หากจะมีช่วงเวลาไหนที่นักลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัยไม่รู้ว่าควรเทรดอย่างไรดี…ก็คงจะเป็นช่วงเวลานี้
และหากมีช่วงเวลาที่ทองคำควรพุ่งทั้งๆ ที่มีปัจจัยเสี่ยงรออยู่ข้างหน้ามากมาย...ก็คงต้องเป็นตอนนี้อีกเช่นกัน
เป็นเวลากว่าสองวันแล้วที่ราคาทองคำทั้งซื้อขายล่วงหน้าและสปอตปรับตัวขึ้นอยู่ในกรอบแคบๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ย่อลงมาเพราะข่าวดีที่ทั้งโลกขานรับวัคซีนต้านโควิด อย่างไรก็ตามขาลงนั้นไม่ได้สร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญมากเพราะว่าทองยังมีปัจจัยหนุนอย่างยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น และความคาดหวังที่มีต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่หวังว่าจะสามารถออกมาได้ก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงดึกของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย
ตั้งแต่ร่วงลงมาจากระดับราคาประมาณ $1,900 ราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าก็วิ่งอยู่ในกรอบระหว่าง $1,830 - $1,850 ก่อนจะสร้างความตกใจให้กับนักลงทุนเมื่อราคาร่วงลงไปยัง $1,767.20 ก่อนที่จะดีดตัวกลับขึ้นมาอยู่ที่ $1,880 ได้ในวันที่ 8 ธันวาคม เรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทองคำกลับมาได้เป็นจำนวนมาก แต่การที่ทองคำไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงของผู้ที่ศรัทธาในทองคำเช่นกัน ไม่ใช่ว่าไม่พยายาม ทองคำได้พยายามที่จะกลับขึ้นไปยังจุดสูงสุดล่าสุดแล้วในสัปดาห์นี้แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านด่านแนวต้านสุดแกร่งที่ $1,845 ขึ้นไปได้
เรื่องราวขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังทองคำก็ยังเป็นปัจจัยเดิมๆ นักลงทุนฝั่งขาขึ้นยังเชื่อมั่นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะต้องออกมาแน่ไม่ว่าทั้งสองพรรคอย่างเดโมแครตและรีพับลิกันจะทะเลาะกันเกี่ยวกับตัวเลขเงินเยียวยาที่เหมาะสมนานแค่ไหนก็ตาม แต่ปัจจัยที่คอยกดดันทองคำอยู่ก็คงคงเป็นข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านโควิดซึ่งในวันจันทร์บริษัทไฟเซอร์ (NYSE:PFE) ก็ได้นำร่องฉีดยาให้กับบุคลากรทางการแพทย์คนแรกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อปัจจัยทั้งสองฝั่งตามมีแรงสนับสนุนที่สมเหตุสมผลกันทั้งคู่ ราคาทองคำจึงไม่สามารถขยับไปไหนได้มากนัก
โอกาสการทะลุกรอบไซด์เวย์ก่อนการประชุมเฟด
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนทองคำอาจฉวยโอกาสพาราคาทะลุกรอบไซด์เวย์ขึ้นไปก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่ม นี่คือการประชุมและโอกาสในการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี 2020 แน่นอนว่าการประชุมครั้งนี้ไม่มีใครสนใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยกันอีกแล้วเพราะเฟดก็ได้ออกมาย้ำอยู่ตลอดทั้งปีว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยใดๆ อีกทั้งนั้นไปอีกนาน
นักวิเคราะห์ประเมินว่าการประชุมครั้งนี้อาจออกมาได้ในหลายรูปแบบเช่นเฟดอาจตัดสินใจใช้เงินอีก $120,000 ล้านเหรียญสหรัฐในการซื้อบอนด์ หรืออาจจะปรับเงื่อนไขในการซื้อสินทรัพย์ให้ลดความรัดกุมและง่ายต่อการช่วยเหลือภาคธุรกิจมากยิ่งขึ้น
เฟดจะเดินเกมแบบไหนในการประชุมครั้งนี้
อันที่จริงแล้วเฟดก็ได้ทำอะไรมากมายเพื่อพยุงเศรษฐกิจไปตั้งแต่ต้นปีและช่วงกลางปีแล้ว ดังนั้นโอกาสในการเคลื่อนไหวในสเกลระดับใหญ่อย่างที่เคยทำในช่วงเดือนสิงหาคมนั้นจึงเกิดขึ้นได้ยาก ยิ่งมีความเป็นไปได้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกำลังจะออกมาอยู่แล้ว เฟดจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเพิ่มเงินเข้าไปในระบบมากเกินไปกว่านี้ ที่สำคัญมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ยังครอบคลุมไปถึงสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ที่ตกงาน และการช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็ก ในมุมมองของเฟดประกอบกับวัคซีนที่ออกมาแล้ว มาตรการเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอที่จะช่วยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ไปได้
ไม่ว่าอย่างไร มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ก็ต้องเกิดขึ้น
สาเหตุที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้นั้นอันที่จริงเกิดมาจากสองสาเหตุหลักๆ หนึ่งคือเงื่อนไขในการปกป้องบริษัทเอกชนและเงินจำนวน $160,000 ล้านเหรียญสหรัฐที่จะลงไปช่วยในแต่ละรัฐ ผู้วางนโยบายบางคนมองว่าควรจะแยกเรื่องใดเรื่องหนึ่งออกมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้ หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ฤกษ์ออกสู่สาธารณชนจริง คิดว่าราคาทองคำจะขึ้นไปได้ไกลแค่ไหน?
นักวิเคราะห์บางคนประเมินว่าขาขึ้นของทองคำรอบนี้หากขึ้นเพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องขึ้นถึง $1,900 แน่ แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น ราคาทองคำต้องผ่าน $1,879.80 และ $1,898 ให้ได้ก่อน นาย Jeffrey Halley นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ OANDA ประเมินว่าตอนนี้ราคาทองคำมีแนวต้านอยู่ที่ $1,850 และก่อนที่จะขึ้นต่อก็ต้องเจาะแนวต้านนี้ให้ได้เสียก่อน
“ดูเหมือนว่านักลงทุนทางฝั่งเอเชียจะใช้เรื่องการประชุมของเฟดและข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นตัวคานมูลค่าของตลาดหุ้นในตอนนี้เอาไว้ ผลที่ได้ก็คือการวิ่งอยู่ในกรอบ $1,820 และ $1,850 ของทองคำ ไม่ว่าผลการประชุมครั้งนี้ เฟดจะมีการดำเนินการมากหรือน้อยก็ตาม หากเป็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินไม่ว่าอย่างไรก็จะเป็นแรงหนุนให้กับราคาทองคำ”
แรงหนุนอาจพาทองคำขึ้นไปเกือบถึง $1,900 หรือไกลกว่านั้น
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคโดย investing.com พบว่าหากทองคำยังมีพื้นที่เหลือให้ปรับตัวขึ้นได้ โอกาสที่ราคาจะไปเกือบถึง $1,900 หรือไกลกว่านั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไรนัก Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์จาก SK Dixit Charting มีความเห็นคล้ายกันกับการวิเคราะห์ของเราและให้เหตุผลอธิบายว่า
“ก่อนหน้านี้ทองคำมีแนวรับอยู่ที่ $1,822 และสามารถดีดกลับขึ้นมาได้จนถึง $1,845 หากจะให้ไปไกลกว่านี้ทองคำต้องสามารถขึ้นยืนเหนือโซนราคา $1,852 - $1,854 ให้ได้จึงจะสามารถมีโอกาสไปยังระดับราคาถัดไปที่ $1,880 ยิ่งหากมีแรงซื้อเข้ามาหนุนต่อ ทองคำก็อาจสามารถขึ้นไปถึคง $1,898 - $1,907 ได้ อินดิเคเตอร์ RSI ก็ยังหนุนขาขึ้นของทองคำอยู่ ในส่วนของแนวรับกราฟมีอยู่ที่ $1,822 $1,800 และ $1,790 ตามลำดับ”
ส่วนการวิเคราะห์ของ Investing.com ในกราฟรายวันด้วยเครื่องมือ Fibonacci Retracement เราพบว่าตลาดยังอยู่ในช่วง “ไม่มีแนวโน้มที่แน่นอน” จากการวัดด้วย Fibonacci เราพบว่ากราฟมีแนวต้านอยู่ที่ $1,842.35 $1,848 และ $1,858.97 ส่วนแนวรับกราฟมี $1,822.79 $1,816.97 และจุดที่น่าซื้อมากที่สุดจะอยู่ที่ $1,806.97 โดยมีจุดกึ่งกลางของราคาซื้อขายในช่วงนี้อยู่ที่ $1,832.57