลี่ยของผู้ให้บริการต่อลูกค้าหนึ่งคน (ARPU) และผู้ใช้งานในปัจจุบันเอาไว้ได้ดีแค่ไหน ในการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สาม Roku สามารถรายงานตัวเลขยอดผู้ใช้งานเติบโต 43% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 คิดเป็นจำนวนผู้ใช้งาน 46 ล้านคน ส่วนตัวเลข ARPU นั้นเพิ่มขึ้น 20% คิดเป็น $27 ในช่วงเวลาเดียวกัน
ในรอบ 12 เดือนล่าสุด Roku ถือเป็นหุ้นที่ทำผลงานได้น่าจับตามองที่สุดตัวหนึ่งของตลาดลงทุน เฉพาะปี 2020 ปีเดียวหุ้น Roku สามารถเติบโตขึ้นมาได้ 165% และในรอบหกสัปดาห์ล่าสุดนี้ก็ยังสามารถปรับตัวขึ้นมาได้อีก 41% ล่าสุดหุ้น Roku มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $468.67 ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $479.95 เล็กน้อย บริษัทมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ $58,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนตัวแล้วเราเชื่อว่าการเติบโตของธุรกิจภาพยนตร์สตรีมมิ่งในปีนี้จะยิ่งส่งผลให้หุ้น Roku มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญด้วย
หุ้นน่าทิ้ง: Virgin Galactic
เชื่อว่าหุ้นของบริษัทผู้พัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวในอวกาศ “Virgin Galactic” (NYSE:SPCE) อาจได้รับแรงกดดันของขาลงเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้หลังจากที่บริษัทตัดสินใจเลื่อนการทดสอบยานอวกาศรุ่น SpaceShipTwo ออกไปอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ Virgin Galactic เคยยกเลิกทดสอบการบินไปเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมซึ่งการยกเลิกในครั้งนั้นทำให้หุ้นบริษัทตกลง 27% ภายในสัปดาห์ถัดมา
Virgin Galactic ได้ทวิตถึงสาเหตุที่เลื่อนการทดสอบออกไปเป็นเพราะต้องการตรวจสอบทางเทคนิคเพิ่มเติม แม้ว่าบริษัทจะยังไม่ได้ประกาศวันเวลาที่จะทดสอบในครั้งถัดไปออกมา แต่นักวิเคราะห์ที่อ้างอิงคำพูดของโฆษกบริษัทเชื่อว่า Virgin Galactic อาจประกาศทดสอบใหม่ได้ภายในเดือนนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและการอนุญาตจากองค์การควบคุมการบินของสหรัฐฯ (FAA)
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หุ้นบริษัทมีราคาปิดอยู่ที่ $54.59 ปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดตลอดกาล $62.70 คิดเป็นการปรับตัวลดลง 8% บริษัทมีมูลค่าตลาดล่าสุดอยู่ที่ $12,800 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้จะพึ่งผ่านมาเพียงหนึ่งเดือนกับอีกสิบห้าวัน แต่หุ้นของ Virgin Galactic ก็ได้ปรับตัวขึ้นมาแล้วเกือบ 130% ในปี 2021
สิ่งที่นักลงทุนต้องจับตาดูเอาไว้ของหุ้น Virgin Galactic คืออัตราส่วนยอดขายต่อราคาหุ้น (P/S Ratio) การที่ตอนนี้หุ้นบริษัทมี PSR มากกว่า 3,200 ยิ่งทำให้การเปิดตัวธุรกิจท่องเที่ยวอวกาศครั้งแรกไม่อาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้