ถือเป็นการเปิดตลาดที่สดใสสำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐทีเดียวเมื่อวานนี้เพราะสามารถแข็งค่าได้เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ สาเหตุหลักของขาขึ้นที่ทั้งเร็วและแรงครั้งนี้มาจากรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) จาก Markit ล่าสุดที่ระบุว่าการขยายตัวในภาคการผลิตและบริการในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวเลขดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดลงทุนมากเพราะส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เชื่อว่าตัวเลข PMI จะต้องได้รับผลกระทบจากมาตรการคุมเข้มโควิด-19
สิ่งที่น่าสนใจก็คือการขยายตัวของตัวเลข PMI ในครั้งนี้คือเหตุผลว่าทำไมเหล่าผู้ว่าการรัฐถึงไม่ยอมที่จะล็อกดาวน์จริงจังเสียทีแม้ว่าพวกเขาจะรู้อนาคตดีว่าหากปล่อยให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นต่อไป อีกไม่นานผู้ป่วยจะล้นโรงพยาบาลแน่นอน แม้ตรงนั้นจะเป็นอนาคตอันใกล้ แต่พวกเขาขอเลือกพึ่งการเติบโตของกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในวันขอบคุณพระเจ้าและวันแบล็คฟรายเดย์เอาไว้ก่อน ตัวเลขดัชนี PMI ที่ออกมาดียังส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นมากกว่า 200 จุดในขณะที่กราฟ USD/JPY สามารถวิ่งกลับขึ้นไปยืนเหนือ 104 ได้ ที่สำคัญ ข่าวดีนี้ยังช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในเดือนนี้ด้วย นักลงทุนสามารถรอดูรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่จะประกาศในวันนี้ได้เลยว่าจะออกมาดีขึ้นเพราะได้แรงหนุนจาก PMI เมื่อวานหรือไม่
การเทขายสกุลเงินเยนเมื่อดอลลาร์แข็งค่าไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลกคือดอลลาร์ออสเตรเลียต้องมาถูกเทขายไปด้วยทั้งๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันและข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียตลอดทั้งเดือนก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีมาโดยตลอด กิจกรรมในภาคแรงงาน ภาคการผลิตและบริการเริ่มฟื้นตัวหลังจากรัฐบาลคลายมาตรการล็อกดาวน์ในวิคตอเรีย อาจเป็นไปได้ว่าออสเตรเลียดอลลาร์ถูกเทขายจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างออสเตรเลียกับจีนเมื่อรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของออสเตรเลียต้องการคำอธิบายจากจีนว่าทำไมถึงเลือกซื้อสินค้าเพียงบางรายการเท่านั้น ดอลลาร์นิวซีแลนด์ก็ถูกขายออกด้วยเช่นกันแม้ว่าจะมีตัวเลขการค้าปลีกที่ดีและมีตัวเลขการจับจ่ายใช้สอยในไตรมาสที่ 3 ฟื้นตัวกลับมา 28% เพิ่มขึ้นจาก -14.8% ในไตรมาสที่ 2 ส่วนดอลลาร์แคนาดาไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนักนอกจากย่อตัวลงมาจากจุดสูงสุดเล็กน้อย
กราฟ EUR/USD สามารถขึ้นไปแตะ 1.19 ได้ชั่วคราวก่อนที่จะถูกตัวเลขจากดัชนี PMI พากลับลงมา ข้อมูลตัวเลขดัชนี PMI ของยูโรโซนอย่างเช่นตัวเลขในภาคการผลิตของเยอรมันไม่ได้ออกมาแย่อย่างที่นักวิเคราะห์หลายๆ คนกลัวกัน ถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังเชื่ออยู่ว่าการล็อกดาวน์ในปัจจุบันจะทำให้ตัวเลขของเดือนถัดไปต้องหดตัว สำหรับวันนี้ยูโรโซนจะมีรายงานตัวเลขบรรยากาศทางธุรกิจจาก IFO ของเยอรมันซึ่งเป็นไปได้ว่าตัวเลขนี้จะออกมาหดตัว หากเป็นเช่นจริงจะยิ่งทำให้กราฟ EUR/USD ปรับตัวลดลงต่อ
มีเพียงสกุลเงินเดียวที่ยังสามารถรักษาทรงขาขึ้นเอาไว้ได้คือปอนด์เทียบดอลลาร์ มีเหตุผลสนับสนุนสกุลเงินปอนด์อยู่หลายอย่างในตอนนี้เช่นความเป็นไปได้ที่การเจรจา Brexit จะจบลงภายในสัปดาห์นี้ ตัวเลขดัชนี PMI ที่ดีขึ้นและความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะตัดสินใจจบมาตรการล็อกดาวน์และคลายการคุมเข้มต่างๆ ลงภายในวันที่ 2 ธันวาคม ตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตเมื่อวานนี้ออกมาที่ 55.2 ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ 50.5 แต่ในส่วนของภาคบริการกลับพบว่าตัวเลขดังกล่าวลดลงจาก 51.4 เหลือ 45.8 ถึงกระนั้น เมื่อนำข้อมูลทั้งสองมาประเมินในภาพรวมก็ยังถือว่ามากกว่าที่คาดการณ์อยู่ดี ที่สำคัญ เมื่อเทียบสภาพเศรษฐกิจระหว่างยุโรปกับสหราชอาณาจักรเฉพาะเรื่องล็อกดาวน์ดูแล้วตอนนี้เป็นฝั่งสกุลเงินปอนด์ที่ได้เปรียบมากกว่า ในขณะที่ปอนด์เริ่มมีความหวังแล้วว่าจะได้ออกจากล็อกดาวน์ภายในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ แต่ทางเยอรมันกลับพึ่งพูดถึงการยืดระยะเวลาการล็อกดาวน์ออกไปจนถึงปลายเดือนธันวาคม