นักลงทุนทั้งหลายได้โปรดฟังข้อความเหล่านี้
ใครก็ตามที่กำลังรอการทะลุแนวต้านของกราฟทองคำให้รอดูที่ระดับราคา $1,968
การวิเคราะห์ทองคำทางเทคนิคบ่งบอกว่าทองคำสปอตซึ่งแสดงการซื้อขายราคาทองคำแท่งในปัจจุบันจำเป็นต้องขึ้นไปแตะระดับดังกล่าวเพื่อที่จะสามารถฟื้นตัวได้ในระดับใกล้เคียงกับขาขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่พากราฟทองคำขึ้นไปสูงกว่า $2000 ต่อออนซ์
แต่อย่าพึ่งเข้าใจผิดเพราะจริงๆ แล้วแนวต้าน $1968 นั้นเป็นเพียงประตูของจุดเริ่มต้นเท่านั้น มีปัจจัยกดดันหลายประการสำหรับราคาทองคำที่ต้องก้าวข้ามให้ได้ก่อนหากนักลงทุนคาดหวังให้ตลาดฝั่งกระทิงพุ่งกลับขึ้นไปผ่านจุดสุงสุดเดิมเมื่อ 7 สิงหาคมที่ $2,073.41
ที่สำคัญคือในทุกๆ ระดับราคาจะมีขาลงสวนกลับลงมาอยู่เรื่อยๆ และมีแนวโน้มจะเกิดกับกราฟดอลลาร์ด้วยเช่นกันเนื่องจากกราฟของทั้งคู่มีแนวโน้มจะยังคงความแข็งแกร่งได้เมื่อเทียบกับกราฟยูโรและกราฟคู่แข่งอื่นๆ
“หากทองคำสามารถแตะ $1986 ได้แล้วหลังจากนั้นโกลด์สปอตอาจจะขึ้นไปทดสอบ $1,993" นักวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคอิสระผู้เชี่ยวชาญด้านโลหะมีค่าท่านหนึ่งนามว่า Sunil Kumar Dixit ได้กล่าวไว้ “แต่การที่จะวิ่งผ่านจุด $1,993 หรือไม่นั้นยังเป็นเรื่องไม่แน่นอน” เขากล่าวต่อไป
กราฟทั้งหมดคาดการณ์โดย Sunil Kumar Dixit
ในยุคสมัยที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา นักลงทุนส่วนใหญ่จะพึ่งพาสัญชาตญาณของตนเองในการดูทิศทางของกราฟแต่เมื่อพื้นฐานของการเชื่อในตัวเองไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างหนักแน่น นักลงทุนจึงกลับมาที่การดูกราฟและแนวโน้มทางด้านเทคนิค
มีความเป็นไปได้ในการเทขายทองคำอีกครั้ง
เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมาในตลาดลงทุนฝั่งเอเชีย กราฟทองคำสปอตได้ลงไปแตะระดับต่ำสุดระหว่างวันที่ $1,937.41 และคงตัวต่ำกว่าแนวต้านอยู่อย่างน้อย $30 คุณ Dixit ชี้แจงว่า
“การตอบสนองของทองคำที่มีต่อระดับราคา $1,968 จะเป็นแนวทางสำหรับอนาคต แต่อย่างน้อยทองคำต้องมีราคาปิดเหนือ $1,973 หรือผ่านแนวต้าน $1,993 จึงจะสามารถทำให้คนเชื่อว่าทองคำได้กลับไปสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง”
“สำหรับความเป็นไปได้ของขาลง หากราคาทะลุแนวรับ $1,935 และปิดต่ำกว่า $1,920 นักลงทุนควรเตรียมรับมือสำหรับการลงไปสู่ $1,900 และอาจจะลดลงไปอีกจนถึงช่วง $1,850-1,800“
คุณ Michael Boutros มีมุมมองเช่นเดียวกับนาย Dixit จากบล็อกบน DailyFX
“หากวิเคราะห์ดีๆ แล้วทองคำสปอตนั้นยังต้องเจอกับแนวต้านในช่วงแรกที่ $1967/74 และ $1994 ซึ่งทั้งสองแดนนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะชะลอขาขึ้นของทองคำหากไปถึง และหากแนวรับ $1876 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของทองคำในปี 2011 สามารถถูกเจาะลงมาได้จะถือเป็นจุดสังเกตให้นักลงทุนพิจารณาว่าเป็นการปรับฐานระยะยาว”
สรุปได้ว่า Boutrous กล่าวว่า ทองคำมีแนวต้านรออยู่หลายชั้นและยังรอสัญญาณที่จะบ่งบอกว่าราคาสามารถขึ้นสูงกว่านี้ได้อีกซึ่งสำหรับมุมการในการเทรดนั้นคือ
“หากราคาทองคำมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงจริง การปิดต่ำกว่า $1920 ถึงจะถือเป็นสัญญาณของขาลง“
คุณ Dhawani Mehta นักวิเคราะห์กราฟทองคำอีกท่านหนึ่งกล่าวในบทความของ FXStreet ว่าเป็นไปได้ยากที่กราฟทองคำสปอตจะทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 21 วันซึ่งเป็นเส้นสำคัญอยู่ที่ราคา $1,947 นี่คือสาเหตุอธิบายว่าทำไมกราฟทองคำถึงยังทรงตัวอยู่ในกรอบรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า
รูปกราฟที่ออกมาเป็นกราฟขาลงที่ควรหลีกเลี่ยงกว่าช่วงที่ผ่านมา และแนวโน้มที่เคยส่งเสริมการเข้าซื้อก็หมดไปแล้ว Mehta กล่าวเพิ่มเติมในประเด็นนี้อีกด้วยว่า
“ในขณะนี้อินดิเคเตอร์ RSI มีการซื้อขายที่คงตัวอยู่ประมาณ 50 กว่าๆ ซึ่งบ่งชี้ว่าไม่มีทิศทางการซื้อขายที่ชัดเจน ดังนั้นการทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันของราคาบริเวณ $1,920 จึงไม่สามารถใช้เป็นตัวตัดสินทิศทางอนาคตได้อีกแล้ว”
ราคาทองคำวิ่งตามแนวโน้มของตลาดหุ้นอีกครั้ง?
นาย Jeffrey Halley นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ OANDA กล่าวว่านักลงทุนในตลาดทองคำดูเหมือนว่าจะกลับไปติดตามทิศทางของตลาดหุ้นอีกครั้ง สังเกตได้ว่าราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงก่อนปิดตลาดซื้อขาย
“ขาลงในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อช่วงก่อนปิดตลาดซื้อขายวันศุกร์อาจทำให้ราคาทองคำลงไปทดสอบแนวรับที่บริเวณ $1920 - $1900 ได้ แต่ถึงกระนั้นผมก็เชื่อว่าราคาคงจะไม่หลุดแนวรับบริเวณนี้ลงไปเพราะตราบใดที่เศรษฐกิจยังไม่มีความแน่นอนนักลงทุนขาขึ้นจะมีแต่หาโอกาสเข้าถือทองมากขึ้นเรื่อยๆ”
จากกราฟทองคำสปอตเราหันไปดูราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนธันวาคมบนตลาด COMEX ดูบ้าง อันที่จริงแล้วทั้งราคาสปอตและซื้อขายล่วงหน้ามีรูปแบบการวิ่งที่ไม่ต่างกันเลย ตลอดการซื้อขายใน 3 วันล่าสุดพบว่าราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงปรับฐาน มีราคาวิ่งขึ้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.5% เท่านั้น ครั้งล่าสุดที่ราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้านี้สามารถวิ่งขึ้นไปได้มากที่สุดคิดเป็น $9.40 ซึ่งขึ้นไปยัง $1,964.30 ต่อออนซ์ หลังจากที่กราฟมีราคาปิดลดลงมายัง $1,937.10 เมื่อวันที่ 7 กันยายนพบว่าราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาเพียง $27 เท่านั้น
ขาขึ้นของราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเกิดมาจากความผันผวนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ในช่วงแรกอ่อนมูลค่าลงเพราะท่าทีของประธานธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) นางคริสตีน ลาการ์ดดูมีความมั่นใจกับสภาพเศรษฐกิจในยุโรปมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ซึ่งทำให้ยูโรแข็งค่ามากกว่าดอลลาร์ชั่วขณะ ECB ไม่ได้พูดถึงความจำเป็นที่ต้องยืดระยะเวลาโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโรคระบาดใหญ่ (PEPP) และไม่ได้ระบุว่าจะจับตาดูเศรษฐกิจในส่วนไหนเป็นพิเศษ ส่วนมากแล้วสิ่งที่คริสตีนพูดในวันนั้นเกี่ยวข้องกับนโยบายของ ECB ที่จะมีการปรับใช้หลังจากได้เห็นตัวเลข GDP รวมของปี 2020 และการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
หลังจากแถลงการณ์นี้จบลงสกุลเงินยูโรก็สามารถผลักดัชนีดอลลาร์สหรัฐให้ลงไปวิ่งต่ำกว่า 93 ได้ อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นานและภายในวันเดียวกันดัชนีดอลลาร์สหรัฐก็สามารถกลับขึ้นมายืนอยู่บน 93 ได้อีกครั้ง ความดื้อดึงของดัชนีดอลลาร์สหรัฐที่ต้องการยืนอยู่เหนือ 93 ให้ได้แสดงให้เห็นถึงดอลลาร์ที่เริ่มกลับมามีกำลังและอาจสร้างปัญหาให้กับขาขึ้นของทองคำได้ในอนาคต
นโยบายการเงินของ FED อาจเป็นตัวกำหนดทิศทางทองคำ
หากว่าแถลงการณ์จากธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดที่จะเกิดขึ้นในการประชุมเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยวันพุธนี้มีท่าทีที่คลายความกังวลและไม่จำเป็นต้องผ่อนคลายมาตรการทางการเงินอะไรเพิ่มเติม ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอาจได้โอกาสปรับตัวขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่า 93.66 และนั่นอาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง แบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) เชื่อว่าตลาดจะได้เห็นขาขึ้นของดอลลาร์สหรัฐภายใน 1-2 เดือนข้างหน้านี้เพราะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ใกล้เข้ามาจะทำให้คนหันมาสนใจสกุลเงินดอลลาร์มากยิ่งขึ้น
“ตอนนี้เราก็ใกล้เข้าสู่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 เข้าไปทุกทีแล้วซึ่งในไตรมาสนี้ไม่มีเหตุการณ์ไหนสำคัญไปกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เราเชื่อว่าดอลลาร์สหรัฐจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นเพราะความเสี่ยงในตลาดสกุลเงินจะสูงขึ้นและเพียงจัดการความเสี่ยงพวกเขาจะหันมาถือสกุลเงินสำรองอันดับหนึ่งของโลกอย่างดอลลาร์”