โดยปกติแล้วรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (FED) มักจะออกหลังจากการประชุมของคณะกรรมนโยบายทางการเงิน (FOMC) เป็นเวลา 3 สัปดาห์เพื่อแสดงความเห็นของ FOMC ที่มีต่อการประกาศอัตราดอกเบี้ยรายเดือนของธนาคารกลาง
ในรายงานการประชุมจะมีข้อมูลที่เจาะจงไปยังความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจโดยเฉพาะซึ่งจะเป็นข้อมูลความเห็นของผู้ว่าการธนาคารกลางของในแต่ละรัฐโดยไม่เปิดเผยชื่อ นอกจากนี้จะพูดถึงนโยบายที่มีการดำเนินการไปแล้วและประเมินผลที่เกิดขึ้นและที่สำคัญที่สุดคือการเปิดเผยความเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันมีนายเจอโรม พาวเวลล์ดำรงตำแหน่งอยู่ หัวข้อสำคัญที่จะพูดถึงในคืนนี้แน่นอนว่าย่อมหนีไม่พ้นผลกระทบจากโควิดที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประเมินมาจนถึงวันที่ 28-29 กรกฎาคมและนักลงทุนที่ไม่ว่าจะอยู่ในตลาดฟอเร็กซ์ ตลาดหุ้นหรือสินค้าโภคภัณฑ์ต่างต้องเผชิญความเสี่ยงที่กำลังจะเกิดในคืนนี้
การประชุมเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในวันที่ 16 กันยายนซึ่งจากตอนนี้ไปจนถึงตอนนั้นผู้ว่าการธนาคารกลางแต่ละรัฐจะแสดงความเห็นที่มีต่อเศรษฐกิจในมิติต่างๆ เช่นการจ้างงาน อัตราเงินเฟ้อ แต่สิ่งที่ทำให้รายงานการประชุมในครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งอื่นๆ ตรงที่รายงานรอบนี้จะมีผลกระทบต่อการขึ้นต่อหรือร่วงลงของราคาทองคำที่ตอนนี้นับได้ว่าวิ่งรอผลการประชุมอยู่ที่หน้าด่าน $2000
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กสามารถทะลุ $2,020 ต่อออนซ์ได้เป็นครั้งแรกของสัปดาห์ก่อนที่มาตรวัดหลักของตลาดทองคำตัวหนึ่งอย่างราคาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนธันวาคมบนตลาด COMEX จะวิ่งขึ้น $14.40 คิดเป็น 0.7% และมีราคาอยู่ที่ $2,013.70 นี่คือการฟื้นตัวที่เร็วมากหลังจากที่เกิดวันอังคารทมิฬขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่พาทองคำลงไป $92 ได้ภายในวันเดียวจากราคา $2,040.50 ลงไปยังจุดต่ำสุด $1,911.30
ถึงกระนั้นการฟื้นตัวของทองคำเมื่อวานนี้ไม่ได้มีความผันผวนมากนัก ราคาทองคำล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคมเพียงแค่ร่วงลง $35 มีจุดต่ำสุดอยู่ที่ $1,985.20 ซึ่งส่งผลมาถึงตลาดลงทนฝั่งเอเชียในช่วงเช้าวันนี้ที่เปิดตลาด ณ $1,999.20 ขึ้นมาสร้างจุดสูงสุดที่ $2,015
ราคาทองคำอาจหลุดการชะลอตัวหากเฟดใบ้ว่าอาจล็อคอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาทองคำหยุดปรับตัวขึ้นในตอนนี้นอกจากการรอดูรายงานการประชุมในคืนนี้แล้วยังมีสาเหตุมาจากการดีดตัวกลับขึ้นมาเล็กน้อยของดัชนีดอลลาร์สหรัฐและราคาพันธบัตรรัฐบาล อันที่จริงหากพิจารณาจากกราฟแล้วสถานการณ์ของดอลลาร์สหรัฐยังไม่ถือว่าวางใจได้ เมื่อวานนี้ดัชนีลงไปสร้างจุดต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เอาไว้ที่ 92.11 มีราคาปิดอยู่ที่ 92.26 เท่านั้น
นาย Dhwani Mehta นักวิเคราะห์จาก FXStreet วิเคราะห์ว่า “ราคาทองคำอาจสานต่อความร้อนแรงในขาขึ้นได้หากว่ารายงานการประชุมของเฟดวันนี้พวกเขาตัดสินใจที่จะล็อคอัตราดอกเบี้ยในระยะยาวหรือแสดงความเป็นกังวลต่อเศรษฐกิจในระยะยาวออกมา”
ทางด้านของตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกราฟราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวลดลง 3% ใน 2 วันล่าสุดและในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่กราฟพันธบัตรฯ อายุ 10 ปีก็ลงไปอีกแล้ว 1.7%
อย่างไรก็ตามการกลับขึ้นมาได้เล็กน้อยของดอลลาร์ก็พอที่จะทำให้กราฟ USD/CHF หยุดปรับตัวลดลงและกราฟ EUR/USD หยุดวิ่งขึ้นไปยัง 1.20 ได้ในขณะที่กำลังเขียนบทความ สำนักข่าวรอยเตอร์มีรายงานจากคนในทำเนียบขาวอาวุโสท่านหนึ่งว่าระหว่างรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์กับพรรคเดโมแครตที่ยังเถียงกันไม่จบไม่สิ้นถึงตัวเลขที่แน่นอนของโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจรอบที่ 2 ท้ายที่สุดแล้วอาจจะตกลงกันได้ที่ $500 ล้านเหรียญสหรัฐ เชื่อว่าทันทีที่ประกาศโครงการนี้ออกมาอย่างเป็นทางการจะสามารถช่วยกอบกู้สถานการณ์สุดวิกฤตของดัชนีดอลลาร์สหรัฐได้
นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวว่า “ยิ่งยืดระยะเวลาการออกกฎหมายนี้ไปนานเท่าไหร่ นักลงทุนในตลาดก็มีแต่จะกังวลมากขึ้นและมากขึ้น ทางเดียวที่จะช่วยกอบกู้สถานการณ์ของดอลลาร์ขึ้นมาได้คือทรัมป์กับเดโมแครตต้องเอาประโยชน์ของคนในชาติมาเป็นที่ตั้งก่อนการเล่นเกมทางการเมือง การที่ทรัมป์จงใจเอาคืนเดโมแครตในเรื่องของการส่งคะแนนโหวตผ่านจดหมายยิ่งเป็นการทำให้ดอลลาร์แย่ลง”
ภาพรวมของทองคำยังอยู่ในขาขึ้นเมื่อเทียบกับการความเห็นของเฟดในคืนนี้
เพราะภาพรวมของดอลลาร์สหรัฐและราคาพันธบัตรรัฐบาลยังอยู่ในขาลง นักลงทุนจึงยังต้องวิ่งเข้าหาทองคำ ดังนั้นจึงเกิดคำถามที่ว่า “ถ้ายังไงทองคำก็จะวิ่งขึ้นแล้วรายงานการประชุมของเฟดในคืนนี้จะสำคัญอย่างไร?” นักวิเคราะห์จาก OANDA บอกว่า “เฟดในตอนนี้ยังไม่ได้ใช้ท่าไม้ตายออกมาทั้งหมด การที่พวกเขายังเลือกคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ใกล้ 0% ทั้งๆ ที่ประเทศกำลังผ่านวิกฤตโควิดหนักขนาดนี้แปลว่าเฟดยังเชื่อว่าทุกอย่างยังสามารถจัดการควบคุมได้”
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าก่อนหน้านี้เฟดได้ย้ำมาตลอดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยขึ้นจากระดับเกือบ 0% ไปจนกว่าอย่างน้อยสหรัฐอเมริกาสามารถฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ไปได้และเฟดยังได้โยกเงินล้านล้านเหรียญของตัวเองภายใต้ชื่อที่ทุกคนคุ้นกันว่า “QE ไม่จำกัด” ออกไปช่วยอุดรอยรั่วทางเศรษฐกิจเอาไว้ก่อน สิ่งที่นักลงทุนอยากรู้มากที่สุดในรายงานผลการประชุมคืนนี้คือเฟดจะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหรือไม่หลังจากได้่เห็นแล้วว่าไตรมาสที่ 1 เศรษฐกิจหดตัว 5% และไตรมาสที่ 2 หดตัวมากถึง 33% ทำสถิติการถดถอยทางเศรษฐกิจที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไปเรียบร้อย
ความหวังเดียวที่เฟดมีในตอนนี้คือตัวเลขการจ้างงานที่ล่าสุดจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสามารถลดต่ำกว่า 1 ล้านคนได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดในสหรัฐและการเพิ่มขึ้นของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร 10 ล้านคนภายในช่วง 3 เดือนล่าสุดทั้งที่ก่อนหน้านี้มีคนตกงานรวมแล้วมากถึง 21 ล้านคน มุมมองของเฟดที่มีต่อการฟื้นตัวของตัวเลขการจ้างงานคือความหวังเดียวของรายงานการประชุมในค่ำคืนนี้
UBS เชื่อทองขึ้นถึง $2,300 เป็นไปได้ในเวลาอันใกล้
สำหรับทองคำแล้วการกลับขึ้นไปยืนเหนือ $2000 ไม่ใช่เรื่องยากเลย ยิ่งเราได้เห็นการวิ่งกลับขึ้นมาภายใน 2 วันและยังสามารถขึ้นไปยืนเหนือ $2000 ได้ระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะวิ่งกลับลงมา นี่คือการส่งสัญญาณไปยังตลาดหมีว่าขาขึ้นจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้อยู่ที่ว่าตลาดกระทิงจะเริ่มบรรเลงกลองรบเมื่อไหร่เท่านั้น ที่สำคัญระยะทางจาก $2000 ขึ้นไปยังจุดสูงสุดเดิมที่ $2,090 ของวันที่ 7 สิงหาคมไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อม
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางคนบอกว่าจากจุดสูงสุดตลอดกาลขึ้นไปยัง $2,100 นั้นกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะในระหว่างการเดินทางสู่ดินแดนใหม่ที่ราคาทองคำไม่เคยไปจะมีทั้งความกลัวและความกล้าต่อสู้กันขึ้นไปตลอดทาง แต่นักวิเคราะห์จาก UBS กลับเห็นต่างออกไปว่า “เป้า $2,300 คืออะไรที่เป็นไปได้เมื่อเรายังเห็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจที่ยังไม่จบอย่างเช่นปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีน”
นาย Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์ตลาดแร่โลหะอิสระวิเคราะห์ว่า “เมื่อไหร่ที่ราคาทองคำสปอตสามารถยืนเหนือ $2,000 ได้เป็นเรื่องปกติโดยมีแนวรับเพื่อสวิงลงมาไม่เกิน $1,975-$1,967 โอกาสที่ทองคำจะขึ้นไปยัง $2,029-$2,039 ไม่ใช่เรื่องยากเลย ยิ่งกว่านั้นหากมีแรงหนุนที่มากพอทองคำสปอตอาจขึ้นถึง $2,075 เลยก็เป็นได้”