คาด SET INDEX อ่อนตัวลงกรอบ 1277 – 1289 เผชิญปัจจัยลบจาก (1) แรง กดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐที่อ่อนตัวลง 1.45% ผลจากแรงขายกลุ่ม TECH รวมถึง แผนเยียวยาผลกระทบ COVID-19 รอบใหม่ที่ทั้งรีพับลิกันกับเดโมแครตยังคงมี ความเห็นต่างกันอยู่ส่งผลให้แผนล่าช้า (2) คาดเผชิญแรงกดดันจากกลุ่มน้ำมัน วานนี้สหรัฐรายงานสต็อกน้้ามันดิบในสัปดาห์ก่อนพบว่าเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ Bloomberg คาดว่าจะลดลง 3 ล้านบาร์เรล สะท้อนภาวะอุปทาน ส่วนเกินขณะที่อุปสงค์มีแนวโน้มหดตัวจากการระบาดของ COVID-19
โดยราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดตลาดลดลง 1.8% ทั้งนี้ด้วยราคาน้้ามันที่ปรับฐานลงมาจะมีหุ้นบางตัวได้ประโยชน์ อาทิ หุ้นที่มีน้้ามันเป็นต้นทุนในการด้าเนินธุรกิจ (AAV BA CK STEC TASCO PRM) ส้าหรับแนวโน้ม SET INDEX Bloomberg คาดการณ์ EPS ปี 21 ที่ 76.3 บาท / หุ้น (+30.4%YoY) หากใช้ PE ราว 15x (ค่าเฉลี่ย 10 ปี) จะได้เป้าหมายดัชนี (แนวรับ) ที่ 1145 แต่ด้วยดอกเบี้ยโนบายที่อยู่ระดับต่ำหากให้ ตลาดหุ้นมีความพรีเมี่ยมขึ้นมาที่ 16x จะได้ระดับเป้าหมายดัชนีที่ 1220
ดังนั้น SET INDEX ปิดล่าสุดที่ 1290 จะเห็นว่ามี Downside Risk มากกว่า Upside นัก ลงทุนจึงควรมีเงินสดมากกว่าหุ้นและรอจังหวะตลาดปรับฐานลงมา ส่วนนักลงทุน ระยะสั้น แนะน้าเก็งก้าไรในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากธุรกิจมีโครงสร้างเป็นน้้ามัน (AAV BA CK STEC TASCO PRM)
Stock Pick
ทิปโก้แอสฟัลท์ (BK:TASCO) (ถือ/ ราคาเป้าหมาย 28 บาท)แม้เราจะให้ค้าแนะน้าเพียง “ถือ” อย่างไร ก็ตามด้วยธุรกิจบริษัทที่ผลิตยางมะตอย โครงสร้างต้นทุนบางส่วนมาจากราคา น้้ามันจึงมองว่าสามารถเข้า Trading ได้ส่วนในเชิงปัจจัยพื้นฐานคาดปริมาณการ ขายยางมะตอยในครึ่งปีหลังจะเห็นการเติบโตเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก หนุนจากอุป สงค์ต่างประเทศที่ฟื้นตัวและการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ
Prima Marine (BK:PRM) (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 11.3 บาท) เราชอบบริษัทด้วยการที่ผลประกอบการ 3Q20 คาดจะเห็นการเติบโต YoY หนุนจาก (1) การปรับขึ้นค่าใช้บริการ FSU เต็ม ไตรมาส ขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลังไปจนถึงปี 21 แนวโน้มสดใสจาก (1) ผู้บริหารมี แผนซื้อเรือเพิ่มแบ่งออกเป็น FSU 2 ล้า และเรือขนส่งน้้ามันในประเทศอีก 1 ล้านอกจากนี้บริษัทยังเป็นผู้ได้ประโยชน์จากราคาน้้ามันที่ปรับฐานลงมา
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th