รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

Home Depot และ Walmart อาจแสดงตัวเลขกำไรขายปลีกที่ยอดเยี่ยมท่ามกลางวิกฤตโรคระบาด

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 17/08/2563 18:28
US500
-
AMZN
-
WMT
-
HD
-

การมาถึงของไวรัสโรคระบาดที่มีความสามารถในการแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็วทำให้มนุษยชาติจำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตในหลายๆ ด้านเช่นการลดกิจกรรมที่ต้องรวมกันเป็นกลุ่มและอยู่กันแบบตัวใครตัวมันมากขึ้นซึ่งรวมไปถึงการออกจากบ้านไปยังห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นแนวโน้มของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปก็สร้างประโยชน์ให้กับบริษัทผู้ค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ในสัปดาห์นี้จะมีรายงานผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ 2 แห่งซึ่งเราจะมาดูข้อมูลเชิงลึกกันว่าพวกเขามีความพร้อมทางด้านการเงินมากแค่ไหนก่อนการรายงานผลประกอบการจะมาถึง

1. Home Depot

ร้านค้าที่ขายวัสดุปรับปรุงบ้านขนาดใหญ่ Home Depot (NYSE:HD) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2020 ในวันอังคารที่ 18 สิงหาคมก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นจะมีตัวเลขอยู่ที่ $3.6 ส่วนตัวเลขกำไรรวมทั้งหมดจะมีตัวเลขอยู่ที่ $34,080 ล้านเหรียญสหรัฐHD Weekly TTM

ในปี 2020 บริษัท Home Depot มีตัวเลขผลกำไรที่ดีขึ้นเนื่องจากการอยู่บ้านของประชาชนชาวอเมริกันทำให้พวกเขาหันมาใช้เงินมากขึ้นกับการปรับปรุงบ้านตกแต่งพื้นที่บางส่วนให้รองรับการทำงานจากที่บ้านของพวกเขา ตลอดทั้งปี 2020 หุ้น Home Depot ปรับขึ้นมาแล้ว 30% เมื่อเทียบกับดัชนีหลัก S&P 500 Index ที่ตลอดทั้งปีวิ่งขึ้นมาเพียง 4% หลังจากที่สร้างจุดสูงสุดตลาดกาลไว้ในสัปดาห์ที่แล้วปัจจุบันหุ้นของ Home Depot มีราคาอยู่ที่ $280.55

แนวโน้มการเติบโตของบริษัทที่ดีเช่นนี้เกิดขึ้นหลังจากบริษัทสามารถรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ในเดือนพฤษภาคมได้อย่างน่าประทับใจ ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในขณะที่ตัวเลขการซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่ Home Depot เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าแนวโน้มนี้จะเติบโตขึ้นต่อไปเพราะช่วงโควิดที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าการทำงานในยุคสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องไปรวมตัวกันที่สำนักงานตลอดเวลา ในอนาคตบางบริษัทอาจจะเลือกใช้วิธีการทำงานจากที่บ้านเป็นหลัก

ก่อนหน้าที่โควิด-19 จะระบาดในสหรัฐอเมริกา Home Depot ได้ลงทุนเป็นเงินจำนวน $11,000 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อปรับปรุงร้านค้าปลีกให้มีความทันสมัยมากขึ้นพร้อมทั้งอัปเกรดเพิ่มตัวเลือกให้ผู้บริโภคสามารถซื้อขายผ่านออนไลน์ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ในไตรมาสแรกระบุว่ายอดขายของ Home Depot ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลเติบโตขึ้นประมาณ 80% เนื่องจากผู้บริโภคไม่มีทางเลือกนอกจากต้องซื้อของออนไลน์อยู่ที่บ้าน

ที่สำคัญนักวิเคราะห์ยังมองว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ หลังจากที่โควิด-19 ถูกควบคุมได้แล้วจะมีส่วนช่วยให้ยอดขายของ Home Depot เพิ่มขึ้น การลดอัตราดอกเบี้ยลงมาของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีส่วนช่วยให้ประชาชนอยากเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นซึ่งจะนำไปสู่ความต้องการใช้เงินเพื่อตกแต่งบ้านเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

2. Walmart

บริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา Walmart (NYSE:WMT) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2020 ในช่วงวันและเวลาเดียวกันกับ Home Depot นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นจะมีตัวเลขอยู่ที่ $1.25 ส่วนตัวเลขกำไรรวมทั้งหมดจะมีตัวเลขอยู่ที่ $135,290 ล้านเหรียญสหรัฐ 

ในช่วงเวลาที่ผู้คนจำเป็นต้องอยู่กับบ้านเพิ่มขึ้นและช่องทางการบริโภคก็มีอยู่อย่างจำกัดดูเหมือนว่า Walmart จะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคถามหา การลงทุนในธุรกิจ e-commerce การก้าวเข้าสู่ธุรกิจดูแลสุขภาพและการเพิ่มสิทธิประโยชน์มูลค่า 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับพนักงานของบริษัทคือส่วนผสมที่ทำให้ Walmart สามารถยืนหยัดอยู่ได้แม้ว่าอเมริกาจะต้องประสบกับสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินครั้งใหญ่ในปี 1930WMT Weekly TTM

ด้วยความเชื่อมั่นที่มีต่อโครงสร้างธุรกิจของ Walmart และเชื่อว่าบริษัทจะสามารถรายงานตัวเลขผลประกอบการรายไตรมาสได้ดีทำให้ตลอดทั้งปี 2020 หุ้น Walmart ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 12% มีราคาปิดล่าสุดเมื่อวันศุกร์อยู่ที่ $132.60 

มีรายงานจากสื่อที่เชื่อถือได้ระบุว่าเพราะการระบาดของโควิด-19 ที่เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้เข้าหาโลกออนไลน์มากขึ้นทำให้ Walmart อาจจะเปิดตัวบริการสมาชิก “Walmart+” ออกมาเพื่อสู้กับ Amazon’s Prime จากบริษัทคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Amazon (NASDAQ:AMZN) ในรายงานยังระบุอีกว่า Walmart เห็นความเป็นไปได้ที่ตลาดออนไลน์จะเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากช่วงวิกฤตไวรัสซึ่งการบริการผ่าน Walmart+ จะทำให้ผู้ที่เป็นสมาชิกเข้าถึงสินค้าและส่วนลดที่เป็นสิทธิประโยชน์และอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้อ้างอิงคำพูดจากนักวิเคราะห์ของเครดิต สวิสและนักวิจัยของ Numerator ที่คาดการณ์ว่าเมื่อบริการ Walmart+ เปิดตัวขึ้นพวกเขาจะได้ลูกค้ามาเป็นสมาชิกมากถึง 5 ล้านคนแน่ๆ และอาจมีถึง 20 ล้านคนที่มีแนวโน้มว่าจะสนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิก ในขณะที่คู่แข่งอย่างบริการ Amazon’s Prime มีจำนวนสมาชิกอยู่แล้วมากกว่า 118 ล้านคนอ้างอิงข้อมูลจาก Consumer Intelligence Research Partners (CIRP)

โดยสรุปแล้ว

แม้ว่านักวิเคราะห์จะเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วตัวเลขกำไรของบริษัทผู้ค้าปลีกรายใหญ่ทั้งสองจะออกมาเติบโตขึ้นแต่ทั้งคู่ก็มีปัญหาที่ต้องแบกต้นทุนในการจ้างคนงานด้วยเงินในระดับสูงและยังต้องนำเงินไปลงทุนกับวิธีใดก็ตามที่สามารถปกป้องลูกค้าจากโควิด-19 ได้ ดังนั้นนอกจากตัวเลขยอดขายแล้วสิ่งที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญอีกประเด็นหนึ่งคือความสามารถในการขยายตัวของธุรกิจออนไลน์ของทั้งสองบริษัท

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย