🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

ภาพรวมตลาดสินค้าโภคภัณฑ์: น้ำมันดิบ WTI เล็งแนวรับ $30 ส่วนทองคำมองที่ $1,900

เผยแพร่ 02/11/2563 18:34
XAU/USD
-
DJI
-
GC
-
LCO
-
CL
-
VIX
-
OVX
-

สำหรับนักลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ สิ่งที่พวกเขากำลังสนใจมากที่สุดไม่ใช่ว่าทองคำจะสามารถขึ้นไปยืนเหนือ $1900 ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้หรือไม่แต่เป็นแนวรับ $30 จะสามารถพยุงราคาน้ำมันดิบเอาไว้ได้หรือเปล่า ตอนนี้ปัญหาเชิงลบทุกอย่างถาโถมเข้ามาที่ตลาดน้ำมันดิบไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นมากในสหรัฐฯ และยุโรปจนส่งผลให้เยอรมัน ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรสั่งล็อกดาวน์เป็นครั้งที่สองแล้ว 

แม้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ จะหนักหนาไม่แพ้กันแต่ตอนนี้ไม่มีใครสนใจข่าวดังกล่าวนอกจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งหมดนี้ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับราคาน้ำมันดิบอย่างยิ่ง ก่อนตลาดลงทุนนิวยอร์กจะเปิด เราะพบว่าราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดลงทุนฝั่งเอเชียปรับตัวลดลงมาอีก 4% มีราคาต่ำกว่า $35 เป็นที่เรียบร้อย

Crude Oil Daily

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เองก็ปรับตัวลดลงประมาณ 4% เช่นกัน มีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $36 ผลสรุปของตลาดน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วไม่มีข่าวดีเลย น้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดติดลบ 10.2% ถือเป็นขาลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลงเช่นกัน 10.3% ตลอดทั้งเดือนตุลาคมมีมูลค่าการซื้อขายหายไป 8.5%

ดัชนีชี้วัดความกังวลในตลาดน้ำมันดิบขึ้นสู่จุดสูงสุดเดือนมิถุนายน

ดัชนีที่นักลงทุนเอาไว้ใช้วัดความกังวลในตลาดน้ำมันหรือ CBOE Crude Oil Volatility ที่ทำหน้าที่หมือนกับดัชนีวัดความผันผวนในตลาดหุ้น VIX ขึ้นสู่จุดสูงสุดในเดือนมิถุนายนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในยุโรปมีความรุนแรงมากจนรัฐบาลเยอรมัน ฝรั่งเศสและล่าสุดอังกฤษไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกลับไปล็อกดาวน์อีกครั้ง ข่าวร้ายนี้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันดิบในยุโรปเป็นอย่างมาก นี่คือสาเหตุว่าทำไมราคาน้ำมันดิบถึงปรับตัวลดลงต่ำลงเรื่อยๆ ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากเรื่องโควิดแล้ว รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจาก EIA เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินเอาไว้ที่ 1 ล้านบาร์เรล แม้ว่าตัวเลขปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่กลั่นแล้วจะลดลง 4.5 ล้านบาร์เรลซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้สองเท่า แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้อุปสงค์น้ำมันดิบในตลาดโดยรวมเพิ่มมากขึ้น

สหรัฐฯ และลิเบียต่างพยายามเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

เมื่อวันศุกร์ที่แล้วมีรายงานว่าปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ มีการเปิดใช้งานเพิ่มขึ้น 10 แท่น เท่ากับว่าตอนนี้สหรัฐฯ มีแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานอยู่ทั้งหมด 212 แท่น หมายความว่าสหรัฐฯ กำลังต้องการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

ไม่ใช่แค่เพียงสหรัฐฯ เท่านั้นที่คิดจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน แต่ประเทศลิเบียซึ่งเผชิญภัยสงครามกลางเมืองมาตลอดทั้งปี สามารถจบความขัดแย้งและกลับมาผลิตน้ำมันได้เหมือนเดิม ล่าสุดมีรายงานว่าลิเบียสามารถผลิตน้ำมันได้ 525,000 บาร์เรลต่อวันและคาดว่าจะสามารถผลิตได้ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในต้นปี 2021

แม้จะมีความพยายามในการผลิตน้ำมันออกมาชดเชยอุปสงค์ที่ไม่ดีขึ้นเพราะโควิด ก็ยังไม่สามารถช่วยให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นได้ ที่สำคัญหากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ โจ ไบเดนและพรรคเดโมแครตชนะ จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอีกเพราะไบเดนไม่ต้องการสนับสนุนพลังงานยุคเก่าแต่ต้องการหันหน้าสู่พลังงานสะอาด ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น นักวิเคราะห์มองว่าหากโจ ไบเดนชนะ โดนัลด์ ทรัมป์จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ซึ่งจะนำมาสู่ความผันผวนในตลาดลงทุนซึ่งรวมถึงน้ำมันด้วย

ปัจจัยกดดันราคาน้ำมันดิบ WTI

ความกังวลที่ต่อผลการเลือกตั้งและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คือสาเหตุหลักที่ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 6.5% ตลอดทั้งเดือนตุลาคมซึ่งขาลง 4.6% ที่นับว่าเป็นขาลงที่แรงที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคมพึ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง

อีกความกังวลหนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายนผ่านพ้นไปแล้วคือโดนัลด์ ทรัมป์อาจยกเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่สองมาเป็นตัวประกันหากเขาไม่ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีต่อ หมายความว่าหลังจากการเลือกตั้งไปแล้ว นักลงทุนยังไม่อาจวางใจได้จนกว่าจะถึงวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม

คำถามก็คือว่าปัจจัยเหล่านี้เพียงพอที่ลากราคาน้ำมันดิบ WTI ลงต่ำกว่า $30 หรือไม่?

นายเจฟฟรี่ ฮัลเลย์ นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ OANDA วิเคราะห์ว่าตอนนี้ยังไม่เห็นว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวขึ้นได้อย่างไร “แนวรับของราคาน้ำมันดิบที่ใกล้ที่สุดตอนนี้อยู่ที่ $32 ในขณะเดียวกันก็มีแนวต้านอยู่ที่ $36” 

OPEC+ อาจจำเป็นต้องลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก

ที่ผ่านมากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก (OPEC) พยายามที่จะพยุงน้ำมันเอาไว้ใกล้เคียงกับ $40 มาโดยตลอดด้วยวิธีการลดกำลังการผลิตน้ำมัน ทางกลุ่มหวังว่าความต้องการน้ำมันดิบจะฟื้นตัวขึ้นในไตรมาสที่ 4 นี้และยาวไปจนถึงช่วงต้นปี 2021 แต่การแพร่ระบาดของโควิดรอบที่สองก่อนถึงช่วงคริสต์มาสทำให้ความต้องการน้ำมันดิบที่เดิมอ่อนแออยู่แล้วยิ่งอ่อนแอลงมากกว่าเดิมอีก 

นายแคร็ก เออร์เลม นักวิเคราะห์จาก OANDA เช่นกันตั้งคำถามที่น่าสนใจว่า “จากสถานการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบที่ดิ่งวูบในปัจจุบัน โอเปกจะรอให้ถึงการประชุมตอนสิ้นเดือนนี้ได้จริงหรือ? หากราคาน้ำมันดิบลงถึง $30 เมื่อไหร่ เราอาจจะได้เห็นการประชุมด่วนจากทางกลุ่ม”

ราคาทองคำยังมีความเป็นไปได้ที่จะกลับขึ้นไปยัง $1,900

ในตลาดซื้อขายทองคำฝั่งเอเชียวันนี้ ราคาทองคำยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อจากวันศุกร์ที่แล้วได้โดยมีเป้าหมายของราคาที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ $1,900 อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ประเมินว่าระดับราคาเป้าหมายดังกล่าวจะได้รับการเติมเต็มหลังจากทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปแล้ว ตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่าประธานาธิบดีคนต่อไปจะให้วงเงินสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่สองเท่าไหร่

ราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนธันวาคมปรับตัวขึ้น $3.80 คิดเป็น 0.2% มีราคาซื้อขายในขณะที่เขียนบทความอยู่ที่ $1,883.70 ต่อออนซ์

Gold Daily

ในขณะเดียวกันราคาซื้อขายทองคำสปอตปรับตัวขึ้น $4.55 คิดเป็น 0.2% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $1,883.56 

สิ่งที่จะทำให้ราคาทองคำสามารถขยับได้ตอนนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่สองและความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่การเห็นพ้องต้องกันระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวงเงิน $ 3,000,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายต่างก็นำเรื่องนี้มาเป็นเหตุผลทางการเมือง ใช้ธุรกิจการบิน จำนวนผู้ว่างงานมาเป็นตัวประกัน ดึงเกมมาจนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย