ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายทีตลาดปริวรรตเงินตรา นิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนืองจากนักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ซึงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และหันซื้อหุ้นซึงเป็นสินทรัพย์เสียงหลังมีข่าวความคืบหน้าเกียวกับการผลิตวัคซีนต้าน ไวรัสโควิด-19 ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 ก.ย.นี้
ดัชนีดอลลาร์ US Dollar Index ซึงเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมือเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.29% แตะที่ 93.0579 ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ USD/EUR ที่ ระดับ 1.1863 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1830 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ USD/GBP แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2853 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2791 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ ระดับ 0.7291 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7274 ดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเดินทางและกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น ซึงช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาความ คืบหน้าเกียวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และการประชุมของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารและพุธนี้
ภาวะตลาดพันธบัตรของไทยวานนี้ ผลการประมูลตัวเงินคลังรุ่นอายุ 6เดือน(TB21317A) = 0.495 - 0.514 Avg. 0.51076 Bid 1.52 เท่า โดยรวมตลาดมีปริมาณการซื้อขาย ค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่มาจากปริมาณการซื้อขายพันธบัตรรุ่นระยะยาวจากกลุ่มสถาบันการเงิน ทีให้ความสนใจเข้ามาซื้อพันธบัตรรุ่น LB29DA และ LB386A เป็นจํานวนมาก ส่งผลให้อัตรา ปรับตัวลดลง 2-3 bps. จึงคาดว่าผลการประมูล LB29DA ในวันพุธนี้จะออกมาค่อนข้างดี เนืองจากมี demand ค่อนข้างเยอะ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทย รุ่นอายุ 5ปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรุ่นอายุ 10ปี (LB29DA) ปรับตัวลดลงมาอยู่ 0.82% และ 1.39% ตามลําดับ ปิดตลาดสิ้นวันนักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรสุทธิ 2,218.27 ล้านบาท และเป็นการขายพันธบัตรรุ่นอายุมากกว่า 1 ปี 720.06 ล้านบาท
บทความนี้มาจากศูนย์วิจัยกรุงศรี สามารถอ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็มได้ที่ www.krungsri.com