เมื่อวานนี้นักลงทุนเข้าซื้อในตลาดสกุลเงินและตลาดหุ้นทันทีที่ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ที่นิวยอร์กเปิดทำการ การที่ดัชนี S&P 500 และดาวโจนส์ยังอยู่ในเส้นทางขาขึ้นมุ่งหน้าสร้างจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สกุลเงินหลักๆ อย่างยูโร ปอนด์และดอลลาร์ปรับตัวขึ้นตาม ขนาดกราฟคู่สกุลเงิน USD/JPY ยังสามารถขึ้นมายืนเหนือระดับราคา 106 ได้อีกครั้ง แม้ว่าดัชนี S&P 500 จะสามารถปิดตลาดด้วยราคาเป็นบวกได้แต่ไม่ใช่กับดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดตลาดติดลบ
สาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นกับดาวโจนส์มาจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ รายงานตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดย CB ลดลงจาก 91.7 เป็น 84.8 ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 6 ปี ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่าถึงแม้เฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยลงมาเกือบจะถึง 0% แล้วและแม้ตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ จะเริ่มทรงตัวแต่ผู้บริโภคยังคงเป็นกังวลว่าเศรษฐกิจและการจ้างงานยังอยู่ในสภาวะถดถอยและไม่มีความชัดเจน การลดลงของความเชื่อมั่นในผู้บริโภคทำให้ข่าวดีอย่างตัวเลขยอดขายที่อยู่อาศัยและกิจกรรมภาคการผลิตในรัฐริชมอนด์ที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไม่เป็นผลเพราะตลาดสนใจเพียงว่าความเชื่อมั่นในผู้บริโภคที่ลดลงสะท้อนให้เห็นถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
สาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นกับดาวโจนส์มาจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ รายงานตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดย CB ลดลงจาก 91.7 เป็น 84.8 ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 6 ปี ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่าถึงแม้เฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยลงมาเกือบจะถึง 0% แล้วและแม้ตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ จะเริ่มทรงตัวแต่ผู้บริโภคยังคงเป็นกังวลว่าเศรษฐกิจและการจ้างงานยังอยู่ในสภาวะถดถอยและไม่มีความชัดเจน การลดลงของความเชื่อมั่นในผู้บริโภคทำให้ข่าวดีอย่างตัวเลขยอดขายที่อยู่อาศัยและกิจกรรมภาคการผลิตในรัฐริชมอนด์ที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไม่เป็นผลเพราะตลาดสนใจเพียงว่าความเชื่อมั่นในผู้บริโภคที่ลดลงสะท้อนให้เห็นถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ถึงกระนั้นนักลงทุนบางส่วนก็ยังเชื่อในความหวังที่มีต่อการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 และยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ที่เริ่มทรงตัว จีนและสหรัฐฯ ยืนยันแล้วว่าจะไม่มีการยกเลิกข้อตกลงทางการค้าในขั้นแรกข่าวนี้ทำให้นักลงทุนพอจะวางใจกับสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศลงไปได้บ้าง ตราบใดที่เรายังได้เห็นพาดหัวข่าวดีๆ แบบนี้บนหนังสือพิมพ์ตอนเช้า ขาขึ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดฟอเร็กซ์ก็ยังสามารถดำเนินต่อไปได้ สิ่งที่นักลงทุนในตอนนี้ควรหันมาให้ความสนใจคือยอดผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มสูงขึ้นในยุโรปเพราะเท่าที่ดูแล้วตลาดยังไม่ให้ความสำคัญกับข่าวนี้เท่าที่ควร แม้ว่าตัวเลขดัชนี PMI ของยูโรโซนจะลดลงแต่ตัวเลขดัชนีวัดบรรยากาศทางธุรกิจของ IFO เยอรมันกลับเพิ่มขึ้น 4 ครั้งติดต่อกันจากการรายงานล่าสุด นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ช่วยทำให้กราฟ EUR/USD สามารถขึ้นไปยืนเหนือ 1.18 ได้อีกครั้ง สกุลเงินที่ทำผลงานได้ดีที่สุดเมื่อวานนี้คือปอนด์เพราะไม่มีข้อมูลตัวเลขจากฝั่งสหราชอาณาจักรออกมาเลย ทิศทางของกราฟจึงขึ้นอยู่กับสกุลเงินดอลลาร์เพียงอย่างเดียวแต่ก็อย่างที่เห็นว่าแท่งเทียนเมื่อวานนี้สามารถปิดเป็นบวกได้
เมื่อไหร่ก็ตามที่มีข่าวดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ - จีน สกุลเงินที่มักจะปรับตัวขึ้นตามมาด้วยก็มักจะหนีไม่พ้นออสเตรเลียดอลลาร์ นิวซีแลนด์ดอลลาร์และแคนาดาดอลลาร์ แต่ถึงอย่างนั้นนักลงทุนยังไม่ยอมคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เมืองโอ๊คแลนด์หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของนิวซีแลนด์ออกมาเตือนว่าการล็อคดาวน์ที่นั่นทำให้นิวซีแลนด์สูญเงินประมาณ 500 ล้านนิวซีแลนด์ดอลลาร์ต่อสัปดาห์และส่งผลต่อตัวเลข GDP ของประเทศด้วย รายงานตัวเลขดุลบัญชีการค้าของนิวซีแลนด์ที่ออกมาเมื่อเช้านี้ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์แต่จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้วแม้สกุลเงินทั้งสามจะถือว่าขึ้นมามากแล้วแต่ตราบใดที่ตลาดหุ้นยังสามารถเติบโตต่อไปได้ก็มียังมีโอกาสให้ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และแคนาดาดอลลาร์สามารถกลับขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบหลายปีได้อีกครั้ง