สรุป ราคาทองคําวานนี้ ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.81 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อทองคํากายภาพของจีนในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ท่ามกลางแรงขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง
ทั้งนี้ สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นสหรัฐได้รับแรงหนุนจากความหวังว่าสภาคองเกรสจะเร่งอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ที่นําเสนอโดยนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
นอกจากนี้ตลาดหุ้นยังได้แรงหนุนเพิ่มจากการเปิดเผยผล ประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ โดยเฉพาะโกลด์แมน แซคส์อีกด้วย ซึ่งการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยสําคัญที่หนุนให้ราคาทองคําฟื้นตัวขึ้นทําระดับสูงสุด บริเวณ 1,845.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดีราคาทองคําไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐได้บั่นทอนความต้องการทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นกัน ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -3.50 ตันสู่ระดับ 1,174.13 ตันจึงเป็นสกัดช่วงบวกของราคาทองคําเพิ่มเติม ขณะที่วานนี้นางเจเน็ต เยลเลน แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้าน การเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐ ในระหว่างการประชุมเพื่อโหวตรับรอง (confirmation hearing) ว่าค่าเงินต้องเป็นไปตามกลไกตลาด พร้อมกับสนับสนุนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของไบเดน ซึ่งถือว่าเป็นไปตามที่ตลาดประเมินไว้จึงไม่ได้สร้างความผันผวนให้แก่ราคาทองคําแต่อย่างใด
สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย โดย NAHB พร้อมจับตาสถานการณ์ทางการเมืองใน สหรัฐรวมถึงถ้อยแถลงของนายโจ ไบเดน ที่วันนี้ จะมีพิธีสาบานตนเพื่อเข้ารับตําแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอย่างเป็นทางการ
ราคาทองคํามีการแกว่งตัวผันผวนในช่วงที่ผ่านมา แต่ระยะสั้นก็มีแรงดีดกลับและพยายามจะดีดตัวขึ้นไป ทดสอบแนวต้านระดับ 1,856 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้อย่างมั่นคง อาจเกิดแรงขายแต่หากยืน 1,818-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะเกิดแรงซื้อให้ทดสอบแนวต้านอีกครั้ง
คําแนะนํา
หากราคาทองคํายังสามารถไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,856 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทําให้เกิดการอ่อนตัวลงของราคาแต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับ 1,818-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้น
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International