ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือน ก.ค.2563 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยกิจกรรมต่างๆมีทิศทางฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ ทั้ง การบริโภคภาคเอกชน การส่งออก และการลงทุนภาครัฐ แต่การลงทุนภาคเอกชนยังคงเปราะบางรวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนักจากรายได้ต่างชาติที่หายไป ถึงแม้จะมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐ และการคลาย Lockdown ส่งผลให้การท่องเที่ยวในประเทศที่เริ่มกลับมาคึกคัก แต่ยังไม่สามารถชดเชยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงไป เรามองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยใน 3Q63 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากปัจจัยหนุนด้วย 1) ผ่อนคลายการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. 2) การเบิกจ่ายงบประมาณและมาตรการต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของภาครัฐ 3) เศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลกปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง บนสมมติฐานสำคัญ คือ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือน ก.ค.2563 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยกิจกรรมต่างๆมีทิศทางฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ ทั้ง การบริโภคภาคเอกชน การส่งออก และการลงทุนภาครัฐ แต่การลงทุนภาคเอกชนยังคงเปราะบางรวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนักจากรายได้ต่างชาติที่หายไป ถึงแม้จะมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐ และการคลาย Lockdown ส่งผลให้การท่องเที่ยวในประเทศที่เริ่มกลับมาคึกคัก แต่ยังไม่สามารถชดเชยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงไป เรามองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยใน 3Q63 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากปัจจัยหนุนด้วย 1) ผ่อนคลายการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. 2) การเบิกจ่ายงบประมาณและมาตรการต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของภาครัฐ 3) เศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลกปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง บนสมมติฐานสำคัญ คือ
1) การบริโภคภาคเอกชน -0.1% YoY ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าสอดคล้องกับ การจ้างงาน รายได้ครัวเรือน และความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ประชาชนออกมาเดินทางท่องเที่ยวและใช้จ่ายมากขึ้น หลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐ สะท้อนจากการใช้จ่ายทุกหมวดที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้ง 1) สินค้าคงทน ติดลบ 15.7% YoY ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อหน้นา ตามยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์เชิงพาณิชย์ และยอดจดทะเบียนรถยนต์ปรับตัวดีขึ้น 2) สินค้ากึ่งคงทน -5.7% YoY จากยอดขายปลีกสินค้ากึ่งคงทน และ การนำเข้าเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มส่วนหนึ่งมากจากฐานที่สูงในปีก่อนหน้า 3) สินค้าไม่คงทนปรับตัวลง 1.3 % YoY ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ตามการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่กลับมาขยายตัวเป็นสำคัญ เนื่องจากประชาชนมีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น
2) มูลค่าการส่งออก ติดลบ 11.9% YoY และหากหักการส่งออกทองคำ -14.3 % YoY ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยเป็นการปรับดีขึ้นในเกือบทุกหมวดสินค้า สอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นตามการทยอยเปิดเมืองของประเทศคู่ค้าจาก 1) หมวดยานยนต์และชิ้นส่วน
-26.3% YoY ติดลบน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ 2) เครื่องจักรและอุปกรณ์ -15.10 % YoY จากการส่งออกไปยังสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 3) สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ -2.5% YoY จากการขยายตัวของการส่งออกโทรศัพท์ไปยังสหรัฐฯ 3) เครื่องใช้ไฟฟ้าพลักกลับมาขยายตัว 2.2 % YoY ครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากผู้ประกอบการบางรายมีการขยายกำลังการผลิต
3) การใช้จ่ายภาครัฐยังคงโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 จากรายจ่ายลงทุนที่ขยายตัวตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 สำหรับรัฐบาลกลางหน่วยงานที่เร่งเบิกจ่าย คือ หน่วยงานด้านคมนาคม ส่วนรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานที่เร่งเบิกจ่ายคือ ด้านพลังงานและคมนาคม อย่างไรก็ดีรายจ่ายประจำหดตัวเล็กน้อยตามการเบิกจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเร่งเบิกจ่ายไปแล้วในช่วงก่อนหน้า
2 กิจกรรมที่ยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนักอยู่ คือ 1) จำนวนนักท่องเที่ยวหดตัว 100% YoY ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 จากผลของมาตรการการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID–19 ซึ่งผลของจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงนั้นทำให้กระทบต่อธุรกิจ และ แรงงานที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว เช่น โรงแรมและธุรกิจขนส่ง ถึงแม้ธุรกิจบางกลุ่มจะได้รับผลกระทบลดลงจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่หายไปได้ บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities |