กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทันทีที่เปิดตลาดลงทุนเมื่อวันจันทร์บนความคาดหวังว่าจะได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่จากรัฐบาลโจ ไบเดน กราฟผลตอบแทนฯ อายุ 30 ปีปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาด 2% ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดในวันดังกล่าว
เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกากล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าการจ้างงานของประเทศจะสามารถกลับไปเป็นเหมือนช่วงก่อนโควิด-19 ได้ภายในปีหน้าหากเงินเยียวยามูลค่า $1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐของโจ ไบเดนได้รับอนุมัติจากทั้งสองสภา ในฐานะที่เธอเคยเป็นประธานธนาคารกลางมาก่อน เยลเลนรู้ดีว่าเงินจำนวนนี้จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อกรกับวิกฤตการเงิน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสภาสูงได้ลงมติเพื่อผลักดันแพคเกจดังกล่าวโดยคิดจะใช้วิธีการรวมยอดงบประมาณ (Budget Reconciliation) ซึ่งเป็นเทคนิคที่เดโมแครตจะใช้เพื่อให้การอนุมัติเงินเยียวยาสามารถผ่านการไม่เห็นชอบของรีพับลิกันได้
อย่างไรก็ตามนายแลรี่ ซัมเมอร์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้แย้งนางเจเน็ต เยลเลน ว่าหากอนุมัติจำนวนเงินดังกล่าวอาจนำไปสู่ปัญหาเงินเฟ้อที่จะมาถึงเร็วขึ้น เพราะในอดีต (ปี 2009) แลรี่เคยอยู่ในสมัยที่รัฐบาลต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจซึ่งด้วยความกลัวอัตราเงินเฟ้อในตอนนั้น รัฐบาลจึงออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยพยายามกดตัวเลขเอาไว้ไม่ให้ขึ้นเกิน $1,000,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สุดท้ายแล้วความพยายามนั้นทำให้เศรษฐกิจของอเมริกาฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น
ตอนนี้เยลเลนจึงไม่อยากทำผิดซ้ำสอง แม้ว่าแลรี่จะออกโรงเตือนเรื่องปัญหาเงินเฟ้อแต่อีกใจหนึ่งเขาก็เข้าใจว่าทำไมเยลเลนถึงอยากให้เงินเยียวยา $1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐผ่านมติเห็นชอบให้ได้
“ไม่มีเหตุผลใดที่ทำไมพวกเราต้องทนอยู่ในสภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ล่าช้า ฉันเชื่อว่าถ้าเงินเยียวยา $1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐผ่านความเห็นชอบแล้ว การจ้างงานภายในประเทศจะกลับสู่สภาวะปกติภายในปี 2022” - เจเน็ต เยลเลน กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับรายการทีวีแห่งหนึ่งในช่วงเช้าของวันอาทิตย์
นอกจากซัมเมอร์แล้ว ประธานธนาคารกลางเซนต์หลุยส์นายเจมส์ บลูราร์ดเห็นด้วยกับซัมเมอร์ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องพึ่งพามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ บลูราร์ดมีเหตุผลรองรับจากกราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่เคยขึ้นไปถึง 2.2% ได้เป็นครั้งแรกในรอบสองปี เกินกว่าตัวเลขที่ตั้งเอาไว้ 2%
แต่ก็ไม่ใช่ประธานธนาคารกลางทุกคนที่กลัวปัญหาเงินเฟ้อ โทมัส บาร์กิ้น ประธานธนาคารกลางริชมอนต์ให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ว่าเขายังไม่กังวลเรื่องของอัตราเงินเฟ้อในตอนนี้ ส่วนตัวแล้วเขากลัวปัญหาเงินฝืดมากกว่านั่นคือเหตุผลว่าทำไมการกระตุ้นเศรษฐกิจควรเกิดขึ้น
สถานการณ์เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในตอนนี้ดูเหมือนว่าโจ ไบเดน จะยอมเรื่องการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น $15 ไปแล้ว แต่ยังพยายามต่อรองให้สามารถได้วงเงินใกล้เคียงหรือเท่ากับ $1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเท่าที่จะเป็นไปได้
จากรูปจะเห็นว่ากราฟพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวลดลงมาวิ่งต่ำกว่า 1.17% หลังจากขึ้นไปแตะ 1.2% ได้ กราฟผลตอบแทนฯ อายุ 30 ปีแม้จะยังไม่สามารถยืนเหนือ 1.95% ได้แต่ก็ยังถือว่าอยู่ระดับที่สูงกว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สัปดาห์นี้กระทรวงการคลังมีแผนที่จะขายพันธบัตรรัฐบาลอีก $126,000 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าการขายครั้งนี้จะเป็นสาเหตุให้กราฟผลตอบแทนฯ ปรับตัวขึ้นต่อไปอีก
กราฟผลตอบแทนฯ อายุ 2 ปียังคงอยู่ในระดับต่ำเพราะนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่มีทางที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้แน่นอน ยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้กราฟผลตอบแทนพันธบัตรฯ ระยะยาวได้โอกาสปรับตัวขึ้นต่อ ช่องว่างระหว่างกราฟผลตอบแทนฯ 2 ปีกับ 10 ปีในตอนนี้มีตัวเลขอยู่ที่ 109 จุดเบสิส