ทำไมการเข้าซื้อ Bitcoin ในคืนนี้ของ Tesla (NASDAQ:TSLA) ถึงทำให้ KP มั่นใจในอนาคตของบริษัท Tesla และ Bitcoin มากขึ้นไปอีก ?
ทางเพจได้เขียนถึงมุมมองในเรื่องของ Tesla และ Bitcoin ไปหลายบทความแล้ว หวังว่ามันจะมีประโยชน์และช่วยให้นักลงทุนทุกท่าน ทันโลก มากขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับ ใครอยากเป็นกำลังใจให้ทางเพจเขียนบทความออกมาเรื่อยๆ รบกวนช่วย กด like กด share กดติดตาม กดตั้งค่ารายการโปรดไว้นะครับ มันมีความหมายกับทางทีมงานมากจริงๆ
วันนี้ทางเพจจะมาอธิบายในอีกหนึ่งแง่มุมว่าทำไมทางเพจถึงยิ่งเชื่อมั่นใน Tesla และ Bitcoin มากขึ้น หลังจากทาง Elon Musk ตัดสินใจซื้อ Bitcoinไปมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านเหรียญเข้าไปเก็บแทนเงินสดของ Tesla คืนนี้
1️. ทางเพจได้พูดถึงมุมมองของหุ้น Tesla อย่างชัดเจนมาโดยตลอด แต่เมื่อพูดถึง Bitcoin อดีตทางเพจยังไม่ได้มีความมั่นใจมากเท่า จึงอยากเพียงแนะนำให้ลองกระจายการลงทุนออกไปใน Bitcoin เพียง 1%-2% ของพอร์ตเท่านั้น
2️. อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในคืนนี้นั้นทำให้แอดเริ่มมีความมั่นใจในตัวของ Bitcoin มากขึ้นไปอีกเท่านึง เพราะว่าจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่แอดรออยู่ได้ถูกเฉลยออกมาแล้ว
3️. แอดชื่นชมและติดตามบุคคล 3 ท่าน และพยายามวางแผนการลงทุนตามพวกเขามาโดยตลอด เชื่อว่าใครที่ติดตามทางเพจอยู่เป็นประจำคงพอจะเดาได้ พวกเขาคือ
1) Cathie Wood - หัวหน้ากองทุน ETF - Ark Innovation
2) Chamath Palihapitiya - ผู้ก่อตั้ง Social Capital
3) Elon Musk - CEO ของ Tesla และ SpaceX
4️. แอดนับถือในมุมมองของโลกอนาคตของทั้ง 3 ท่านมากๆ และเมื่อไหร่ที่ทั้ง 3 คนมีมุมมองที่ตรงและ Align กัน แอดจะใช้จุดตรงนั้นเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาต่อไปว่าควรจะลงทุนในเรื่องนั้น หรือในสินทรัพย์นั้นหรือไม่
5️. แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ทั้ง 3 คนมองเห็นตรงกันก็คือหุ้นบริษัท Tesla
1) ทาง Elon Musk นั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าเป็นผู้นำของบริษัท
2) ทาง Cathie Wood ได้ออกมาบอกในปี 2018 ว่าราคาหุ้น Tesla จะโตขึ้น 10 เท่า จนทำให้เธอโด่งดังและแอดก็ได้รู้จักชื่อเธอหลังจากนั้นไม่นาน
3) ทาง Chamath นั้นเป็นผู้ลงทุนในหุ้น Tesla รุ่นแรกๆ และเป็นคนเปิดมุมมองให้แอดพยายามศึกษาบริษัท Tesla ในมุมของบริษัทพลังงาน
พอมุมมองของทั้ง 3 ท่านที่มีต่อ Tesla นั้นตรงกันขนาดนี้ ทำให้ความมั่นใจบน Tesla ของแอดเพิ่มสูงขึ้นมาเรื่อยๆ
6️. ถึงแม้หลายท่านอาจจะมองว่า การแค่ลงทุนตามคนเพียง 3 คน จะเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนได้หรือ ?
แอดเชื่อว่าหากเราตามใครคนใดคนหนึ่งมันก็อาจจะมีความเสี่ยง แต่ถ้าเรามุ่งเน้นการลงทุนลงไปในสิ่งที่ทั้ง 3 ท่านมองเห็นตรงกัน นั้นก็หมายความว่า เรามีคนที่มองอนาคตของโลกทะลุปรุโปร่ง มาช่วยเช็ค Thesis ในการลงทุนของเรามากถึงอีก 3 แรง
เรียกได้ว่าสินทรัพย์หรือบริษัทไหนที่สามารถผ่านด่านมาให้ได้ถึง 3 ล็อค ก็เหมาะสมมากแล้วที่แอะจะนำไปศึกษาต่อในการเตรียมลงทุน
7. อีกทั้งแอดชื่นชมแนวคิดของ Chamath มากๆ และเขาก็ได้ออกมาพูดบ่อยๆว่า "อย่าอายที่จะตัดสินใจ ลงทุนตามคนที่เราเชื่อมั่นหากเราศึกษาเขามาอย่างดีแล้ว คนเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรซับซ้อนมากมายเพื่อให้ประสบความสำเร็จ เราเพียงแค่หา Role Model ที่เราชื่อชม และก็ Copy เขาไปให้มากที่สุดก็พอ"
ขอบคุณครับ Chamath เพราะแอดไม่เคยอายที่จะลงทุนตามคุณเลย
คืนนี้เป็นคืนที่มีความหมายมากสำหรับ Bitcoin
8️. ก่อนหน้านี้ถึงแม้มุมมองของทั้ง 3 ท่านในเรื่อง Tesla จะตรงกันเป๊ะๆ แต่มุมมองในเรื่องของ Bitcoin นั้นยังไม่ตรงกันซะทีเดียว
1) Cathie Wood มองว่าราคา Bitcoin นั้นจะเพิ่มไปได้สูงถึง 400,000 เหรียญ หรือสูงกว่าปัจจุบันอีกเกือบ 10 เท่า ! เพราะ Bitcoin นั้นเป็นไอเดียที่ใหญ่กว่า Apple (NASDAQ:AAPL) หรือ Amazon เสียอีก
2) Chamath ก็เป็นอีกคนที่มองว่าราคา Bitcoin จะไปที่อย่างน้อย 200,000 เหรียญแน่ๆ และก็มีข่าวลือว่าเขาเคยถือ Bitcoin อยู่เป็นสัดส่วนที่สูงถึง 5% ของโลกนี้อีกด้วย ! หากเป็นจริงจะมีมูลค่าสูงถึง 3 หมื่นล้านเหรียญหรือกว่าล้านล้านบาทเลยทีเดียว
3) ในขณะที่ Elon ถึงแม้จะดูเหมือนเขาจะคิดว่า Bitcoin นั้นมันเข้าท่าดี แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณอะไรจริงจังว่าเขาเชื่อมั่นและตั้งใจจะพลักดัน Bitcoin อย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทาง Elon ไม่ได้ถือ Bitcoin อยู่ในมือเลยด้วยซ้ำ (ใครสนใจบทความที่เราเคยเขียนเล่าถึงความเห็นของ Bitcoin ที่ Elon ให้ไว้ทั้งหมดลองอ่านดูในคอมเม้นท์ได้เลยนะครับ)
9️. อย่างไรก็ตาม มุมมองของ Elon นั้นเริ่มเปลี่ยนไป และมันก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ Gamestop ขึ้น นอกจาก Elon จะเปลี่ยน Status บน Twitter มาเป็น Bitcoin และต่อมาก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างจริงจังว่าเขาเชื่อมั่นใน Bitcoin ผ่านแอป Open House และล่าสุดยังได้ส่งทีมการเงินของ SpaceX ไปร่วมสัมมนาเรื่องการถือ Bitcoin แทนเงินสดของบริษัทกับ Michael Saylor อีก
10. และแน่นอนว่าคงไม่มีสัญญาณไหนชัดเจนไปกว่า การเปลี่ยนเงินสดใน Tesla มาเป็น Bitcoin ซึ่งจะทำให้ Elon ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Tesla นั้น ถือว่ามี Bitcoin ในการครอบครองด้วย
11. เหตุการณ์นี้จึงทำให้มุมมองของบุคคลทั้ง 3 ในเรื่องของ Bitcoin นั้นตรงกันอย่างพอดิบพอดี
ทำไมการที่ Tesla เข้ามาถือ Bitcoin เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก
1️2. หลายคนอาจจะยังไม่ได้เห็นในรายละเอียด แต่จริงๆแล้วทาง Tesla กล่าวว่าพร้อมจะเปิดให้บริการให้ลูกค้าซื้อรถยนต์ด้วย Bitcoin ได้ด้วย ! ยิ่งเป็นการเปิดทองเลือกในการใช้ Bitcoin มากขึ้น และด้วยยอดขายรถบริษัท Tesla ที่กำลังจะโตอย่างก้าวกระโดนและนับเป็นมูลค่ากว่าหลายแสนล้านเหรียญต่อปี ก็จะยิ่งเป็นการเปิดช่องให้การใช้ Bitcoin สะพัดขึ้นไปอีก
1️3. และที่สำคัญคือการเปลี่ยนแปลงของ Tesla ครั้งนี้อาจจะทำให้เกิด Ripple Effect (ไม่ใช่ XRP Ripple นะ) หรืออาจจะทำให้เกิด Domino Effect ให้มีบริษัทอีกมากที่นำการถือ Bitcoin แทนเงินสดมาใช้กัน
14. ในงานสัมมนา WORLD.NOW เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาที่ทาง MicroStrategy ของ Michael Saylor ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน เขาได้เชิญผู้บริหารองค์กรต่างๆกว่าหลายร้อยบริษัท เข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการนำ Bitcoin มาใช้กับการเก็บเงินสด หรือเป็นพอร์ตการลงทุนที่ดีสำหรับองค์กรด้วย ทำให้เราเชื่อว่าในไม่ช้าอาจมีอีกหลายบริษัทเปิดตัวตามมา
15. และยิ่งมีบริษัททำกันมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็จะเกิด Network Effect หรือยิ่งดึงให้คนอื่นๆเข้ามาใช้มากขึ้นไปอีก สิ่งที่พิเศษสำหรับ Bitcoin คือ #ยิ่งราคายิ่งสูงความต้องการจะยิ่งมาก เพราะในเมื่อมันมีจำนวนจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น และยิ่งวันหากมีคนยิ่งทำหายหรือลืม Password ก็อาจจะทำให้ปริมาณลดลงไปเรื่อยๆ
16. ทางเพจจะคอยติดตามอย่างใกล้ชิดว่าจะมีบริษัทไหนประกาศใช้ Bitcoin มากขึ้นหรือไม่อย่างไรลองติดตามกันได้เลยครับ
กังวลไหมที่ Bitcoin ส่วนใหญ่ อยู่ในมือคนไม่กี่คน ทำให้พวกเขาอาจจะปั่นราคากันได้ ?
17. จากรายงานที่เคยได้รับมา Bitcoin มีการกระจุกตัวอยู่ในมือคนจำนวนไม่มาก โดยเชื่อว่า 90% ของ Bitcoin ทั้งหมดในตลาดอยู่ในมือคนแค่ 2% ที่ถือครอง Bitcoin ทั้งหมดเท่านั้น
18. แน่นอนว่าหากคนกลุ่มนี้เขาคิดที่จะเทขาย Bitcoin ลงมาพวกเขาก็สามารถทำได้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่ามันเลยจุดที่พวกเขาจะสามารถกดราคา Bitcoin ให้เป็น 0 ได้เลย ตอนนี้ด้วยเทคโนโลยีของ Bitcoin ที่ได้ชื่อว่าเป็นเงินที่สมบูรณ์แบบที่สุด เริ่มได้รับการยอมรับและเป็นที่ใช้จ่ายอย่างแพร่หลายมากขึ้น เชื่อว่าถ้ากลุ่มคนพวกนี้จะเทขายลงมาก็จะมีคนจำนวนมากรอซื้ออยู่เช่นกัน
19. และส่วนตัวเชื่อว่า Elon Musk ไม่ได้จะมาหลอกพวกเรา ทาง Elon นั้นคงมุ่งมั่นกับการพามนุษย์ไปดาวอังคารเท่านั้น และเพื่อจะทำเช่นนั้นให้สำเร็จเขาจำเป็นต้องการเงินทุน และเขาคงมองว่าการเปลี่ยนเงินสดมาเป็น Bitcoin จะช่วยทำให้เงินในบัญชีของ Tesla มูลค่าสูงขึ้นในระยะยาวเท่านั้น คงไม่ได้คิดที่จะมาปั่นราคาหรอก
ติดตามข่าวสารการลงทุนที่น่าสนใจไปกับ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP