Earnings Results
► (BK:SUPER) รายงานรายได้ใน 2Q63 ที่ 1,593 ลบ. ลดลงเล็กน้อย 5.4%QoQ เนื่องจาก Capacity Factor ของโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ SEE6 ต่ำกว่าที่เราคาดซึ่งเป็นผลจากในช่วง ระยะแรกของการดำเนินงาน และเติบโตเล็กน้อย 0.8%YoY เนื่องจากมีการปรับใช้ มาตรฐานทางบัญชีทางการเงิน 15 (TFRS15) ทำให้รายได้หายไปราว 66 ลบ. ส่งผลให้อัตรา กำไรขั้นต้น (GPM) ลดลงเป็น 51.9% ใน 2Q63 จาก 55.2% ใน 1Q63 และ 54.7% ใน 2Q62
► อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการควบคุมต้นทุนในการบริหารจัดการได้ดีขึ้น ทำให้ SG&A/Sales ลดลงทั้ง QoQ และ YoY เป็น 8.0% ใน 2Q63 จาก 8.9% ใน 1Q63 และ 8.7% ใน 2Q62 ด้านส่วนแบ่งทางกำไรในบริษัทร่วมลดลงเล็กน้อยเป็น 21 ลบ. ใน 2Q63 จาก 25 ลบ. ใน 1Q63 และ 24 ลบ. ใน 1Q63 เพราะขายสัดส่วนการลงทุนในบริษัท IAE ราว 33% ในช่วง ต้นปี 63
► กำไรสุทธิของ SUPER ใน 2Q63 อยู่ที่ 148 ลบ. (-79.4%QoQ, -48.7%YoY) อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 153 ลบ. จากที่กำไรราว 336 ลบ. ใน 1Q63 รวมทั้งผลของการปรับใช้ TFRS 15 อีกราว 66 ลบ. ส่งผลให้กำไรปกติใน 2Q63 ลดลง QoQ แต่ทรงตัว YoY ที่ 358 ลบ. แย่กว่าที่เราคาดที่ 413 ลบ. หรือราว 13%
Our Take
► ผลประกอบการใน 3Q63 คาดที่ 250 ลบ. +/- ชะลอลง QoQ เนื่องจากเป็นช่วง Low season ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และทรงตัว YoY แม้รายได้บางส่วนจะหายไปจาก การโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทยบางส่วนเข้ากองทุน SUPEREIF แต่ก็ได้ ชดเชยจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศเวียดนาม จ านวน 6 โครงการ ประกอบด้วย Phan Lam (37MW), Binh An (50MW), Van Giao 1 (50MW), Van Giao 2 (50MW), Thinh Long (50MW) และ Sinenergy Ning Thuan (50MW)
► ขณะที่กำไรปกติใน 4Q63 มีโอกาสเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี จากการที่กำลังการผลิต โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เวียดนาม อีก 3 โครงการ รวมขนาด 550 MW (490MWe) ที่ จะทยอย SCOD ก่อนกำหนดภายในเดือน ต.ค. 63
► กำไรปกติ 6M63 เท่ากับ 811ลบ. คิดเป็น 50.4% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี เราจึง ยังคงประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2563 ที่ 1,610 ลบ. เติบโตสูงถึง 44.5% ได้แรงหนุนจาก 1) เริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ SEE6 ขนาด 8 MW ซึ่ง COD ไปเมื่อปลายเดือน เม.ษ 63 2) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศเวียดนาม รวม 4 โครงการ รวมขนาดทั้งสิ้น 187 MW เต็มปี ประกอบด้วย Phan Lam (37MW) ซึ่ง COD ไปเมื่อปลาย เดือน พ.ค. 62 และ Binh An (50MW), Van Giao 1 (50MW) และ Van Giao 2 (50) ซึ่งทั้ง 3 โครงการที่เหลือ COD ไปเมื่อปลายเดือน มิ.ย. 62 3) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์ที่ประเทศเวียดนาม โครงการ Thinh Long ขนาด 50 MW ซึ่งเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ 1Q63 ภายหลังการดำเนินการโอนหุ้นเป็นที่เรียบร้อย และ 4) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์ที่ประเทศเวียดนาม โครงการ Sinenergy Ninh Thuan ขนาด 50 MW คาดจะ เริ่มรับรู้รายได้ใน 3Q63 เป็นต้นไป
► เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 1.47 บาทต่อหุ้น มี Upside gain สูงถึง 53.1% มีUpside จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศเวียดนาม โครงการ Loc Ning 4 ขนาด 50 MW ที่เรายังไม่รวมไว้ในประมาณการ ปัจจุบันซื้อขายบน PER2563 - 64 ต่ำ เพียง 16.3x และ 10.2x ตามล าดับ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ระดับ 20x-30x
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities