เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่านักลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มีความเห็นอย่างไรเมื่อได้เห็นสตาร์บักส์ (NASDAQ:SBUX) บริษัทเจ้าของแบรนด์กาแฟนางเงือกสีเขียวชื่อดังประกาศว่ามีแผนที่จะเพิ่มร้านกาแฟอีก 200,000 สาขาจนเรียกได้ว่าจะต้องมีร้านสตาร์บักส์อยู่ในทุกๆ ถนนของสหรัฐอเมริกา แผนการใหญ่หลังยุคโควิดนี้จะเรียกว่าสนใจให้กับนักลงทุนในกาแฟอาราบิก้าได้หรือไม่หลังจากที่ตลอดห้าปีที่ผ่านมากำไรจากการลงทุนในตลาดกาแฟอาราบิก้าแทบจะเกือบเป็น 0%
ราคาซื้อขายกาแฟอาราบิก้าล่วงหน้าบนตลาด ICE เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาพบว่ามีราคาอยู่ที่ $1.855 ต่อปอนด์ ปรับตัวลดลง 9% เมื่อเทียบราคาทั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน หากไม่นับว่ากาแฟอาราบิก้าเป็นส่วนประกอบหลักของกาแฟสตาร์บักส์แล้ว ตัวตลาดกาแฟอาราบิก้าเองมีผลงานที่ไม่ได้สวยงามนักนับตั้งแต่สิ้นปี 2005 เป็นต้นมา นักลงทุนได้เงินปันผลคืนจากตลาดนี้ติดลบ 0.3% ไม่มีจะวางคำสั่งซื้อหรือขายก็ตาม
สตาร์บักส์พูดจริงหรือทำเป็นเพียงใจดีสู้โควิด-19 เพื่อเรียกนักลงทุนกลับมา
อันที่จริงแล้วการประกาศเพิ่มร้านกาแฟ 200,000 สาขาเกิดขึ้นหลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 3 ปรับตัวขึ้น 33.1% เพิ่มมาจากตัวเลขติดลบ 31.40% ในไตรมาสที่ 2 ระหว่างเดือนมีนาคมและเมษายนมีชาวอเมริกันมากกว่า 21 ล้านคนต้องตกงานเพราะการล็อกดาวน์เพื่อแก้ปัญหาโควิด-19 ก่อนที่จะเริ่มกลับมาจ้างงานได้ 2.5 ล้านตำแหน่งในเดือนพฤษภาคมและ 4.8 ล้านคนในเดือนมิถุนายน แต่ข้อมูลตัวเลขล่าสุดของเดือนที่แล้วนี่เองที่พบว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 245,000 คน หมายความว่าอัตราการจ้างงานกำลังชะลอตัว
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 3 ที่ดีขึ้นไม่ได้สะท้อนสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่แท้จริงในประเทศสหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อใหม่สะสมทั่วทั้งประเทศที่นับตั้งแต่เดือนมกราคมมาจนถึงปัจจุบันได้ทะลุเกิน 15 ล้านคนไปแล้ว ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดกำลังใกล้จะแตะ 300,000 คน ความจุของผู้ป่วยในโรงพยาบาลสร้างจุดสูงสุดใหม่เกิน 100,000 คน
ความต้องการกาแฟยังไม่ฟื้นคืน
Jack Scovile นักวิเคราะห์จากบริษัท Chicago’s Price Futures Group วิเคราะห์ว่ายังไม่มีปัจจัยอะไรสามารถมารับประกันได้ว่าความต้องการกาแฟจะกลับมาในปี 2021
“จากข้อมูลที่บริษัทได้รับมาเราพบว่าความต้องการกาแฟของผู้บริโภคจากการซื้อกับแบรนด์เฟรานชายส์ยังอยู่ในระดับต่ำ ตอนนี้พูดบริโภคเริ่มชินกับการดื่มกาแฟที่บ้านแล้ว ในรายงานยังระบุอีกด้วยว่าผู้ที่บริโภคกาแฟจากที่บ้านในตอนนี้นิยมกาแฟโรบัสต้ามากกว่าและหากจะต้องดื่มกาแฟจากอาราบิก้า พวกเขาจะดื่มในปริมาณที่น้อยนิดเท่านั้น”
อย่างไรก็ตามนายแจ็คกลับวิเคราะห์ว่าฝั่งผู้ผลิตในปีนี้อย่างประเทศบราซิลกลับสามารถผลิตกาแฟอาราบิก้าได้มากกว่าปีก่อนๆ เนื่องจากปีนี้ฤดูฝนกินเวลายาวนานกว่าช่วงฤดูร้อน แต่จากพิษของโควิดจึงทำให้ผู้ปลูกกาแฟเพื่อส่งออกต้องรักษาสมดุลระหว่างต้นทุนกับความต้องการกาแฟอาราบิก้าของโลกในปีนี้เป็นพิเศษ ในแง่ของนักลงทุน สิ่งที่อาจช่วยป้องกันความเสี่ยงของนักลงทุนกาแฟอาราบิก้าได้มีอยู่สองประการ
- การแข็งค่าของสกุลเงินเรียลของบราซิลที่ยังสนับสนุนมูลค่าของสินค้าโภคภัณฑ์อยู่
- ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนในพื้นที่อเมริกากลาง
ภาพประกอบจาก SK Dixit Charting
กราฟกาแฟอาราบิก้าหลังจาก 5 ปีของการแทบไม่ได้เงินปันผลคืน
Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์จาก SK Dixit Charting ประเมินว่ากราฟการซื้อขายกาแฟอาราบิก้าในเดือนถัดไปอาจสามารถขึ้นถึง $1.34 - $1.38 ได้ แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น ราคาจำเป็นที่จะต้องยืนเหนือ $1.15 และ $1.09 เอาไว้ให้ได้ก่อน
“จากการวิเคราะห์กราฟรายเดือนพบว่ากราฟกาแฟอาราบิก้ากำลังฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุด หากมีแรงซื้อเข้ามาหนุนจริง กราฟอาจสามารถขึ้นไปยัง $1.39 - $1.40 ได้ นับตั้งแต่ช่วงห้าปีหลังสุดมาจนถึงปัจจุบัน จะเห็นว่ากราฟวิ่งเป็นรูปแบบสร้างฐานวงกลม ด้วยรูปแบบนี้และความสามารถในการยืนเหนือแนวรับที่ระบุไปดังกล่าว อาจทำให้ราคาซื้อขายกาแฟอาราบิก้าปรับตัวสูงขึ้น”
จากการวิเคราะห์ของ Investing.com ในกราฟรายวัน เราพบว่ากราฟการซื้อขายกาแฟอาราบิก้าอยู่ในจุดที่ “แนะนำว่าควรเข้าซื้อ” โดยมีแนวต้านอยู่ที่ $1.21, $1.25 และ $1.28 ตามลำดับ ส่วนแนวรับกราฟมีอยู่ที่ $1.16, $1.13 และ $1.11