ราคาทองคําช่วงเช้าวันนี้แกว่งอ่อนตัวลง ทั้งนี้ราคาทองคําได้รับแรงกดดันจาก US Dollar Index ที่ฟื้นขึ้นมายืนเหนือ 93จุด ขณะที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลง จากความวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้กรณี No Deal Brexit หลังจากนายบอริส จอห์นสัน นายกฯอังกฤษ ยืนยันในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ ระบุว่า “จําเป็นต้องตกลงกับมิตรสหายในยุโรปให้ได้ก่อนการประชุมคณะมนตรียุโรปในวันที่ 15 ต.ค. เพื่อให้ข้อตกลงมีผลบังคับในช่วงสิ้นปี ดังนั้น มันไม่มีประโยชน์ที่จะคิดไกลออกไปอีก ถ้าเราตกลงกันไม่สําเร็จ ผมก็ไม่เห็นโอกาสในการทําข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างเราอีกต่อไป” นั่นหมายถึงว่า อังกฤษพร้อมที่จะออกจากจากการเป็นสมาชิกของ EU โดยไม่มีข้อตกลง เมื่อผ่านพ้นช่วงเปลี่ยนผ่านในวันที่ 31ธ.ค.นี้
ขณะที่การเจรจาระหว่างอังกฤษและอียู ยังคงเผชิญอุปสรรคใหญ่จากความเห็นที่ไม่ลงรอยในเรื่องสิทธิการทําประมง และกฎระเบียบด้านการแข่งขันที่เป็นธรรม นอกจากนี้ทองคําถูกกดดัน หลังปธน.ทรัมป์ ของสหรัฐ เร่งผลักดันวัคซีนต้านโควิด-19ออกสู่ตลาดภายในต.ค.ก่อนวันเลือกตั้ง รวมถึง ผลเบื้องต้นจากการทดลองวัคซีนขั้นต้นถึงขันกลางของบริษัท Sinovac Biotech ของจีน ระบุเมื่อวานนีว่า วัคซีนของทางบริษัทมีความปลอดภัยสําหรับผู้สูงอายุ จึงกระตุ้นแรงขายทองคําในระยะนี้ สําหรับวันนี้แนะนําติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจขนาดเล็กจาก NFIB และการสํารวจความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจจาก IBD/TIPP
แนวโน้ม Gold Spot:
ราคาทองคํายังไม่สามารถยืนเหนือ 1,950-1,951 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้(ระดับสูงสุดของวันพุธและวันพฤหัสบดี) ส่งผลให้แรงซือยังคงถูกจํากัดสําหรับวันนี้ประเมินแนวต้านระยะสั้นในโซนดังกล่าว หากผ่านไปได้แนวต้านสําคัญจะอยู่ในบริเวณ 1,976 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับนันยังประเมินในโซน 1,915-1,911 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน:
เน้นการทํากําไรระยะสันจากการแกว่งตัว โดยพิจารณาเปิดสถานะซื้อบริเวณ 1,915-1,911 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดบริเวณแนวรับโซน1,899 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ตัดขาดทุน และทยอยขายทํากําไรบริเวณแนวต้าน 1,950-1,951 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้อาจชะลอการขายออกไปที่แนวต้านถัดไป
อัพเดตราคาทองคำ GOLD SPOT XAU/USD
สำหรับนักลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์ส อัพเดตราคา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ล่าสุด
บทวิเคราะห์จาก YLG BULLION