หลังจากความพยายามที่จะขึ้นไปยืนเหนือ 1.20 ไม่ประสบความสำเร็จตอนนี้กราฟยูโรเทียบดอลลาร์ได้ปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดนั้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันแล้ว ทำสถิติขาลงที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนไปเป็นที่เรียบร้อย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนการประชุมเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่กำลังจะมาถึง แม้นักวิเคราะห์จะเชื่อว่า ECB จะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ดังเดิมแต่เพราะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวได้ดีเท่าที่เหล่าคณะกรรมการหวังประกอบการการกลับมาแพร่ระบาดของเชื้อโควิดอีกครั้งในยุโรปทำให้ ECB อาจตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมอีกก่อนสิ้นปีนี้ นี่คือสิ่งที่นักลงทุนขาขึ้นเป็นกังวลและเปิดโอกาสให้ฝั่งขายได้โอกาสกดกราฟ EUR/USD ลง
ในมุมมองของ ECB พวกเขากำลังต้องการให้สกุลเงินยูโรกลับมาแข็งค่าเหมือนเดิม ในขณะที่ ECB ก็ต้องการให้เศรษฐกิจภายในยูโรโซนสามารถเติบโตกลับมาหลังจากต้องปิดพรมแดนเพื่อล็อกดาวน์ภายในประเทศกลุ่มสมาชิก จากสาเหตุดังกล่าวจึงทำให้นักวิเคราะห์เชื่อว่ายูโรจะอ่อนมูลค่าลงอีกหลังจากการประกาศตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ (โดยปกติแล้วเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อของ ECB อยู่ที่ 2%) ซึ่งที่ผ่านมาตัวเลขดังกล่าวไม่เคยขึ้นมาเกิน 2% เลย
ECB ไม่ใช่คนแรกที่จะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอัตราเงินเฟ้อเพื่อต่อสู้กับโควิด ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดได้นำร่องอนุญาตให้อัตราเงินเฟ้อของประเทศสหรัฐฯ สามารถขึ้นสูงเกินกว่า 2% ได้บ้างเป็นครั้งคราวเพื่อต่อกรกับโควิด-19 ที่กำลังทำลายเศรษฐกิจของประเทศแม้จะต้องยอมจบสถิติการไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราเงินเฟ้อมาเป็นเวลานานกว่าทศวรรษก็ตาม นอกจากนี้อาจจะยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาเสริมอีกในอนาคตแต่ก็อย่างที่เห็นว่ามาตรการเหล่านี้แลกมาด้วยการอ่อนมูลค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
แม้ตอนนี้เราจะไม่รู้ว่าท้ายที่สุด ECB จะตัดสินใจเช่นไรในการประชุมแต่หากอ้างอิงจากกราฟทางเทคนิคตอนนี้จะเห็นว่ายังมีโอกาสที่คู่สกุลเงินยูโรเทียบดอลลาร์จะสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้
อันที่จริงแล้วขาลง 6 วันติดต่อกันของกราฟ EUR/USD ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหากดูจากรูปภาพประกอบ เห็นได้ว่ากรอบขาขึ้นของกราฟมีความชันอยู่ในระดับที่ดีและการวิ่งลงมาของสกุลเงินยูโรตอนนี้ก็ถือเป็นเพียงการชะลอตัวเท่านั้น ที่สำคัญกราฟยังมีแนวรับสำคัญอยู่อีกสองแนวนั่นคือกรอบราคาด้านล่างและเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน
หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าขาขึ้นในระหว่างวันที่ 11 ไปจนถึง 18 สิงหาคมก็เป็นขาขึ้นติดต่อกัน 6 แท่งเช่นเดียวกัน ดังนั้นสำหรับเราแล้วขาลงในตอนนี้จึงไม่อาจประเมินเป็นการเปลี่ยนเทรนด์ได้นอกจากเป็นเพียงการชะลอตัวของราคาภายในแนวโน้มใหญ่ขาขึ้น อีกอย่างขาลงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ใช้เวลาการวิ่งค่อนข้างช้าเพราะถ้าหากเป็นการเทขายเพราะหมดความเชื่อมั่นจริงกราฟ EUR/USD ก็ควรที่จะวิ่งลงได้เร็วกว่านี้ เราขอแนะนำว่าหากต้องการหาจุดเข้าในตอนนี้แนะนำให้เข้าซื้อที่บริเวณราคา 1.1800 จะเป็นจุดเข้าที่ดีและมีความเสี่ยงเหมาะสม
ตัวอย่างการเทรด
นักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่าจะเห็นหลักฐานของแนวโน้มขาขึ้นซึ่งก็คือแท่งเทียนขาขึ้นใหญ่ๆ 1 แท่งสีเขียว จากนั้นจะรอให้ราคาวิ่งกลับลงมาทดสอบแนวรับตรงบริเวณกรอบราคาอีกครั้ง แม้ว่าจะฟังดูแล้วกว่าจะได้เข้าต้องใช้เวลานานแต่ก็เพราะว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ชอบความเสี่ยง ดังนั้นพวกเขาจะเลือกวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง คิดและปฏิบัติเหมือนกับกลุ่มที่ไม่ชอบความเสี่ยงคือรอแท่งเทียนสีเขียวแท่งใหญ่กับรอการวิ่งกลับลงมาทดสอบแนวรับแต่จะไม่รอแท่งเทียนยืนยันเพราะต้องการจุดเข้าที่ดีกว่า
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูงสุด หากรู้ว่าเป้าหมายของราคาอยู่ที่ไหนแล้วก็สามารถเข้าซื้อในทันทีที่มีโอกาส ต่อให้กราฟไม่ปรับตัวขึ้นไปนักลงทุนกลุ่มนี้ก็จะรู้ดีว่าควรบริงานเงินทุนอย่างไรให้สามารถเอาตัวรอดไปได้
ตัวอย่างการเทรด
- จุดเข้า: 1.1800
- Stop-Loss: 1.1750 (ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของวันที่ 21 สิงหาคม)
- ความเสี่ยง: 50 จุด
- เป้าหมายในการทำกำไร:1.2000 (ตัวเลขจิตวิทยาซึ่งอยู่ก่อนถึงจุดสูงสุดในวันที่ 1 พฤศจิกายน)
- ผลตอบแทน: 200 จุด
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:4