ปี 2020 ถือเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับนักลงทุนสายถือสินทรัพย์เน้นผลตอบแทน แม้ตลาดหุ้นจะสามารถฟื้นตัวกลับมาจากจุดต่ำสุดเดือนมีนาคมได้อย่างรวดเร็ว แต่นักลงทุนสายนี้ต้องเจ็บปวดเพราะบริษัทที่พวกเขาถือหุ้นส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่หั่นเงินปันผลหรือไม่ก็ระงับการให้เงินปันผลไปเลย
นักวิเคราะห์จาก Wall Street Journal มีรายงานระบุว่าบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญหน้ากับการหั่นเงินปันผลลงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่สองปี 2009 เนื่องจากได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 ข้อมูลจากดัชนี S&P Dow Jones โดยไม่นับรวมกับบริษัทที่มีมูลค่าตลาดน้อยกว่า $25 ล้านเหรียญเปิดเผยข้อมูลว่าในไตรมาสที่สองผู้ถือหุ้นได้รับการแจ้งจากบริษัทว่าเงินปันผลของพวกเขาจะถูกหั่นลงรวมแล้วทั้งสิ้น $42,500 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทที่ประกาศข้อมูลเหล่านี้ออกมาล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทดังๆ ทั้งนั้นได้แก่ Disney (NYSE:DIS), American Airlines (NASDAQ:AAL) และ Boeing (NYSE:BA)
แม้ในภาพรวมจะดูน่ากลัว แต่เราก็ยังมีทางออกให้กับนักลงทุนสายถือครองเน้นผลตอบแทนอยู่โดยที่พวกเขาไม่ต้องเอาเงินทุนตัวเองเข้าไปเสี่ยงด้วย หากลองมองขึ้นไปยังประเทศที่อยู่บนสหรัฐอเมริกาคุณจะพบว่าที่นั่นยังมีหุ้นที่มีผลตอบแทนดีๆ รอคุณอยู่ บทความนี้ผมขอยกหุ้นสองตัวที่ชอบเป็นการส่วนตัวมาให้คุณผู้อ่านได้พิจารณา
1. Bank of Nova Scotia (BNS)
มูลค่าตลาด: $51,370 ล้านเหรียญสหรัฐ
การจ่ายเงินปันผลรายไตรมาส: $0.68
อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน: 6.48%
ธนาคารของแคนาดานั้นมีความแตกต่างจากธนาคารสหรัฐฯ อยู่บ้างเพราะพวกเขามีการผูกขาดโดยผู้ขายจึงทำให้การแข่งขันจากต่างชาติมีน้อย การที่ไม่มีผู้แข่งขันจากภายนอกทำให้ธนาคารไม่เพียงแต่คงส่วนแบ่งทางการตลาดได้แต่ยังสามารถรักษาผลกำไรเอาไว้ในระดับคงที่ได้อีกด้วย แม้ว่าเรื่องนี้ฟังดูแล้วจะไม่เป็นผลดีต่อลูกค้าที่มีตัวเลือกน้อย แต่ถ้าคุณสามารถยอมรับเงื่อนไขการลงทุนที่แพงกว่าปกติเป็นพิเศษได้ มันคือที่อยู่สบายๆ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องคู่แข่งมากนัก
หากคุณต้องการเงินปันผลจากธนาคารประเภทนี้ ตัวเลือกแรกที่ผมอยากแนะนำเลยคือ Bank of Nova Scotia (NYSE:BNS) (TSX:BNS) ซึ่งต่อจากนี้ไปผมขออนุญาตเรียกสั้นๆ ว่า “BNS” เมื่อต้องเผชิญกับโควิด สถานการณ์ของ BNS ที่จริงแล้วก็ไม่ได้แตกต่างจากธนาคารอื่นๆ นอกจากเงินที่มีอยู่ในมือได้รับผลกระทบแล้วยังต้องถูกบังคับให้จัดสรรเงินเพิ่มเติมสำหรับการสูญเสียเงินกู้ที่คาดไว้ ถึงกระนั้นในมุมมองของเราตัวเลขการปันผลรายไตรมาสที่ $0.68 ต่อหุ้นของ BNS ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่ปลอดภัย
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ BNS เป็นธนาคารที่น่าลงทุนด้วยในสายตาเราเพราะ BNS ได้รับการสนับสนุนอย่างดีโดยมีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนเหนือข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและยังสามารถทำกำไรอยู่ได้
นายมาริโอ เมนดอนก้า นักวิเคราะห์จาก TD Securities พึ่งปรับเรตให้หุ้นกลุ่มธนาคารของแคนาดาว่า “อยู่ในกลุ่มที่น่าสนใจ” เพราะการกลับมาจากจุดต่ำสุดในช่วงวิกฤตโควิดด้วยการรักษาเงินปันผลของผู้ถือหุ้นเอาไว้ได้ นอกจากนี้ความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุนและการปันผลกำไรก็คือเป็นเรื่องสำคัญที่นักลงทุนในธนาคารแคนาดาใช้พิจารณา อนึ่ง BNS ได้ปันผลแก่นักลงทุนมาแล้วตั้งแต่ปี 1832 และยังเพิ่มเงินปันผลขึ้น 43 ครั้งในรอบ 45 ปีล่าสุด
2. BCE Inc.
มูลค่าตลาด: $37,800 ล้านเหรียญสหรัฐ
การจ่ายเงินปันผลรายไตรมาส: $0.63
อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน: 6.06%
บริษัทเทเลคอมสัญชาติแคนาดาคืออีกหนึ่งบริษัทที่เรามองว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่ต่างจากธนาคาร BNS ก่อนหน้านี้ เพราะมีกำแพงทางกฎหมายเป็นตัวกั้นการแข่งขันจากต่างชาติออกไปจึงทำให้ตลาดของแคนาดาถูกปกป้องและสามารถเรียกค่าธรรมเนียมในอัตราที่สูงแลกกับการบริการของพวกเขาได้ ด้วยเหตุผลนี้บริษัทเทเลคอมที่ใหญ่ที่สุดของแคนาดาอย่าง BCE Inc. (NYSE:BCE) (TSX:BCE) จึงเป็นตัวเลือกที่สามารถให้เงินปันผลที่สูงท่ามกลางสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำได้
หุ้นเทเลคอมกลายเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเงินปันผลระยะยาวเนื่องจากการที่อัตราดอกเบี้ยถูกปรับลงมาให้อยู่ในระดับต่ำมีส่วนทำให้บริษัทอย่าง BCE ที่ใช้หนี้มาเป็นทุนในการลงทุนลดภาระในการจ่ายดอกเบี้ยเพื่อชำระหนี้ลงไปได้เยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นการได้เปรียบจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำระยะยาวยิ่งทำให้ BCE มีโอกาสฟื้นตัวกลับมาได้เร็วทันทีที่การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จบลง แต่การที่เงินปันผลของหุ้นยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังอยู่ในโหมด “เฝ้ารอและจับตา” ดูว่า BCE จะได้รับผลกระทบจากโควิดมากน้อยแค่ไหน
ในระหว่างไตรมาสที่สอง กำไรของบริษัท BCE แบบปีต่อปีลดลง 9.1% และกำไรเฉพาะในไตรมาสลดลงถึง 64% เนื่องจากผู้คนไม่มีเงินที่จะถือหุ้นของ BCE ต่อ จากช่วงเวลานั้นที่ยังกดดันให้หุ้นของ BCE ปรับตัวลดลง 10% ตลอดทั้งปี 2020 จนถึงปัจจุบันจึงทำให้หุ้นของ BCE มีความน่าลงทุนมากสำหรับนักลงทุนระยะยาว นอกจากจะเป็นโอกาสที่ดีแล้ว BCE ยังมีนโยบายการเพิ่มเงินปันผลขึ้น 5% ในทุกๆ ปีซึ่งทำต่อเนื่องมายาวนาน ที่ผ่านมา BCE แจกเงินปันผลจากเงินที่มีหมุนเวียนอยู่ในบริษัทประมาณ 65% - 75% มาโดยตลอดซึ่งมากเป็นสองเท่าจากที่เคยปันผลได้ในไตรมาสที่สี่ปี 2008