- บริษัทจะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2021 ในวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน หลังตลาดหลักทรัพย์สหรัฐปิด
- คาดการณ์ตัวเลขผลกำไร: $693 ล้านเหรียญสหรัฐ
- คาดการณ์ตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้น: $0.76
ในปีแห่งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษยชาติ เราได้เห็นหลายๆ ธุรกิจหรือบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ได้รับผลกระทบหรือปรับตัวไม่ทันต้องปิดกิจการลงในแบบที่เราก็ไม่เชื่อสายตาว่าจะได้เห็นยักษ์ล้มลงต่อหน้าต่อตา
แต่ท่ามกลางหมู่ยักษ์ที่ล้มหายตายจากนั้น ก็มียักษ์ตัวใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นจากวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและได้ปัจจัยหนุนมาจากการเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ หนึ่งในนั้นก็คือบริษัทผู้ให้บริการวิดีโอทางไกล ซูม วิดีโอคอมมิวนิเคชันส์ (NASDAQ:ZM) หรือที่เรียกกันสั้นๆ จนติดปากว่า “ซูม” ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปีนี้ซูมคือยักษ์ใหญ่อีกหนึ่งตนที่มาเร็ว มาแรง เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค รายงานผลประกอบการที่จะประกาศในช่วงเช้าของวันอังคารตามเวลาประเทศไทยจะเป็นตัวตอกย้ำถึงการเติบโตของการติดต่อด้วยวิดีโอทางไกลผ่านอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง
นักวิเคราะห์ประเมินว่ายอดขายในไตรมาสที่ 3 แบบปีบัญชีปี 2021 นี้ซูมจะมีกำไรอยู่ที่ $693 ล้านเหรียญสหรัฐหรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 300% ในขณะที่ตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นจะเพิ่มขึ้นจาก $0.09 ในปีที่แล้วขึ้นเป็น $0.76 หากเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ประเมินจะทำให้ซูมกลายเป็นหนึ่งในบริษัทบน NASDAQ 100 ที่มีการเติบโตมากที่สุดในปี 2020
ด้วยผลงานขาขึ้น 600% อันน่าทึ่งของซูมในปีนี้และมูลค่าของบริษัทในตลาดที่เพิ่มขึ้นถึง $134,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้บริษัทต้องติดเป็นหนึ่งในหุ้นที่ดีที่สุดของตลาด NASDAQ ปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ปัจจุบันมูลค่าของบริษัทซูมยังสูงกว่าบริษัทในตำนานอย่าง IBM (NYSE:IBM) หรือบริษัทผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ที่มาแรงที่สุดในยุคนี้อย่าง AMD (NASDAQ:AMD)
แม้จะมีผลงานโดดเด่นเพียงใด แต่ข้อกังขาที่นักลงทุนบางกลุ่มตั้งคำถามกับซูมก็คือว่า
“ปีนี้ขาขึ้นของซูมได้อานิสงส์จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ถ้าอย่างนั้นในปีหน้าที่ไวรัสสามารถถูกจัดการและควบคุมด้วยวัคซีนได้แล้ว อนาคตของบริษัทซูมจะยังเติบโตได้เช่นนี้อยู่หรือไม่?”
นายอิริค หยวน CEO ของซูมได้ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็นการเติบโตในอนาคตว่า
“เทคโนโลยีของซูมถูกสร้างมาสำหรับช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้และอนาคต เรามีแพลตฟอร์มรองรับสิ่งที่โลกปัจจุบัน พรุ่งนี้ และอนาคตต้องการ”
ปัจจัยสนับสนุนขาขึ้นอื่นๆ ของซูม
จากที่ได้เห็นบทวิเคราะห์ของธนาคารชื่อดังหลายแห่ง ส่วนใหญ่แล้วจะเห็นไปในทิศทางตรงกันว่าซูมยังมีโอกาสเติบโตขึ้นได้มากกว่านี้อีก หลายสำนักยิ่งมีความเชื่อมั่นกับอนาคตของซูมมากขึ้นหลังจากได้เห็นการประกาศอัปเกรดใหญ่ในงาน “ซูมโทเปีย (Zoomtopia)” เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
นาย Nikolay Beliov นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) ปรับราคาเป้าหมายของหุ้นซูมขึ้นจาก $475 เป็น $570 โดยให้เหตุผลว่าธนาคารกำลังประเมินว่าซูมจะมีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ที่จะขึ้นมาอยู่ในกลุ่มบริษัท 2,000 แห่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
“เราเชื่อว่าการพัฒนารูปแบบของการสื่อสารที่ซูมได้ประกาศภายในงานจะเป็นการยกระดับการสื่อสารของโลกให้ก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง หากว่าโลกไปถึงจุดที่สามารถสนทนา ตอบโต้กันระหว่างการทำงานไปพร้อมๆ กันได้ภายในแอปพิลเคชันเดียว การทำงานในทุกวันนี้จะยิ่งมีความสะดวกสบายขึ้นอย่างมาก การไปรวมตัวกันเพื่อทำงานในที่ที่เดียวจะไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป” นักวิเคราะห์จาก BofA กล่าว
ซูมมีความเชื่อว่าหากการสื่อสาร การทำงานและการพิมพ์แชทสามารถเกิดขึ้นได้บนแพลตฟอร์มเดียวเพื่อลดระยะเวลาในการเดินทางให้ได้มากที่สุดจะยิ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าและความสามารถในการทำงานของแต่ละบุคคลได้มากยิ่งขึ้น นาย Davidson’s Rishi Jaluria นักวิเคราะห์อีกท่านหนึ่งได้ปรับเพิ่มระดับเป้าหมายราคาของหุ้นซูมขึ้นจาก $460 เป็น $600 หลังจากได้เห็นวิสัยทัศน์อันทะเยอทะยานของซูมในงานซูมโทเปีย
“สิ่งที่เราได้เห็นจากงานซูมโทเปียครั้งนี้คือบริษัทไม่ได้หลงละเริงอยู่กับกำไรที่ได้จากโควิด-19 ในปีนี้ พวกเขายังพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมให้ดียิ่งขึ้นและในเวลาเดียวกันก็มองไปถึงอนาคตหลังจากจบวิกฤตโควิดแล้ว”
อย่างไรก็ตามซูมก็ยังมีคู่แข่งที่น่ากลัวอยู่ซึ่งก็ถือเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นไมโครซอฟต์ (NASDAQ:MSFT) กูเกิล (NASDAQ:GOOGL) นอกจากการเปิดตัววิสัยทัศน์ภายในงานซูมโทเปียแล้ว ซูมก็ได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่ที่จะช่วยให้นักพัฒนาของบริษัทอื่นที่ต้องการมาร่วมงานกับซูมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น หนึ่งในบริษัทที่น่าสนใจคือ Zapps ที่ผู้ใช้งานบนแอปฯ ของพวกเขาสามารถเข้าใช้งานได้โดยไม่หลุดออกจากแอปฯ ของซูม และก็ยังมี Slack Technologies (NYSE:WORK) ก็เป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ที่น่าสนใจของซูมด้วยเช่นกัน
โดยสรุปแล้ว
แม้ว่าปัจจุบันจะเห็นว่าหุ้นของซูมมีการชะลอตัวลงมาบ้าง แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวแล้ว นี่คือโอกาสสำหรับการเข้าถือหุ้น ซูมยังอยู่ในจุดที่สามารถเติบโตขึ้นได้มากกว่านี้แม้ว่าจะผ่านช่วงเวลาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปแล้วก็ตาม