โมโน เทคโนโลยี (BK:MONO)
Event
บริษัทให้ข้อมูล 2H63 ผลประกอบการจะฟื้นตัวดีจากครึ่งปีแรก โดย 1) ธุรกิจทีวีดิจิทัล เริ่มมีลุกค้ากลับมาใช้งบโฆษณามากขึ้น 2) ส่วนของ Monomax ช่วง COVID-19 มียอดสมาชิก เติบโตได้ดีครึ่งปีหลังคาดยังปรับเพิ่มต่อเนื่อง 3) Online ad และกิจกรรมออนไลน์ต่าง ๆ (activation) บริษัทฯ สามารถดำเนินการจัดกิจกรรมได้ตามปกติจะส่งผลดีต่อรายได้ให้กับ ทาง MONO 4) ธุรกิจ Shopping นอกจากการจัดช็อปปิ้งอยู่บนรายการของ MONO29แล้ว ยังมองถึงการร่วมมือการท ารายการดังกล่าวไปยัง 3BBTV ด้วย และจากการที่3BB เตรียมที่ จะประกาศเปิดตัว 3BBTV ในไตรมาส 4/63ซึ่งจะมาในรูปแบบของกล่องเคเบิลทีวีที่มี ฟังก์ชันปฏิสัมพันธ์ในโหมดซื้อของ พูดคุยผ่านทีวีได้เป็นต้น ก็จะส่งผลดีต่อบริษัทฯ
ธุรกิจหลักทีวีดิจิทัล MONO29 ในปี นี้บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายเรทติ้งเป็นอันดับที่ 3 ใน ประเทศไทย โดยปรับรายการข่าวให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทำให้โมโนมีความแข็งแรงทั้งช่วง ข่าวและภาพยนตร์Monomax ในเดือนมี.ค.63 มียอดผู้ใช้งานเติบโตเป็น 3.5แสนราย โดยปี นี้ตั้งเป้ามีสมาชิกเพิ่มเป็น 4แสนราย จากปีก่อนอยู่ที่3.3 หมื่นราย ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะ สามารถทำได้ส่วนหนึ่งมากจาก Monomax ได้เข้าไปอยู่ในแพ็คเกจของ 3BB
บริษัท คาดรายได้ปี63 ปรับตัวลดลง 4-20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่2,184 ล้านบาท โดย ประเมินทิศทางรายได้ไว้ใน 2 กรณีได้แก่ กรณีworst case คาดว่าจะลดลง 20% เป็น หาก การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 รุนแรงขึ้นในครึ่งหลังปี นี้ก็อาจกระทบกับรายได้ค่า โฆษณาให้ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่หากสถานการณ์ไม่ได้รุนแรง และสามารถ ควบคุมได้เหมือนในปัจจุบันนี้คาดว่าเอเจนซี่หลายรายจะออกมาใช้จ่ายด้านโฆษณามากขึ้น ทำให้กรณีที่ดีที่สุด (best case) รายได้จะลดลง4%
สัดส่วนรายได้ในกรณีworst case ในปี63 จะมาจากธุรกิจทีวีดิจิทัลเป็นหลัก ที่ 69%, Monomax 19%, Online ad & activation 6% ที่เหลือจะเป็น Shopping และอื่นๆ
กลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯ จะมุ่งเน้นในเรื่องของการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้รัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการลดต้นทุนการผลิตภาพยนตร์และซีรี่ย์คาดว่าจะ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายราว 400 ล้านบาทต่อปี
Our Take
แนวโน้ม 2H63 คาดสถานการณ์ COVID-19 จะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก หลังรัฐบาลเริ่มผ่อนปรน มาตรการLockdown ทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสกลับมาใช้งบโฆษณามากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะในเรื่องของการลดต้นทุนการผลิต ภาพยนตร์และซีรี่ย์อย่างไรก็ตามเทียบปีก่อนเรามองว่าผลประกอบการยังปรับลดลง YoY โดยปี2563เราคาดรายได้ปรับลดลง 34%YoY อยู่ที่ 1,420 ล้านบาท (ต่ำกว่าเป้าที่บริษัทให้ ไว้ที่คาดติดลบ 4-20%) และมีผลขาดทุนสุทธิที่ 808 ล้านบาท
เราแนะนำ “ขาย” แม้มองว่าผลประกอบการจะผ่านจุดแย่สุดไปแล้ว แต่ยังคาดว่าผล ประกอบการยังมีผลขาดทุนในปี 63 -64 ขณะที่ยังมีผลขาดทุนสะสม อยู่ที่ราว 2.4 พันล้าน บาท ซึ่งเรามองว่าต้องใช้เวลามากกว่า 2 ปี ในการล้างขาดทุนสะสม เรามีการปรับไปใช้ มูลค่าพื้นฐานเป็นปี 2564 ที่ 2.20 บาท อิงวิธี DCF ที่ส่วนลด WACC เท่ากับ 7.5%
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities