เมื่อคืนดัชนี Dow Jones ปิดที่ 27,778.07 จุด ลดลง 66.84 จุด หรือ -0.24% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,389.78 จุด เพิ่มขึ้น 7.79 จุด หรือ +0.23% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,210.84 จุด เพิ่มขึ้น 81.11 จุด หรือ +0.73%
กลายเป็นว่าเปิดสัปดาห์นี้มา 2 วันทำการ ดัชนี Dow Jones ปรับตัวลง 2 วันติด สวนทาง S&P500 และ NASDAQ ที่มุ่งหน้าทำ All Time High สาเหตุเพราะราคาหุ้นทั้ง 2 ดัชนีปรับตัวบวกรับผลประกอบการไตรมาส 2/2020 ที่ยังทยอยออกมาและดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเจ้าใหญ่ๆตัวเดิมๆที่เราคุ้นชื่อกัน อย่าง Facebook, Apple (NASDAQ:AAPL), Alphabet, Microsoft และ Tesla (NASDAQ:TSLA)
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ที่แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจค่อยๆทยอยกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ก็คือ การที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงาน ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 22.6% สู่ 1.496 ล้านหลัง โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.22 ล้านหลังในเดือนมิ.ย. และเพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.24 ล้านหลัง
ขณะที่ราคาทอง Gold Futures ปรับขึ้นยืนเหนือ $2,000 อีกครั้งเมื่อคืน เป็นผลจากการที่ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าต่อเนื่อง (เมื่อมองผ่าน Dollar Index) โดย US Dollar Indexตอนนี้ทำจุดต่ำสุดในรอบมากกว่า 2 ปี ลงมาอยู่ที่ 92.10 จุด
และที่ดอลล่าร์อ่อนค่า เพราะนักลงทุนเทขายและเลือกที่จะไปถือสินทรัพย์เสี่ยงอย่างอื่นแทนมากกว่า
ที่อยากไปถือสินทรัพย์อื่นมากกว่า เพราะ Real Yield ติดลบ บวกกับ ความไม่ชัดเจนของเฟดว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม หรือ กลับมาขยายงบดุลอีกรอบเมื่อใดในยามที่เศรษฐกิจดูจะฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 3/2020 นี้ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนว่าจะมีมาตรการตอบโต้ๆกับไปมาในทิศทางใด
โดยสรุป เรายังอยู่ในภาวะ Risk On ที่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นและทองคำ ยังมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
แต่ก็อย่าประมาทนะครับ เพราะ เราอยู่ในโลกที่สภาพคล่องมันล้น และตลาดพร้อมเปลี่ยน Momentum ได้ตลอด
Mr.Messenger รายงาน
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ครั้งแรกบนเพจ MrMessengerDiary